รัฐบาลยันไม่แทรกแซงสื่อ


ประชุมสภาป่วน“เหลิม”ยันไม่ แทรกแซงสื่อ ติงยึดหลักความถูกต้อง ห้ามจัดรายการด่าใคร

เมื่อวันที่ 1ก.ย.ที่รัฐสภา  มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธาน เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดของนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เรื่อง การคุกคามและแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งรู้สึกว่ามีการใช้อำนาจคุกคาม ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชน และรัฐบาลไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร จึงสงสัยว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้ว่าจะแก้ไขไม่แก้แค้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงแทนนายกฯว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่เคยคิดคุกคาม และแทรกแซงสื่อโดยเด็ดขาด แต่สื่อต้องพึงระวังและยึดหลักความถูกต้อง อย่าให้เหมือนกับรัฐบาลที่ผ่านมาที่มีคนที่ไม่ใช่สื่อรับจ้างจัดรายการด่าพวกตนมาตลอด  2 ปี เรื่องอย่างนี้จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้  ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่แทรกแซงทั้งกรมประชาสัมพันธ์และบริษัท อสมท. แต่ขอว่าการจัดรายการต้องไม่มีการไปด่าไปว่าใคร
               
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า กรณีผู้สื่อข่าวช่อง 7 ที่มีการฟอร์เวิร์ดอีเมล์ข่มขู่ เป็นเพราะการปฏิบัติหน้าที่ของผู้สื่อข่าวมีการตั้งคำถามกับนายกฯที่ผิดปกติ เสมือนหนึ่งทำหน้าที่เป็น “ผู้นำฝ่ายค้าน” และ น.ส.พรทิย์ ปักษานนท์ ผู้ฟอร์เวิร์ดอีเมล์เพราะไม่เห็นด้วยกับการถามคำถาม จึงไม่ใช่รัฐบาลข่มขู่ และที่ผู้สื่อข่าวช่อง 7 เปิดเผยว่ามีโทรศัพท์มาข่มขู่ ถ้าจริงก็เอาเบอร์มาตนตรวจสอบแค่ 2 ชั่วโมงก็ทราบว่าเป็นใคร 
              
นายศุภชัย ถามต่อว่า กรณีที่เกิดเหตุทำร้ายนักศึกษาหน้ารัฐสภาในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าถูกว่าจ้างมาหรือไม่ แต่อยู่ที่ผู้ที่มาทำร้ายไม่มีสิทธิจะกระทำกับผู้อื่นอย่างนั้น ซึ่งร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงยืนยันว่า ทั้ง 2 คนนั้นไม่ใช่นักศึกษา บ้านอยู่ที่หนองค้างพูล เขตหนองแขม จากการตรวจพบว่าทั้ง 2 นั่งรถที่มีโลโก้พรรคประชาธิปัตย์มา และมีสมุดบันทึกของนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อกลับไปก็ไม่มาแสดงตน แล้วจะให้รัฐบาลทำอย่างไร

นายศุภชัยถามต่อว่า อยากทราบวิธีคิดของรัฐบาลที่มีต่อกลุ่มคนเสื้อแดง นโยบายปรองดองที่คิดแก้ไขไม่แก้แค้นยังมีอยู่จริงหรือไม่ และอยากทราบว่ากรณีที่นำคนเสื้อแดงบางคนที่ต้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาเป็นเลขานุการรัฐมนตรีและที่ปรึกษารัฐมนตรี
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พอถึงตรงนี้ทำให้มีการประท้วงอย่างหนัก ของแกนนำคนเสื้อแดง อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นพ.เหวง โตจิราการ นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้นายศุภชัยถอนคำพูด โดยนายจตุพรกล่าวว่า คำพูดดังกล่าวเป็นการใส่ร้าย คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด จึงขอให้ถอนคำพูดดังกล่าว แต่นายศุภชัย ยืนยันไม่ถอนคำพูด เพราะไม่ได้ทำผิดข้อบังคับ ส.ส.ฝ่ายค้านจึงลุกขึ้นประท้วงการวินิจฉัย และการทำหน้าที่ของประธาน ทำให้ประธานพักประชุม 10 นาที และเมื่อกลับมาประชุมใหม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า รัฐบาลกับเสื้อแดงเป็นพวกเดียวกัน ท่านจะได้ไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าใครทำผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมายไม่มีข้อยกเว้น

ส่วนการแต่งตั้งคนเสื้อแดงมาเป็นเลขานุการฯและที่ปรึกษานั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า  เป็นสิทธิ์ของพวกตนหากแต่งตั้งไปแล้วประชาชนไม่ชอบ การเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนก็ไม่เลือก แต่ถ้าประชาชนชอบก็จะได้ที่นั่งเพิ่มมากกว่า 265 เสียง นอกจากนี้รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดห้ามคนที่ต้องคดีมารับตำแหน่งทางการเมืองจนกว่าคำพิพากษาจะถึงที่สุดถึงเรียกว่าขาดคุณสมบัติ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์