ชาวบ้านจังหวัดเชียงรายแห่เปิบเนื้อสุนัขแก้อากาศหนาว

ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้นภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น


"ชาวบ้านเชื่อเปิบเนื้อหมาแก้หนาวได้"


อากาศที่หนาวเย็นต่อเนื่องส่งผลให้ชาวเชียงรายบางส่วนแห่เปิบอาหารที่ทำจากเนื้อหมา เนื่องจากมีความเชื่อว่าแก้หนาวได้ แพทย์เตือนเป็นเพียงความเชื่อ เตือนต้องทำให้สุกก่อนรัปทาน ด้านจ.แม่ฮ่อนสอนย้ายเด็กเรียนหนังสือกลางแจ้งคลายหนาวหลังอากาศเย็นต่อเนื่อง

(22ธค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากอุณภูมิลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้อากาศในจังหวัดเชียงรายหนาวเย็นต่อเนื่อง กระทั่งจังหวัดเชียงรายต้องประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยหนาว ประชาชนหลายพื้นที่ต้องหาวิธีการทำให้ร่างกายได้รับความอบอุ่น แต่ที่ชุมชนเกาะทอง เขตเทศบาลนครเชียงราย ได้มีประชาชนบางส่วนได้หันมารับประทานกว๋างดำ ดำปอด หรือ เนื้อสุนัข ด้วยความเชื่อว่าจะช่วยทำให้ร่าง กายอบอุ่น สร้างรายได้ให้กับเจ้าของกิจการร้านอาหารประเภทนี้ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นวันละมากกว่า 1 พันบาท

นายจักรพันธ์ เรืองคำ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านกว๋างดำ ดำปอด เล่าว่า หลังจากที่อากาศเริ่มหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่องมีประชาชนส่วนหนึ่งได้หันมารับประทานเนื้อสุนัขกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความเชื่อว่าเนื้อสุนัขจะช่วยบรรเทาอาการหนาวและทำให้ร่างกายอบอุ่น โดยตนจะนำเนื้อสุนัขมาประกอบอาหารหลายชนิด ทั้ง แกง ทอด ปิ้ง ย่าง และผัด แต่เมนูที่จะลุกค้านิยมรับประทานมากที่สุด คือ เนื้อสุนัขผัดเผ็ด และ เนื้อสุนัขแดดเดียว โดยลุกค้าจะรับประทานไปพร้อมกับการดื่มเหล้าตอง เหล้าพื้นบ้าน หรือรัปทานเป็นกับข้าว

ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้นภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น


"นิยมสุนัขดำ สุนัขแดง"


เจ้าของร้านกว๋างดำ ดำปอด กล่าวต่อว่า เนื้อสุนัขนำมาประกอบอาหารจะเป็นเนื้อสุนัขที่ผ่านการทำความสะอาด

เป็นอย่างดี ก่อนที่จะนำมาปรุงอาหาร และเป็นสุนัขที่มีคนนำมาขายให้เป็นตัวๆ ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ส่วนใหญ่จะเป็นสุนัขสีดำ หรือ สีแดง เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้ที่รับประทาน โดยวิธีการทำเนื้อสุนัข ก็จะนำเนื้อสุนัขหันออกมาเป็นชิ้น และนำไปผัดกับเครื่องเทศต่างๆ ซึ่งเป็นสูตรลับเฉพาะแล้วแต่พื้นที่ และพริกแกง เพื่อให้เนื้อสุนัขมีความอ่อนนุ่ม และนำมาพักไว้ เมื่อมีลูก ค้ามาสั้งก็จะนำเนื้อสุนัขที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ไปผัดบนกระทะร้อนๆ กับผักใบกระเพราะ ใบต้นโกศล และใบกระวาน หรือใบจัน พร้อมกับปรุงรสตามความต้องการและนำมาเสริฟ หรือจะเป็นการทำ เนื้อสุนัขแดดเดียว ที่ใช้เนื้อสัน มาคลุกกับเครื่องเทศแล้วนำไปตากแห้ง ซึ่งเป็นที่นิยมของประชาชนหลายคน และซื้อ กับไปเป็นของฝากอีกด้วย

"ชาวบ้านทั่วไปอาจจะมีความเชื่อว่าจะช่วยให้หายหนาว แต่อย่างไรก็ตามตนคิดว่าอาจจะมาจากเครื่องเทศต่างๆ ที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรเช่น ขิง ข่า ตระไคร้ มาประกอบและช่วยเผาผลาญให้ ร่างกายอบอุ่นขึ้นก็เป็นไปได้" นาย จักรพันธ์ กล่าว

ด้านนายวิชาญ พึ่งมั่น ลูกค้าร้านกว๋างดำ ดำปอด เล่าว่า ได้รับประทานเนื้อสุนัขมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และ

ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้นภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น


"เชื่อทำให้ร่างกายเกิดความร้อน ทนอากาศหนาวได้ดี"


นิยมรับประทานบ่อยที่สุดในช่วงฤดูหนาว ซึ่งรสชาติของเนื้อสุนัขนั้นคล้ายกับเนื้อหมู ปน กันเนื้อวัว ซึ่งจะมีความเหนียวนุ่มในตัว เมื่อผ่านวิธีการปรุงก็ทำให้มีรสชาติที่อร่อย และยังทำให้ร่างกายเกิดความ ร้อน สามารถทนต่ออากาศที่หนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว ได้อีกด้วย

นายแพทย์สมบูรณ์ศักดิ์ ญาณไพศาล ผู้อำนวนการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เปิดเผยว่า การรับประทานเนื้อสุนัขของประชาชน ที่มีความเชื่อว่าจะให้ บรรเทาาความหนาวได้นั้นเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งการรับประทานเนื้อสุนัขนั้นก็เปรียบเหมือนกับการรับประทานเนื้อสัตว์ทั่วไปที่เป็นโปรตีน แต่ ก็ต้องนำมาทำให้สุกก่อน เนื่องจากอาจจะเกิดการติดเชื้อหรือพยาธิก็ได้

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวต่อว่า วิธีการที่ทำให้คลายหนาวดีที่สุดคือ การออกกำลังกายอยู่บ่อยครั้งและสวมใส่เสื้อผ้าที่หนา เพื่อรักษาอุณภูมิในร่างกาย พร้อมกับรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งหากร่างกายอ่อนแอ ก็จะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย ดังนั้นตนเองจึงเป็นที่พึ่งของตนและควรรักษาสุขภาพให้ดีที่สุด

ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้นภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น


"ต้องเจออากาศหนาวอีกนาน"


ด้านนายธาดา ศรัทธา หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ราษฎรในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน 7 อำเภอ 45 ตำบล คงจะต้องประสบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นติดต่อกันไปอีกระยะหนึง โดยเช้าวันนี้ (22 ธันวาคม ) ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีหมอกหนาแน่น อุณหภูมิต่ำสุดที่อำเภอปางมะผ้า 4.9 องศาเซลเซียส อำเภอปาย 6.2 องศาเซลเซียส อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน 10.2 องศาเซลเซียส และอำเภอแม่สะเรียง 8.5 องศา ฯ และมีแนวโน้มว่าอุณหภูมิลดลงอีก 2 - 3 องศาฯ และยังจะหนาวเย็นไปจนถึงกลางเดือนมกราคม 2550

ผู้สื่อข่าวรายงงานเพิ่มเติมว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้ครูต้องพาเด็กนักเรียนออกกำลังกายหลังเคารพธงชาติ เพื่อคลายความหนาวเย็น โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ชนบท นอกจากนี้โรงเรียนบางแห่งให้เด็กนักเรียนออกมาเรียนหนังสือกลางสนามหญ้าตลอดทั้งวัน และทางโรงเรียนอนุญาตให้เด็กนักเรียนนุ่งกางเกงขายาวมาเรียนได้ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น .

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวสารที่มีคุณภาพ จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึกขอขอบคุณเนื้อหาข่าวสารที่มีคุณภาพ จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์