ฮือปิดถนนประท้วง ร้านค้าโวยพืชสวน

"ขายบัตรได้เกือบ 1 ล้านใบแล้ว"

ฮือปิดถนนประท้วง ร้านค้าโวยพืชสวน


สมเด็จพระราชินีพระราชทานดอกกุหลาบ "ควีนสิริกิติ์" บนพระตำหนักภูพิงค์ พร้อมดอกไม้มงคล 9 ชนิด ซึ่งมีพระนามพระบรมวงศานุวงศ์เป็นชื่อเรียก จัดแสดงในงานพืชสวนโลกให้ความรู้กับผู้เข้าชม ปลัดเกษตรฯคาดถึงสิ้นเดือนม.ค.ปีหน้า มีคนเที่ยวงานนี้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนแน่นอน เพราะตอนนี้ขายบัตรได้แล้วเกือบ 1 ล้านใบ พ่อค้าแม่ค้าปิดถนน 4 ชั่วโมง ประท้วงหลังถูกหลอกให้เช่าพื้นที่ขายของ แต่ถูกฝ่ายจัดงานหักหลัง ไม่ยอมให้รถจอดซื้อของและเดินดูสินค้า สุดท้ายยอมเปิดถนนและนัดเจรจาเช้า 3 พ.ย. ขณะที่ฝ่ายจัดงานอ้างพื้นที่รอบนอกตำรวจดูแล ต้องแล้วแต่ตำรวจ

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในงานมหกรรมพืชสวนโลก ราชพฤกษ์ 49 ซึ่งจัดแสดงที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2549 ถึงวันที่ 31 ม.ค.2550 ว่า ตั้งแต่เริ่มเปิดให้ผู้มีบัตรเข้าชมงานในเวลา 09.00 น.มีประชาชนทยอยเข้าชมงานอย่างต่อเนื่องทั้งวัน โดยจุดสำคัญต่างๆ ภายในงาน เช่น หอคำหลวง ซึ่งจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, ลานต้นโพธิ์แห่งความจงรักภักดี ซึ่งให้ผู้เข้าชมงานร่วมแสดงความจงรักภักดี โดยบริจาคเงิน 99 บาทและจารึกชื่อบนใบโพธิ์ทองเหลือง เพื่อนำไปหล่อเป็นพระพุทธรูป ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และบรรดาสวนต่างๆ โดยเฉพาะสวนของประเทศญี่ปุ่นและเบลเยียม ซึ่งชนะการประกวดในงานครั้งนี้ รวมถึงสวนของประเทศภูฏาน และประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้รับความสนใจไม่แพ้กัน

"กุหลาบพระราชทาน และดอกไม้มงคล 9 ชนิด"


อีกจุดหนึ่งซึ่งผู้เข้าชมให้ความสนใจมากเป็นพิเศษคือ อาคารนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งจัดนิทรรศการเรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับดอกไม้ เนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานดอกกุหลาบซึ่งปลูกที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นดอกกุหลาบที่พระองค์ท่านทรงโปรดปราน เช่น กุหลาบควีนส์สิริกิติ์, กุหลาบพันธุ์แบล็คที, กุหลาบลา มาร์แซล์แยส ให้นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา นำมาจัดใส่แจกันตั้งแสดงให้ประชาชนชมด้วย

น.ส.ภารดี เทศรัตนวงศ์ ผู้ดูแลอาคารนิทรรศการหมุนเวียน เปิดเผยว่า เนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 1-12 พ.ย. มีการจัดนิทรรศการเรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับดอกไม้ ที่พระองค์ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พัฒนาดอกไม้ต่างๆ ให้เป็นพืชเศรษฐกิจเพื่อให้ประชาชนมีรายได้ นอกจากนั้นยังนำดอกไม้มงคล 9 ชนิด ซึ่งมีพระนามพระบรมวงศานุวงศ์เป็นชื่อเรียกมาจัดแสดงให้ความรู้กับผู้เข้าชมด้วยคือ "กุหลาบจุฬาลงกรณ์, กุหลาบควีนส์สิริกิติ์, ดอนย่าควีนส์สิริกิติ์, คัทลียาควีนส์สิริกิติ์, จำปีสิรินธร, กล้วยไม้ สกุลสิรินธรเนีย, ฟาแลนออซิส ปรินเซสจุฬาภรณ์ และเฟิร์นรัศมิโชติ" ซึ่งมีผู้สนใจเข้าชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกจำนวนมาก

"คาดเข้าชม ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน"

ฮือปิดถนนประท้วง ร้านค้าโวยพืชสวน


ด้านนายบรรพต หงษ์ทอง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พ.ย.มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าชมงานประมาณ 40,000 คน และมียอดจำหน่ายบัตรเข้าชมงานทั้งสิ้นเกือบ 1 ล้านใบ โดยคาดว่าจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2550 จะมีนักท่องเที่ยวเข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน โดยกำหนดการจำหน่ายบัตรประเภทวันเดียวไว้ที่ 35,000 ใบต่อวัน และสำหรับประเภทไม่จำกัดจำนวนครั้ง 20,000 ใบต่อวัน เมื่อรวมบัตรทั้งสองชนิดจะมีจำนวนผู้เข้าชมงานไม่เกิน 55,000 ต่อวัน และในขณะนี้วันที่ 5 พ.ย.ซึ่งเป็นวันลอยกระทง และวันที่ 9-10 ธ.ค.มียอดจำนวนผู้เข้าชมเต็มตามที่กำหนดไว้แล้ว

ต่อมาเวลา 15.45 น.วันเดียวกัน กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่เตรียมสินค้ามาขาย, เช่าบูธขายสินค้า, ให้เช่าพื้นที่จอดรถ และเปิดที่พักให้เช่า รอบบริเวณงานพืชสวนโลก กว่า 1,000 คน เดินทางมารวมตัวประท้วงที่บริเวณวงเวียนน้ำพุช้าง ถ.ราชพฤกษ์ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้จัดงานพืชสวนโลกฯ ไม่ให้ผู้มาเที่ยวงานขับรถส่วนตัวเข้ามาในบริเวณงาน แต่กลับให้จอดตามจุดต่างๆ 11 แห่ง โดยมีรถบัสขนาดใหญ่ไปรับช่วงต่อเข้าไปในงาน ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้าบริเวณริมทางเข้างาน และเดินชมสินค้าพื้นเมือง สร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องเสียค่าเช่าในราคาแพงจำนวนหลายร้อยราย

"ประท้วงผู้จัดงาน"


นายจรูญ วงศ์ฟั้น พ่อค้าในกาดคนเมือง เปิดเผยว่า ตนมีที่ดินเปิดให้เช่าที่จอดรถ และมีร้านอาหารให้บริการขายให้กับนักท่องเที่ยวบริเวณทางขึ้นวัดพระธาตุ ไม่พอใจที่ผู้จัดงานพืชสวนโลกฯ ไม่เปิดทางเข้างานพืชสวนโลกฯ ด้านทิศเหนือ ทางขึ้นวัดพระธาตุดอยคำ ทั้งที่เมื่อกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมามีทางเปิดเข้า-ออก แต่เมื่อเห็นว่ามีผู้ประกอบการทำธุรกิจค้าขายบริเวณรอบงานพืชสวนโลกฯ ผู้จัดงานจึงปิดทางเข้า-ออกด้านพระธาตุดอยคำ แล้วเปิดทางเข้า-ออกบริเวณน้ำพุช้าง ทำให้ชาวบ้านไม่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวเลย

"ก่อนหน้านี้ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการร้านค้าสร้างอาคารสถานที่ให้มุงหลังคาด้วยหญ้าคา ใบตองแห้ง ผู้ประกอบการก็ทำตามทุกอย่าง แต่พอพิธีเปิดงานกลับจัดที่จอดรถไว้ที่อื่น และปิดเส้นทางเข้า-ออกทางขึ้นวัดพระธาตุดอยคำ ไม่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาซื้อสินค้าได้เลย และภายในงานพืชสวนโลกฯ จากก่อนหน้านี้ไม่มีสินค้าโอท็อปขาย กลับนำเข้าไปขาย ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่เช่าพื้นที่ขายสินค้าโอท็อปรอบบริเวณงานไม่มีรายได้ รวมทั้งร้านขายอาหารขายไม่ได้เลยต้องทิ้งจำนวนมาก" นายจรูญกล่าว

"ทำให้คนท้องถิ่นสิ้นเนื้อประดาตัว"

ฮือปิดถนนประท้วง ร้านค้าโวยพืชสวน


นายจรูญกล่าวต่อว่า สิ่งที่ชาวบ้านเรียกร้องคือ ต้องการเปิดประตูทางขึ้นวัดพระธาตุดอยคำ ให้ตำรวจจราจรเปิดทางเข้าออกให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้ามาจอดใกล้ๆ กับสถานที่จัดงาน เพราะมีพื้นที่จอดรถมากกว่า 1 หมื่นคันรองรับได้ นักท่องเที่ยวไม่ต้องการเสียค่ารถหลายครั้ง ค่าเข้าชมงานราคาแพงมากเกินไป นักท่องเที่ยวบางคนมีรายได้น้อยไม่สามารถเข้าเที่ยวชมได้ และต้องการให้ผู้รับผิดชอบลงมาแก้ไขโดยด่วน เพราะก่อนเปิดงานชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยัง รมว.เกษตรฯ และผู้เกี่ยวข้องไปแล้วหลายราย แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ชาวบ้านจึงต้องชุมนุมประท้วงดังกล่าว

ด้านนายประสิทธิ์ จงจริยะสถาพร เจ้าของร้านขายหนังสือเพลงพระราชนิพนธ์เล่มที่เล็กที่สุดในโลก กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นผู้จัดงานระบุว่าจะปิดถนนราชพฤกษ์ เพื่อให้เป็นถนนคนเดินในช่วงเวลา 15.00-22.00 น.ทุกวัน แต่เมื่อเปิดงานโครงการถนนคนเดินไม่เกิดขึ้นเลย ตนขายหนังสือไม่ได้เลยเมื่อวันเปิดงานที่ผ่านมา เช่นเดียวกันผู้ประกอบการทัวร์ท่องเที่ยว ที่ต้องการให้ลูกทัวร์ลงเดินเที่ยวถนนคนเดินก่อนเข้างาน แต่ผู้จัดไม่อนุญาตให้รถทัวร์เข้ามาในงาน บริษัททัวร์ก็เจ๊งไปหลายราย ไม่มีหน่วยงานไหนลงมาช่วยเหลือ การจัดงานไม่ว่าที่ไหนมักจะสร้างรายได้ให้ชุมชน แต่งานพืชสวนโลกฯ กลับทำให้คนท้องถิ่นสิ้นเนื้อประดาตัว

"ผู้จัดฯโบยเป็นเรื่องของ ตร."


ทางด้านนายปรีชา สนั่นวัฒนานนท์ หัวหน้าคณะทำงาน สำนักงานผู้บริหารงานปฏิบัติการกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ งานพืชสวนโลกฯ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากการจัดงานครั้งนี้มีการเตรียมงานและประชาสัมพันธ์มาโดยตลอดว่า ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาบริเวณงาน เพื่อตัดปัญหาเรื่องการจราจร สำนักงานรับผิดชอบดูแลพื้นที่ในบริเวณงานเท่านั้น ส่วนพื้นที่รอบนอกอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่ต้องไปเจรจากับทางผู้ประกอบการเอง และผู้จัดงานไม่เคยกีดกันไม่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยทำการค้ารอบบริเวณงาน แต่เราเน้นเรื่องความสะดวกของผู้เข้าชมงาน และหากตำรวจให้มีการจอดรถริม ถ.ราชพฤกษ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีโอกาสขายสินค้าก็คงไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ต้องไม่กระทบต่อความสะดวกของผู้เข้าชมงาน

"ทั่วโลกที่จัดงานใหญ่ขนาดนี้จะเน้นเรื่องความสะดวกในการจราจร และจัดรถรับส่งนักท่องเที่ยวเข้าบริเวณงาน เพราะหากปล่อยให้มีรถยนต์จำนวนมากเข้ามาในบริเวณงานจะส่งผลให้เกิดความไม่สะดวก หากวันใดมีรถติดมาก วันรุ่งขึ้นจำนวนผู้เข้าชมจะลดลงทันที และเหตุการณ์ในวันนี้คงกระทบต่อภาพรวมของการจัดงาน แต่ไม่ทราบว่าจะมากน้อยเท่าไร และไม่ทราบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจำนวนมากเท่าไร ที่มาเห็นภาพเหตุการณ์ครั้งนี้และตัดสินใจเดินทางกลับไป" นายปรีชากล่าว

"นัดประชุมตกลง"


"ส่วนในเรื่องราคาอาหารหากเป็นอาหารจานเดียว ก๋วยเตี๋ยว มีราคาประมาณ 30-40 บาท แต่หากสั่งอาหารเป็นชุดมีบางที่ราคาเกินกว่า 100 บาท สำหรับรถรางที่ไม่พอเพียงต่อความต้องการนั้น ขณะนี้ให้ปรับเพิ่มการรองรับเป็น 15,000 คนต่อวัน จากเดินที่รองรับแค่ 10,000 คนต่อวัน" นายปรีชากล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเจรจาเกิดขึ้นหลายครั้งทั้งจากรองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ตัวแทนฝ่ายตำรวจ และทหาร แต่ชาวบ้านไม่ยินยอมที่จะเปิดถนนราชพฤกษ์ โดยยืนยันว่าจะปิดถึงวันที่ 3 พ.ย. กระทั่งเวลา 20.00 น. กลุ่มชาวบ้านได้ตกลงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะนัดประชุมเพื่อตกลงกันใหม่ ในเวลา 09.00 น.วันที่ 3 พ.ย. บริเวณวงเวียนช้างหน้างานพืชสวนโลกฯ โดยมีตัวแทนร้านค้าทั้งหมด 10 คนร่วมเจรจากับรองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ตัวแทนตำรวจภูธรภาค 5 ผู้จัดงานพืชสวนโลกฯ


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์