ฟันธงยุบสภา


โหร คมช.ทำนายปีนี้'สภาสูง'แตกโพละ!

"โหรวารินทร์"ทำนายยุบสภาภายในปีนี้ ขณะที่สภาสูงเริ่มระอุ 2 ก๊กแบ่งพวกประลองกำลัง"เกชา"ปัดกดดันถอด ปธ.วุฒิฯ รับสภาพ ส.ว.แตกเป็น 2 ฝ่าย “นิคม” ยันต่อสายเคลียร์ประธานวุฒิลงตัวกล่าว ขอโทษสยบปัญหา ลั่นเดินหน้าตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย “อภิสิทธิ์” วอนรัฐบาลพับเก็บแก้ รธน. เชื้อความขัดแย้งลามถึงสภาสูงแตกแยก “สุขุมพงศ์” ไม่สน ส.ว.แบ่ง 2 ก๊ก มั่นใจเสียงพออุ้มกระบวนการตั้ง ส.ส.ร.3 ฝ่าย “กรณ์” ส่ง จ.ม.วอน “แม้ว” ยุติความเคลื่อนไหววางมือเพื่อให้บ้านเมืองสงบ เตรียมร้อง ป.ป.ช. ลงดาบอัยการสูงสุดปกป้องคดีเอสซีแอส เสท “หล่อเล็ก” พร้อมแจงคดีรถดับเพลิงฉาว

“นิคม” ยันเคลียร์ ปธ.วุฒิจบ

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา เปิดเผยถึงกระแสข่าวจะถูกดันให้นั่งเก้าอี้ประธานวุฒิสภาว่า หลังจากการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้โทรศัพท์มาคุยกับตนเพื่อเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ได้ขอโทษนายประสพสุขพร้อมทั้งอธิบายปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม 40 ส.ว.ที่มีเป้าหมายเล่นงานตนหนัก จึงต้องอธิบายให้สังคมทราบว่าที่เข้ามาเพราะต้องการเห็นทางออกของการเมือง เนื่องจากไม่เห็นวิธีไหนที่จะแก้ปัญหาได้ ตนเป็น ข้าราชการมาค่อนชีวิตรู้จักระบบบริหารดี เมื่อประธานมอบหมายให้ตนในฐานะรองประธานก็คงไปทำหน้าที่ ซึ่งประธานวุฒิสภาก็เข้าใจดี

นายนิคม กล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าจะมีการล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนประธานวุฒิสภาและดันตนให้เป็นประธานแทนนั้นเป็นเพียงข่าวลือ ประธานวุฒิสภาเพิ่งนั่งในตำแหน่ง ได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น และเมื่อครบ 1 ปี ท่านก็เปิดให้มีการประเมินผลงานของตนเอง ขอยืนยันว่า ตนไม่ต้องการเป็นประธานวุฒิสภา การที่ 64 ส.ว.ลงชื่อนั้นไม่เกี่ยวกัน เพียงแต่จะแสดงจุดยืนสงวนสิทธิเห็นด้วยกับการแก้ไขหรือไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เท่านั้น และให้รู้ว่าการที่ อยู่เฉย ๆ ไม่ใช่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่ม 40 ส.ว.

กลุ่ม 24 ต.ค. ปัดกดดันหนัก

นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี แกนนำกลุ่ม 24 ต.ค. กล่าวปฏิเสธการเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนตัวประธานวุฒิสภาว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง การเคลื่อนไหวของกลุ่ม 24 ต.ค.ที่มี ส.ว.มาร่วมลงชื่อถึง 64 คน เพราะต้องการสงวนสิทธิของตนเอง ไม่เกี่ยวกับการจะไปถอดถอนประธานวุฒิสภาแต่อย่างใด เพียงแต่หลายคนอยากถามถึงจุดยืนของประธานวุฒิสภาเท่านั้นในการทำหน้าที่ ในฐานะผู้นำองค์กรต้องมีความชัดเจน เพราะเมื่อกลุ่ม 40 ส.ว.ออกมาเคลื่อนไหวท่าทีของประธานก็เปลี่ยนไป

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีความชัดเจนแล้วว่า ส.ว.แตกออกเป็น 2 กลุ่ม นายเกชา กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำงานของ ส.ว. บางกลุ่มก็ไม่ตรงกันอยู่แล้ว ประชาชนคงตัดสินใจได้ว่า กลุ่มใดมีความเป็นกลางมากกว่า เมื่อถามย้ำว่า จะมีการเคลียร์ปัญหากันหรือไม่ นายเกชา กล่าวว่า ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ แต่ไม่ได้ปิดประตูตาย ขณะนี้ ส.ว.กลุ่มที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 กำลังลงชื่อเพื่อยื่นเสนอให้ มีการแก้ไขมาตราดังกล่าว โดยรวบรวมได้แล้วประมาณ 50 คน

“มาร์ค”ชี้ขัดแย้งลามสภาสูง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมรัฐสภาในวันอังคารที่ 28 ต.ค. ที่จะมีการพิจารณาปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาและการหาทางออกเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีร่างของคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) รวมอยู่ด้วยว่า ตนเห็นแต่ร่างของ คปพร.ในส่วนของร่างที่จะเสนอเรื่อง ส.ส.ร.นั้นยังไม่เห็นในระเบียบวาระวันอังคารนี้ คิดว่าคงยังไม่มีการหารือในเรื่องดังกล่าวเพราะยังไม่เห็นร่างเลย ต้องถามรัฐบาลว่าจุดมุ่งหมายคืออะไร เพราะเดิมที่ประชุม 4 ฝ่าย คุยกันเรื่อง ส.ส.ร. เพราะคิดว่าในขณะนั้นทุกฝ่ายน่าจะมาคุยกันและเห็นเรื่องนี้เป็นทางออก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเรื่องนี้นอกจากจะไม่เป็นทางออกแล้วยังเป็นปมความขัดแย้งด้วย ล่าสุดก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในวุฒิสภา คำถามก็คือว่าเราต้องการทำอะไรที่จะเห็นความขัดแย้งเพิ่มเติมหรือ และถ้ารัฐบาลตั้งใจว่าอยากจะให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยตนคิดว่าควรจะพักเรื่องนี้ไว้ก่อน พรรคเคยบอกแล้วว่าถ้าไม่มีการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ฝ่ายต่าง ๆ หันหน้าเข้าหากันได้ ตอนนี้มีการเติมเชื้อไฟมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งถ้าหากประกาศยอมรับการตัดสินของศาลก็จะช่วยให้บ้านเมืองสงบลงได้มาก ดีกว่าที่จะดึงศาลและดึงกลุ่มอื่น ๆ เข้ามาสู่ความขัดแย้งด้วย

ไม่สนส.ว.แตกโหวตรธน.

ด้านนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะคณะกรรมการดำเนินการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.291 กล่าวแสดงความมั่นใจว่า กระบวนการตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแล้วเสร็จ โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นหลักประกัน สำหรับเรื่องคะแนนเสียงทั้งการเข้าชื่อเสนอญัตติและขั้นรับหลักการ ในส่วน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทุกพรรคก็ให้การรับรองแล้ว

นายสุขุมพงศ์ ระบุต่ออีกว่า สำหรับส.ว.แม้จะมีความเห็นแยกออกเป็น 2 ฝ่ายแต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อขั้นรับหลักการ เพราะกำหนดให้ใช้เสียงแค่ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา เสียงที่เรามีอยู่ก็น่าจะเกินพอ อย่างไรก็ดี กรณีกลุ่มผู้ประท้วงจะประท้วงก็ประท้วงไป ไม่เกี่ยวกับการตั้ง ส.ส.ร. และไม่มีใครจะละเมิดรัฐธรรมนูญได้

“กรณ์”ส่งจ.ม.วอน“แม้ว”ถอย

ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งจดหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยมีใจความเริ่มต้นว่า “เราไม่ได้พูดคุยกันมานานแล้ว แต่ผมรู้สึกจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงท่าน หลังจากที่ได้เห็นจดหมายเปิดผนึกที่ท่านเขียนถึงเพื่อนของท่านผ่านสื่อมวลชนนานาชาติ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ผมพอเข้าใจได้ว่าเนื่องจากท่านเลือกที่จะไม่เผชิญหน้ากับคดีทั้งหลาย ที่ท่านโดนกล่าวหาในประเทศไทย อีกทั้งกำลังดำเนินการขอลี้ภัยในประเทศสหราชอาณาจักร ท่านจึงเขียนจดหมายในลักษณะนั้น ถึงแม้ว่ามันเป็นเรื่องน่าละอายที่ท่านจะเลือกอีกแล้วที่จะทำร้ายประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของท่านเอง เพียงเพื่อจะปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ส่วนตัวของท่าน”

ทั้งนี้เนื้อหาโดยสรุปนั้น เป็นการตอบโต้ข้อสังเกตต่าง ๆ ที่ตั้งโดยพ.ต.ท.ทักษิณ และพยายามอธิบายให้เข้าใจ พร้อมทั้งเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ยุติความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่จะทำให้สังคมไทยวุ่นวาย โดยข้อความทิ้งท้ายระบุว่า “ผมเชื่อเหลือเกินว่า สถานการณ์จะดีขึ้นอย่างมาก หากท่านปล่อยให้พวกเราจัดการสะสางเรื่องยุ่งเหยิงที่ท่านทิ้งไว้ด้วยตัวของพวกเราเอง”

บุกร้องป.ป.ช.ลงดาบอสส.

นอกจากนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรมว.คลัง (เงา) แถลงถึงกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) มีคำวินิจฉัยไม่ฟ้องในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซีแอสเสท เป็นการวินิจฉัยที่บิดเบือนข้อเท็จจริงว่า กรณีนี้จะปล่อยวางไม่ได้ เพราะที่ผ่านมามีความพยายามทำลายกระบวนการยุติธรรม ซึ่งข้อเท็จจริงคือ ขณะนี้ยังมีกระบวนการที่ฝักใฝ่และปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยสกัดกั้นการรวบรวมเอกสาร และข้อมูลเข้าสู่ชั้นการดำเนินคดี และมีการปกป้องเป็นพิเศษในคดีที่ไปกระทบกับขุมทรัพย์ของอดีตนายกฯ ดังนั้นคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ตนจะยื่นฟ้องการกระทำของสำนักงานอัยการสูงสุดต่อป.ป.ช.ในข้อหาปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 27 ต.ค.นี้ ตนจะยื่นหนังสือทวงความชัดเจนของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ออกมาแสดงจุดยืนในฐานะผู้รับผิดชอบใน พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และจะต้องออกมาหักล้างคำวินิจฉัยของอัยการ สูงสุด หากก.ล.ต.ยังไม่ให้ความชัดเจนในเรื่องนี้ ก็จะยื่นฟ้องต่อป.ป.ช.ดำเนินการฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน

เตรียมสาวไส้เงื่อนงำก.ล.ต.

นายกรณ์ ยังกล่าวว่า ตนจะยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 279 กรณีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งแต่งตั้งโดยครม. สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ เพราะก่อนหน้านี้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่าการตั้งคณะกรรมการสรรหาบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าไม่ชอบด้วยพ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงขอเสนอให้แต่งตั้งใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยในวันจันทร์ที่ 27 ต.ค.นี้ ตนนัดพูดคุยแลกเปลี่ยนประเด็นเรื่องเศรษฐกิจกับนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกฯ จะถือโอกาสยื่นทวงถามด้วยว่าจะดำเนินการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินในเรื่องบอร์ดธปท.อย่างไร

หล่อเล็กพร้อมแจงรถดับเพลิง

จากกรณีที่คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการทุจริตรถดับเพลิง ที่มีนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. เป็นประธาน มีการสรุปสำนวนความผิดเบื้องต้นว่ามีผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 10 คน ซึ่งมากกว่าสำนวนในชั้นที่คตส. สรุปว่ามีความผิดจำนวน 5 คน โดยมีรายชื่อของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. เป็นผู้ที่กระทำความผิดด้วยนั้น นายอภิรักษ์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีปัญหาอะไร ตนมีความพร้อมที่จะเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการป.ป.ช. ขณะนี้ไม่กังวลเพราะที่ผ่านมาเคยชี้แจงกับคณะอนุกรรมการ คตส.มาแล้วหลายครั้งก็ไม่มีปัญหาอะไร และไม่คิดว่าเรื่องดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อการทำงานในช่วงนี้

พท.จัดเวทีถกยุติธรรม

วันเดียวกัน นายศักดา นพสิทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 ต.ค. เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป พรรคเพื่อไทยจะมีการจัดเสวนาทางวิชาการหัวข้อ “กระบวน การยุติธรรมกับความขัดแย้งในสังคมไทย” โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1.นักการเมือง มีนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน 2.นักวิชาการได้ทาบทามนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ และนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และส่วนที่ 3.อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา

สำหรับวัตถุประสงค์เพื่อชี้ให้เห็นว่าบทบาทของศาลต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันนั้น ก้าวล้ำฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติหรือไม่ ศาลปกครองล้ำเส้นศาลยุติธรรมหรือไม่ แต่จะไม่วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินคดีเพราะเกรงว่าจะเป็นการหมิ่นอำนาจศาล แต่ยอมรับว่าจะต้องมีการ พูดถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยคดีที่ดินรัชดาอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น แต่จะเป็นในแง่มุมที่ว่าคำตัดสินของศาลเดียวเป็นที่สิ้นสุดนี้ควรมีการปรับเปลี่ยนเปิดช่องทางให้ต่อสู้ในศาลชั้นอื่นได้หรือไม่

โหรคมช.ชี้จะมีการยุบสภา

ที่สตูดิโอ 107 บริษัทเจเอสแอล นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรการเมืองหรือโหรคมช. ได้กล่าวในการบันทึกรายการ “เจาะใจ”ตอนหนึ่งถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ว่า จะไม่มีการปฏิวัติรูปแบบเดิมที่มีรถถังออกมาแล้วมีการประกาศจะไม่มี

ต่อข้อถามว่าจะมีการยุบสภาในปีนี้ใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า จะมี และจากนั้นหลายฝ่ายมาช่วยกัน เมื่อถามถึงนายกฯคนต่อไป นายวารินทร์ กล่าวว่า เวลานี้บุญของคนที่จะขึ้นมายังไม่ปรากฏเด่นชัด เมื่อไม่มีบุญ เกาะบุญคนอื่นขึ้นมาจะอยู่ได้ไม่นานเหมือนที่ผ่านมา ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลตัดสินจำคุกนั้นถือว่าเป็นกรรมหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า ตามหลักพุทธศาสนาใครสร้างกรรมไว้ก็จะต้องได้รับกรรม และสิ่งที่จะให้ความยุติธรรมสำหรับมนุษย์นั้นคือกระบวนการยุติธรรม

นายกฯ เวียดนามเอ่ยชมไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ และรมว.กลาโหมซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซ็ม) ครั้ง 7 ระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค.นี้ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ในเวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) นายสมชายได้เข้าร่วมประชุมเต็มคณะ Closed Plenary ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “Global Issue” ณ มหาศาลาประชาชน หลังจากนั้นนายกฯ มีกำหนดการหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีเวียดนามก่อนที่จะเข้าการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3

สำหรับผลการหารือทวิภาคีกับนายเหวียน เติ๋น หยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ณ มหาศาลาประชาชนนั้น ทางนายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสที่นายสมชาย เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเห็นว่าสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะในฐานะผู้นำอาเซียน พร้อมกับยืนยันว่าไทยและเวียดนามจะ ดำรงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์