ชาวบ้านผวาบ้านอาถรรพ์ เอะอะไฟลุกไหม้!

เมื่อ 6 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รับแจ้งจากชาวบ้าน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา  ว่า เกิดเหตุประหลาดภายในบ้านเลขที่ 167 ตำบลตะแบกบาน อ.ครบุรี จังหวัดนครราชสีมา  ซึ่งเป็นบ้านของนางนิด รวมครบุรี  อายุ 28 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับครอบครัว ลูกๆ และหลานสาว รวม 5 ชีวิต ตลอดทั้งเดือน พ.ย.2552 มาจนถึงวันนี้ 6 ธ.ค.2552 เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้สิ่งของที่อยู่ภายในบ้านมาตลอดโดยไม่มีสาเหตุ เหตุการณ์ลึกลับดังกล่าว ชาวบ้านแตกตื่นหวาดผวาไม่กล้าเข้าใกล้ ร่ำลือกันไปต่างๆ นานา


นางนิดเล่าว่า ไฟเริ่มลุกไหม้ วันที่ 2 พ.ย.2552 เวลาประมาณ 08.00 น. กับโทรทัศน์สีในบ้าน ต่อมาในวันที่ 5 พ.ย.2552 เพลิงก็ได้ลุกไหม้ภายในตู้เสื้อผ้าทำให้เสี้อผ้าภายในตู้ถูกไฟเผาเสียหายทั้งหมด โดยไม่ทราบสาเหตุอีกเช่นเดียวกัน  นอกจากนี้เหตุการณ์ไฟลุกไหม้ปริศนายังได้เกิดขึ้นมาอีกเป็นระยะๆ ทั้งที่นอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า จนถึงวันนี้ 6 ธ.ค.2552 เหตุเพลิงไหม้ก็ยังคงเกิดขึ้น และไม่เลือกจุดเกิดเหตุ ส่งผลให้ตั้งแต่เกิดเหตุมาจนถึงวันนี้ เสื้อผ้าและที่นอนภายในบ้านหลังดังกล่าวได้ถูกไฟเผาเสียหายและต้องขนไปทิ้งแล้วกว่า 2 คันรถ แต่โชคดีที่ทุกครั้งที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เจ้าของบ้านและเพื่อนบ้านใกล้เคียงจะสังเกตเห็นและช่วยกันดับไฟไว้ได้อย่างทันท่วงที แต่ด.ช.พีรกร ยศพังเทียม หรือน้องทายอายุ 8 ขวบ ถูกไฟไหม้บริเวณหัวเข่า ด.ญ.กัญญารัตน์ ยศพังเทียม หรือน้องปอ อายุ 7 ขวบ ถูกไฟลวกที่แขนซ้าย และด.ช.ภูวนาถ  รวมครบุรี หรือน้องกล้วย อายุ 6 ขวบ บาดเจ็บไฟลวกที่บริเวณรอบ ๆ สะดือ ซึ่งอาการบาดเจ็บของเด็กน้อยทั้ง 3 คน เกิดจากการถูกสะเก็ดไฟ

เหตุดังกล่าวสร้างความหวาดผวาให้แก่คนในครอบครัว “รวมครบุรี” และเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุการณ์เพลิงไหม้นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะทุกครั้งไม่ใช่ไฟฟ้าลัดวงจร นางนิดได้นิมนต์พระสงฆ์ ฤาษี หรือแม้กระทั่งหมอผี มาทำพิธีสวดเพื่อปัดรังควาญ แต่เหตุการณ์ก็ยังเกิดขึ้นอยู่  หมดปัญญาที่จะหาทางแก้ไข และอยากวอนให้ใครสักคนช่วยมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ว่าจะเป็นในแง่ของวิทยาศาสตร์หรือในแง่ของไสยศาสตร์เพื่อหาทางป้องกัน ไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำๆ อีก เพราะทุกวันนี้ตนเองและลูกหลานที่อาศัยอยู่ในบ้านแทบจะไม่เป็นอันกินอันนอนอยู่แล้ว

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์รุจิรา อุปวานิช คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวว่า หากจะมองในด้านวิทยาศาสตร์ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ได้ต้องมีสิ่งที่เป็นเชื้อไฟ และสิ่งที่จะทำให้เกิดเพลิงอย่างเช่น ไฟฟ้าแสงแดดหรือสิ่งที่ทำให้เกิดความร้อน หรือสารเคมีบางอย่าง นอกจากนี้ สาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ที่อาจจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดการสันดาปกับอิเล็กตรอน และเกิดปฏิกิริยาว่องไวต่อแสง จึงจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ อย่างเช่นหัวมันเทศ ซึ่งสะสมความร้อน จนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ได้ เนื่องจากมันเทศมีคุณสมบัติในการดูดซับความร้อนได้ดีและยิ่งมีปฏิกิริยากับความร้อนภายในอากาศก็จะทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นได้  เพราะฉะนั้นในทางวิทยาศาสตร์สามารถสรุปได้ว่า การเกิดเหตุเพลิงไหม้จะต้องมีวัตถุดิบกับสิ่งที่ทำให้เกิด มารวมกันจึงจะก่อให้เกิดเพลิงไหม้ได้ โดยมีออกซิเจนเข้าไปเป็นสื่อ เพราะออกซิเจนจะเป็นตัวช่วยให้เกิดการสันดาป ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ทั้งนี้หากจะให้แน่ชัดจริงๆจะต้องมีการตรวจพิสูจน์ร่องรอยการเกิดเพลิงไหม้จากสถานที่จริงอีกครั้ง


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์