สั่งเร่งสร้างใหม่ พระพรหม ทักษิณรู้ข่าวถึงอึ้ง

สั่งเร่งสร้างใหม่ พระพรหม ทักษิณรู้ข่าวถึงอึ้ง


เหตุองค์ท้าวมหาพรหม สิ่งสักการะบูชาชื่อดัง ยาวนานเกือบ 50 ปี ถูกทุบเหลือเพียงส่วนล่างที่ติดอยู่กับฐานศาล


เหตุองค์ท้าวมหาพรหม สิ่งสักการะบูชาชื่อดัง แยกราชประสงค์ ถูกหนุ่มคลั่งบุกทุบแตกละเอียด เกิดขึ้นเมื่อ 01.00 น. วันที่ 21 มี.ค. พ.ต.ต.ธนิต รตโอภาส พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.ลุมพินี รับแจ้งมีชายคลุ้มคลั่ง เข้าไปบุกทำลาย เทวรูปท้าวมหาพรหม ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงแรมแกรนด์ ไฮแอทเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ธัชชัยหงษ์ทอง รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผกก. สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุพบภาพอันน่าเศร้าสะเทือนใจ เมื่อองค์ ท้าวมหาพรหมที่เคารพสักการะบูชา ของชาวไทยและชาวต่างชาติมายาวนานเกือบ 50 ปี ถูกทุบเหลือเพียงส่วนล่างที่ติดอยู่กับฐานศาล ส่วนบนตั้งแต่เอวขึ้นไปแตกละเอียดจนเศษปูนปลาสเตอร์ ที่ใช้หล่อองค์เทวรูปกระจายเกลื่อนเต็มพื้น ขณะที่คนร้ายโดนชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์เสียชีวิตคาฟุตปาทหน้าโรงแรม เป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล รองเท้าผ้าใบ สภาพถูกทำร้ายน่วมไปทั้งตัว ไม่มีหลักฐานบ่งบอกว่าเป็นใคร แต่มีรอยสักบริเวณหลังเป็นภาษาอาหรับ และภาษาไทยระบุ อามีน ใกล้ศพยังพบค้อนตอกตะปูยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ 1 ด้าม


เกิดการชุลมุนรุมประชาทัณฑ์หนุ่มเสียสตินิรนามรายนี้จนเสียชีวิตคาที่


สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ได้ความว่า ผู้ตายมีอาการคล้ายคนคลุ้มคลั่งวิ่งข้ามถนนมาจากฝั่ง รพ.ตำรวจ แล้วปีนรั้วเข้าไปในศาลท้าวมหาพรหมดึงค้อนที่เหน็บเอวขึ้นกระหน่ำ ตีองค์เทวรูปจนแตกกระจายต่อหน้าต่อตาผู้ที่ยืนสักการะอยู่ด้านนอกจำนวนมาก ก่อนจะวิ่งปีนรั้วหนี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งตามไปช่วยกันล็อกตัวบริเวณหน้าโรงแรม กระทั่งเกิดการชุลมุนรุมประชาทัณฑ์หนุ่มเสียสตินิรนามรายนี้จนเสียชีวิตคาที่

หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี สามารถจับกุมนายศักดิ์ศรี กลิ่นบัว อายุ 27 ปี และนายเกษมศรี การุณวงษ์ อายุ 42 ปี พนักงานรักษาความสะอาดของสำนักงานเขตปทุมวัน ที่ร่วมกันรุมยำหนุ่มนิรนามเสียชีวิตไปสอบสวนรับสารภาพว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสะอาดอยู่ ได้เห็นผู้ตายปีนรั้วขึ้นไปที่แท่นประทับเทวรูป คว้า ค้อนกระหน่ำตีองค์ท้าวมหาพรหมแตกกระจายแล้วพยายามวิ่งหนี พวกตนจึงวิ่งไล่กวดเอาไม้ถูพื้นและด้ามร่มตี แต่ ผู้ตายยังกระเสือกกระสนหนีไปเจอกลุ่มประชาชนที่เคารพนับถือท้าวมหาพรหม บริเวณนอกรั้วหน้าโรงแรมพอดี เป็นเหตุให้ถูกรุมทำร้ายด้วยความโกรธแค้นจนเสียชีวิต


ป่วยเป็นโรคเครียดตอนอายุ 21 ปี หลังจบโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่วัดเทพลีลา


ขณะเดียวกันมีนายสายันต์ ภักดีผล อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 507 ซอยแสงอุทัยทิพย์ ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง กทม. ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ยืนยันว่าหนุ่มคนดังกล่าวเป็นลูกคนที่ 3 ของตัวเอง ชื่อนายธนากร หรืออามีน ภักดีผล อายุ 26 ปี นับถือศาสนาอิสลาม มีอาการป่วยทางประสาท เป็นโรคเครียดเคยเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลหลายแห่ง อาทิ รพ.ศรีธัญญา รพ.สมเด็จเจ้าพระยา รพ.ตำรวจ และรพ.พระมงกุฎเกล้า แพทย์ต้องให้ยาคลายเครียดและนัดพบทุกเดือน

บิดาของหนุ่มสติแตกลำดับเรื่องราวต่อว่า หากลูกเกิดอาการเครียดจะอาละวาดทำลายสิ่งของเป็นประจำ ทุกครั้งต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง มารับตัวไปส่งโรงพยาบาล กระทั่งเที่ยงคืนก่อนเกิดเหตุลูกเริ่มมีอาการกำเริบพยายามจะก่อเรื่องอีกจึงได้โทรศัพท์แจ้ง 191 ประสาน สน.ดินแดง มารับตัว แต่ลูกชายกลับฉวยโอกาสวิ่งหนีหายไปเสียก่อน ไม่คาดคิดว่าจะรุนแรงถึงขึ้นทุบศาลศักดิ์สิทธิ์ ที่หลายคนนับถือจนพังยับแล้วยังโดนรุมประชาทัณฑ์เสียชีวิต คงไม่ติดใจการตายของลูก แต่รู้สึกสงสาร เพราะป่วยเป็นโรคเครียดตอนอายุ 21 ปี หลังจบโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่วัดเทพลีลา ช่วงก่อนไปเกณฑ์ทหาร กลัวถูกจับได้ใบแดง นับจากนั้นก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงชอบอาละวาดทำลายข้าวของ สำหรับศพคงจะนำไปทำพิธีฝังที่สุเหร่าย่านคลองมหานาคทันที


ขณะที่แม่ค้าดอกไม้ธูปเทียน และคนไทยอีกหลายคน จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา ด้วยอารมณ์เคียดแค้น


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ บริเวณศาลท้าวมหาพรหมในตอนสาย ยังคงมีบรรดาชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางไปกราบไหว้ นำดอกไม้มาบูชาสักการะ และทำพิธีแก้บน กันอย่างเนืองแน่นเช่นเคย แม้เจ้าหน้าที่มูลนิธิทุน ท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณจะนำผ้าขาว ไปกางรอบศาลปกปิดภาพอันน่าหดหู่ สะเทือนใจแก่ผู้พบเห็นก็ตาม นักท่องเที่ยวบางรายเมื่อทราบข่าว ถึงกับน้ำตาคลอ เหมือนถูกทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุเลวร้าย กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพนับถือเสียหายถึงเพียงนี้ ขณะที่แม่ค้าดอกไม้ธูปเทียน และคนไทยอีกหลายคน จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา ด้วยอารมณ์เคียดแค้นพากันเชื่อว่า การจบชีวิตของหนุ่มคลั่งน่าเกิดจากการไปลบหลู่ ทำลายเทวรูปท้าวมหาพรหมมากกว่าโดนรุมประชาทัณฑ์

กระทั่งเวลา 11.00 น. นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา และผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 20 คน ได้เดินทางไปตรวจดูความเสียหายขององค์ท้าวมหาพรหม ก่อนร่วมกันประชุมวางแนวทางดำเนินการบูรณะใหม่ จากนั้น นายสุรเกียรติ์เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีความเห็นจะเชิญพรหมณ์ราชครู มาทำพิธีอัญเชิญชิ้นส่วนขององค์ท้าวมหาพรหมไปบูรณะ โดยให้เก็บส่วนของเทวรูปที่เหลืออยู่ไว้มากที่สุด เช่น พระพักตร์ พระเศียร ศาสตราวุธ และขอให้มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมนำรูปถ่ายองค์ สมบูรณ์มาตั้งแทนก่อนเพื่อให้ประชาชนเข้าสักการะได้ตามปกติ สำหรับการบูรณะ ได้มอบหมายให้ประติมากรและผู้เชี่ยวชาญของกรมศิลปากรเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 เดือน หล่อองค์พระพรหมขึ้นใหม่เป็นโลหะขนาดเท่าองค์เดิม พร้อมทั้งบรรจุชิ้นส่วนที่เสียหายจากองค์เดิมเข้าไปในองค์ที่หล่อใหม่ด้วย


นำชิ้นส่วนไปบรรจุเทวรูปหล่อองค์ใหม่ เนื่องจากอณูชิ้นส่วนเดิมเป็นพรที่ศักดิ์สิทธิ์


นายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรจะเร่งดำเนินการบูรณะอย่างเร่งด่วน ตามแนวทางในที่ประชุมที่ต้องการบูรณะหล่อด้วยโลหะปิดทอง ซึ่งจะมีความคงทนถาวรมากกว่าของเดิม ต้องคงขนาด ลักษณะ ขององค์เดิมเอาไว้ รวมทั้งจะให้เพิ่มความสูงของรั้วที่กั้น และตัวฐานของศาล คาดว่าจะดำเนินการเสร็จได้ภายใน 2 เดือน ส่วนงบประมาณในการดำเนินการนั้น ทางมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

ต่อมา พระราชครูวามเทพมุนี พร้อมคุณหญิงณัฐธิกา อังอุบลกุล และนางพนิดา เทพกาญจนา ผู้บริหารโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ได้ร่วมกันทำพิธีบวงสรวงและสมากรรมขออนุญาตอัญเชิญ ชิ้นส่วนที่ชำรุดของท้าวมหาพรหมไปถอดแบบหล่อใหม่ โดยมีประชาชนเดินทางไปร่วมพิธีจำนวนมาก หลังเสร็จพิธี พระราชครูวามเทพมุนีเปิดเผยว่า เหตุที่สมควรนำชิ้นส่วนไปบรรจุเทวรูปหล่อองค์ใหม่ เนื่องจากอณูชิ้นส่วนเดิมเป็นพรที่ศักดิ์สิทธิ์สมควรจะนำไปบรรจุไว้ ประกอบกับองค์เทวรูปเดิม แม้จะถูกทำลายแต่ก็ยังอยู่ในจิตใจของผู้ที่นับถือทุกคน


นายกรัฐมนตรี มีสีหน้าตกใจทันทีที่ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหนุ่มสติแตกทุบเทวรูปท้าวมหาพรหมเสียหาย


ที่โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ต จ.เชียงราย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีสีหน้าตกใจทันทีที่ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหนุ่มสติแตกทุบเทวรูปท้าวมหาพรหมเสียหาย ก่อนตอบข้อซักถามว่า ไม่น่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่เป็นเรื่องของคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต สติไม่ดี คงต้องบูรณะขึ้นใหม่ และจะมอบหมาย ให้กระทรวงวัฒนธรรมเข้าไปดูแลรับผิดชอบ ในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากพระพรหมเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือศรัทธาของประชาชนจำนวนมาก ไม่เช่นนั้นคนจะใจเสียกันหมด

นางจุฑาพร เริงรณอาสา รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ ถูกทุบทำลายว่า ทุกคนช็อกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องสุดวิสัย ส่วนจะส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยวหรือไม่นั้น เท่าที่ตรวจสอบยังมีนักท่องเที่ยวชาวจีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย ที่นิยมไปสักการบูชาท้าวมหาพรหมแห่งนี้เดินทางเข้าประเทศมาตามปกติ

นายแหลมสิงห์ ดิษฐพันธุ์ อายุ 66 ปี อดีตช่างปั้นหล่อของกรมศิลปากร เล่าว่า ในสมัยที่สร้างองค์ท้าวมหาพรหมขึ้นมานั้น มีนายวิชิต เชาวน์สังเกต พ่อตาตน ตำแหน่งหัวหน้าแผนกช่างหล่อ กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร เป็นหัวหน้าช่างปั้น แบบที่วางไว้ครั้งแรกตั้งใจจะสร้างเป็นเนื้อโลหะทองเหลือง มีทั้งหมด 3 ขั้นตอน ใช้เวลาสร้างประมาณ 2 เดือน ขั้นตอนแรกต้องปั้นแบบขึ้นมาจากดินเหนียวก่อน ขั้นตอนที่สองหล่อแบบจากปูนปลาสเตอร์ จนขั้นตอนสุดท้ายถึงหล่อเป็นโลหะทองเหลือง แต่ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิดต้องนำไปทำพิธีบวงสรวงตามฤกษ์ที่กำหนดไว้ ทำให้หล่อเสร็จแค่ขั้นปูนปลาสเตอร์ แล้วนำไปตั้งประดิษฐานเพื่อทำพิธีชั่วคราว และปิดทองคำเปลวจนเหลืองอร่ามสวยงามคล้ายเนื้อโลหะทองเหลือง หลังจากนั้นจะกลับไปหล่อเนื้อโลหะทองเหลืองให้เสร็จแล้ว จะนำมาเปลี่ยนตั้งแทนองค์ปูนปลาสเตอร์ แต่เมื่อบวงสรวงทำพิธีตามศาสนาพราหมณ์ไป ก็เหมือนเป็นพิธีอัญเชิญให้องค์ท้าวมหาพรหมจุติลงมาแล้ว จึงไม่สามารถนำองค์ทองเหลืองมาเปลี่ยนแทนได้ อีกทั้งผู้ที่ศรัทธามากราบไหว้เห็นอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์จำเป็นต้องปล่อยเลยตามเลย

ด้านนายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสฮวงจุ้ยชื่อดัง กล่าวว่า พระพรหมเอราวัณเป็นเทพเจ้าองค์หลักที่ชาวไทยและต่างชาติเคารพนับถือ การที่มีคนสติไม่ดีทุบทำลาย เสมือนเป็นอาเพศอย่างหนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นลางร้ายบอกเหตุว่าจะเกิดอาเพศขึ้นกับบ้านเมือง ความรุนแรงจะทวีมากขึ้นจนน่ากลัว เหมือนเมื่อครั้งสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดวาอารามถูกเผาวอด กรุงศรีอยุธยาแตก เหตุการณ์ลักษณะนี้จะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะบ้านเมืองกำลังอยู่ในช่วงวุ่นวาย ผู้นำควรตัดสินใจบางอย่างเพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ

นายลักษณ์ เรขานิเทศ โหรฟันธงแห่งวงการบันเทิง กล่าวว่า การที่พระพรหมเอราวัณถูกทุบทำลายจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนความสามัคคีของคนในชาติแตกแยก เกิดความวุ่นวาย สิ่งนี้ทางโหราศาสตร์เรียกกันว่าอวมงคลนิมิต หมายถึงการเกิดสิ่งที่ไม่เป็นมงคล บ้านเมืองกำลังอยู่ในภาวะร้ายแรง เป็นสัญญาณบอกเหตุว่ากำลังเกิดอาเพศร้ายแรงต่อบ้านเมือง เทพเทวดาของพราหมณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาเมืองกำลังอ่อนแรงลง ไม่สามารถคุ้มครองบ้านเมืองให้เกิดความปลอดภัย จะมีแต่ความวุ่นวายห้ำหั่นใส่กัน พยาบาทอาฆาตไม่จบสิ้น หนทางแก้คือประชาชนชาวไทยต้องช่วยกันสวดมนต์ปฏิบัติธรรม อุทิศส่วนกุศลให้พระสยามเทวาธิราช เทวดารักษาเมืองทุกๆองค์

สำหรับประวัติท้าวมหาพรหมเอราวัณ เมื่อปี พ.ศ.2498 บริษัทสหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัดที่มี พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เป็นประธานกรรมการ ได้เริ่มการก่อสร้างโรงแรมเอราวัณขึ้น และไปติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ เพื่อหาฤกษ์วันเปิดดำเนินกิจการโรงแรมเอราวัณ ได้รับคำแนะนำว่า การวางศิลาฤกษ์ที่ได้กระทำไว้ไม่ถูก ต้องแก้ไขด้วยการสร้างศาลท้าวมหาพรหมและศาลพระภูมิขึ้น มีนายจิตร พิมพ์โกวิท ช่างกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร เป็นผู้ออกแบบและอัญเชิญนำมาประดิษฐานที่โรงแรมเอราวัณ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2499 ทำให้ทุก วันที่ 9 พ.ย. ของทุกปีจะมีพิธีบวงสรวงเทวสถานแห่งนี้เป็นประจำ และกลายเป็นแหล่งเคารพสักการบูชาของชาวไทย และชาวต่างประเทศที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งใจกลางกรุง

ส่วนสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานเหตุการณ์ องค์ท้าวมหาพรหมเอราวัณถูกทำลายไปทั่วโลก โดยระบุ ว่า นายธนากร ภักดีผล อายุ 26 ปี ใช้ค้อนทุบทำลายจน แตกละเอียด สร้างความตกใจให้แก่พ่อค้าแม่ค้าและผู้เห็น เหตุการณ์ที่อยู่แถวนั้นถึงขั้นกรูเข้าทุบตีนายธนากรจนเสียชีวิต ทราบภายหลังว่าเป็นคนที่สติไม่ดี และมีประวัติการเข้าออกโรงพยาบาลผู้ป่วยทางจิตอยู่บ่อยครั้ง ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมพนักงานทำความสะอาดได้ 2 คน ที่คาดว่ามีส่วนทำร้ายนายธนากรเสียชีวิต หลังเกิดเหตุยังมีประชาชนนำพวงมาลัยและดอกไม้ไปสักการะบูชา นอกจากนี้ สำนักข่าวต่างประเทศยังรายงานด้วยว่า หมอดูผู้ใกล้ชิดครอบครัวชินวัตรระบุว่า เป็นลางบอกเหตุ จะเกิดการนองเลือดขึ้นในประเทศ หากนายกรัฐมนตรีไม่ ยอมลาออกก่อนวันที่ 29 มี.ค. และได้กล่าวถึงการเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ว่า จะเป็นวันแห่งภัยพิบัติ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์