ผวาอาถรรพ์เจ้าที่บ้านกองทัพงูเห่าบุกเตรียมทำบุญขอขมา

ชาวสุพรรณบุรีเจ้าของบ้านที่ถูกกองทัพงูเห่าบุก เผยเตรียมจัดทำบุญใหญ่เพื่อขออโหสิกรรมให้กับเหล่างูที่ถูกตีตายไป โดยเชื่อว่าอาจเป็นงูเจ้าที่ ด้าน นายก อบจ.ยืนยันให้ความช่วยเหลือเต็มที่

จากกรณีที่มีกองทัพงูเห่ากว่า 20 ตัวบุกเข้าบ้านเลขที่ 13/43

หมู่บ้านจารนัย 2 ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ของ นายสมชาย โชติยานนท์อายุ 41 ปี ช่างเทคนิค รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช จนทำให้เกิดความหวาดผวาว่าคนในบ้านจะถูกงูเห่ากัด และบางส่วนเชื่อว่าอาจเป็นความอาฆาตพยาบาทของงูเห่าที่ถูกตีตายไป ตามที่ได้เคยเสนอข่าวไปแล้ว ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 เม.ย. นายบุญชู  จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.สุพรรณบุรี ได้เดินทางไปดูการรื้อถางดงหญ้าที่รกครึ้มบริเวณหลังบ้านของ นายสมชาย

ซึ่ง นายบุญชู กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่ด้านหลังบ้านอย่างละเอียด พบว่าพื้นที่ด้านหลังก็ปกติ

ทางเจ้าของหมู่บ้านได้นำแท่งคอนกรีตมาทำเขื่อนกันดินพังทลายอย่างแน่นหนา ไม่มีรอยแตกหรือโพรงดินอย่างที่หลายคนเข้าใจแต่อย่างใด จึงเข้าใจว่าพื้นดินบริเวณใต้ถุนบ้านอาจจะยุบเป็นโพรงแล้วงูเข้าไปอาศัย แต่ทั้งนี้ไม่พบงูเห่าหรือสัตว์เลื้อยคลานใดๆ อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยของประชาชนทาง อบจ.ยินดีสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ด้าน นางวิภาดา โชติยานนท์ อายุ 41 ปี ผช.พยาบาล รพ.ศุภมิตร ภรรยานายสมชาย เปิดเผยว่า

ตอนนี้ความรู้สึกของคนในครอบครัวเหมือนคนโรคจิต เห็นอะไรต้องเปิดไฟหมดทั้งบ้าน ส่วนลูกๆก็จะให้ญาติมาอยู่เป็นเพื่อนทั้งกลางวันกลางคืน ไม่ลงมาจากบ้านเลยอีกอย่างตอนนี้ข้างบ้านเริ่มระแวงอยู่กันไม่ได้ พอเริ่มมืดข้างบ้านก็จะมาคุยกับเราว่าจะทำอย่างไรดี เพราะงูเริ่มกระจายไปบ้านโน้นบ้านนี้แล้ว เขาจึงฝากบอกกับผู้สื่อข่าวว่า อยากให้มีหมองูหรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ให้มาไล่มาสวดไม่ให้งูเข้าบ้าน เพราะตอนนี้เราได้รับความช่วยเหลือจาก อบจ.สุพรรณบุรี เราเองก็ดีใจที่สื่อมวลชนเข้ามาช่วยเหลือ ตอนแรกที่เกิดเรื่องรู้สึกเครียดกันมาก ไม่รู้จะพึ่งใคร มีบางคนถึงขนาดบอกว่าให้ขายบ้านแล้วไปอยู่ที่อื่น แต่จะให้ไปอยู่ที่อื่นเราก็ไม่อยากไป คิดว่าหลังจากที่มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือแล้วไม่มีงูเข้าบ้านอีกเราก็จะทำบุญให้

โดยมีเพื่อนบ้านเป็นเจ้าภาพร่วมกัน เพื่อขออโหสิกรรม เพราะทั้งหมดที่เราทำลงไปเราไม่มีเจตนาฆ่า

ถ้าเจอที่อื่นตามถนนหนทางเราเองก็ไม่เคยจะไปยุ่งเกี่ยวปล่อยไปตามทางของเขา แต่นี่บ้านเรา เราอยู่อาศัย มีเด็กๆ อาศัยอยู่ด้วย ในด้านของความเชื่อบางคนก็บอกว่าเป็นงูเจ้าที่ ซึ่งตอนเกิดเรื่องวันแรกๆ สามีจุดธูปบอกกลางแจ้งเพื่อขออโหสิ ธูปที่จุดนั้นไหม้ไม่หมด ก็ตกใจว่าทำไมธูปถึงไม่ไหม้ ถ้าบอกกล่าวแล้วเจ้าที่เจ้าทางรับรู้ คือ ธูปจะไหม้ และที่เขามาเพื่อจะบอกอะไรกับเราหรือเปล่า หรือเราไปทำอะไรเขาซึ่งเราเองก็ไม่สามารถรู้ได้เลย และยิ่งได้ฟังคนนู้นคนนี้พูดกันเรายิ่งเครียด

นางวิภาดา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ที่จะย้ายมาอยู่ตรงนี้เคยอยู่ที่หมู่บ้านชื่นชีวามาก่อน ก็มีเหตุการณ์คล้ายๆ กัน คือ
 
ฝันตรงกับสามีว่ามีกุมารมาบอกให้ขึ้นร่างให้เขา 3 วันติดๆ ประกอบกับความไม่เชื่อของเราเองจึงพูดลองของไปว่า ถ้าจะให้ขึ้นร่างให้ขอให้ถูกรางวัลที่ 1 จากนั้นไม่เกิน 7 วันแม่ของตนก็ช็อกเข้าไอซียู หมอบอกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ไม่รอด ก็เตรียมจองวัดทำความสะอาดศาลาไว้รอ และทำใจระหว่างนั้นก็นึกถึงกุมารที่มาเข้าฝัน จึงรีบกลับบ้านไปจุดธูปบอกกล่าวว่ารางวัลที่ 1 ไม่เอาแล้ว ขอให้แม่รอดชีวิตแทน และจะขึ้นร่างให้ จากนั้น ปาฎิหาริย์เกิดแม่ก็รู้สึกตัวดีเป็นปกติทุกอย่างและหมออนุญาตให้กลับบ้านจากนั้นก็หายดีเป็นปลิดทิ้งเลย จากนั้นมาเราเองคิดว่าจะไม่ลบหลู่ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง พอเราขึ้นร่างให้แล้วลูกๆ ก็เห็นว่ามีกุมารวิ่งเล่นในบ้าน
 
แต่คราวนี้มีงูเข้าบ้านไม่เว้นวันเราก็บอกกล่าวว่าถ้ามาดีก็ขอให้ไม่ต้องมาให้เราเห็นอีก แต่ถ้าเข้ามาเราขออนุญาตตีเพราะเรามีลูก มีเด็กเล็กๆ เราก็กลัวจะมาทำร้ายกัน

และการที่เราบอกกล่าวจุดธูปแล้วธูปไม่ไหม้เราก็ใจไม่ดีแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลเราก็ต้องขออโหสิกรรมด้วยที่เราได้ทุบตี ขณะนี้ขวัญและกำลังใจตนและคนในครอบครัวรู้สึกดีขึ้น หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวและมี อบจ. เทศบาล และหลายฝ่ายเข้ามาให้คำแนะนำ แต่เพื่อนบ้านกลับขวัญผวาแทน เนื่องจากเมื่อคืนหลังจากที่ตนได้ให้ช่างนำปูนไปอุดรูต่างๆจนรอบบ้านแต่งูกลับเลื้อยไปเข้าบ้านเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ใกล้ ทำให้หวาดผวานอนไม่หลับ ต้องช่วยกันออกมาเดินดูความปลอดภัย และสามารถตีงูเห่าได้อีก 1 ตัวและงูหลาม 1 ตัว นอกจากนี้ยังได้นำผงปูนขาว กำมะถัน และสารเคมี น้ำส้มสายชู  มาโรยรอบบ้านตามความเชื่อว่าสามารถป้องกันงูได้ พร้อมกับช่วยกันออกมาเดินดูตลอดทำให้หลับไม่ลง หวาดผวากันทั้งหมู่บ้านแล้ว ซึ่งถ้าเหตุการณ์สงบจะรีบร่วมกันจัดพิธีทำบุญใหญ่ให้อย่างแน่นอน.