ตะลึง! พบพยาธิตัวแบนยาวกว่า 10 ซม. ชอนไช ในสมองกว่า 4 ปี

ตะลึง! พบพยาธิตัวแบนยาวกว่า 10 ซม. ชอนไช ในสมองกว่า 4 ปี



ตะลึง! พบพยาธิตัวแบนยาวกว่า 10 ซม. เร่ร่อน ชอนไช ในสมองมนุษย์กว่า 4 ปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชายวัย 50 ปี มาพบแพทย์ในปี 2008 ด้วยอาการปวดหัว, ชัก, ศูนย์เสียความทรงจำ และประสาทในการรับกลิ่นมีปัญหา

ผลสแกนเอ็มอาร์ไอแสดงให้เห็นสิ่งที่เป็นที่มาของอาการซึ่งทำให้แพทย์ถึงกับงุนงงและยิ่งทำให้พวกเขาแปลกใจเมื่อสิ่งดังกล่าวสามารถเคลื่อนไหวได้การสแกนสมองในอีกสี่ปีต่อมาแสดงให้เห็นว่าสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวเคลื่อนที่ทะลุเนื้อเยื่อสมองเป็นระยะทางอย่างน้อย5ซม.

เป็นเวลาหลายปีที่แพทย์โรงพยาบาลเซนต์โธมัสในกรุงลอนดอนทำการทดสอบเนื้อเยื่อและโรคต่างๆมากมายทั้งเอชไอวี โรคไลม์ และซิฟิลิซ อย่างไรก็ตามในปี 2012 พวกเขาต้องตะลึงเมื่อพบว่าในเนื้อเยื่อสมองมีพยาธิตัวแบนยาวกว่า10 ซ.ม. หลังตรวจพบผู้ป่วยได้รับรักษาโดยง่ายด้วยยาฆ่าพยาธิ และขณะนี้เขาได้หายเป็นปกติ

การพบพยาธิตัวแบนในมนุษย์มีเพียง 300 ครั้งทั่วโลกทั้งแต่ปี 1953 และไม่เคยพบในสหราชอาณาจักรมาก่อน

การที่พยาธิเติบโตในร่างกายทำให้เกิดการบวมอักเสบจากการต่อต้านตัวปรสิตซึ่งการพบพยาธิในสมองทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหัว,ชักและสูญเสียความทรงจำได้

การที่พยาธิไม่เป็นที่พบได้บ่อยครั้งทำให้ความสับสนของวงจรชีวิตและลักษณะทางชีววิทยาของมันไม่เป็นที่รู้จักมากนักอย่างไรก็ตามเป็นที่เชื่อกันว่าผู้ป่วยที่ได้รับพยาธิมาจากการที่พวกเขากินสัตว์ในตระกูลครัสเตเชียส(ปู,กุ้ง)สัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำซึ่งมีตัวอ่อนของพยาธิอยู่หรือจากการรักษาโรคแบบแพทย์แผนจีนที่ใช้เนื้อกบดิบพอกที่ตาเพื่อระงับอาการปวด

ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าผู้ป่วยรายนี้ได้รับพยาธิมาด้วยวิธีใดโดยชายผู้นี้มีเชื้อสายจีนและเขาเดินทางไปจีนบ่อยครั้ง

ขณะนี้ทางนักวิทยาศาสตร์กำลังทำการวิจัยสายพันธุ์ของพยาธิที่ตรวจพบเพื่อศึกษาและทดลองเกี่ยวกับอันตรายจากพยาธิชนิดนี้

"เราไม่คิดว่าจะเจอการติดเชื้อปรสิตแบบนี้ในสหราชอาณาจักแต่การเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆนั่นมีโอกาสทำให้ผู้เดินทางได้รับเชื้อที่ไม่คุ้นเคยในประเทศได้"ดร.เอฟฟรอซซินี่กราเนียคลอตซาสผู้เขียนรายงานวิจัยจากแผนกโรคติดต่อแห่งกองทุนเอ็ดเด็นบรูค เอ็นเอชเอส

เราสามารถตรวจพบตัวพยาธิที่เติบโตในร่างกายผ่านการสแกนเอ็มอาไอ แต่นั้นยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เรารู้ถึงสปีชี่ส์และอันตรายของมัน

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์