เปิบพิสดาร ´ปลาปักเป้า´ โคม่า 3ราย

คนงานก่อสร้างเขมร เปิบพิสดารปลาปักเป้า ถูกหามส่ง โรงพยาบาลเร่งด่วน 4 ราย พบอาการโคม่า 3 คน แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจกู้ชีวิต หลังชักชวนไปเที่ยวสวนสาธารณะ เกาะลอย เมืองศรีราชา แล้วพิเรนท์นำมาต้มยำกินกันมันหยด จนเกิดคลื่นไส้อาเจียน ชักหมดสติ หมอเตือนชาวบ้านห้ามนำปลาปักเป้ามารับประทานโดยเด็ดขาด อาจจบชีวิต

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย อ.ศรีราชา ว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา มีแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา 4 คน กินปลาปักเป้าแล้วล้มป่วยกะทันหัน มีอาการสาหัสมารักษาตัว จึงเดินทางไปตรวจสอบเกี่ยวกับความคืบหน้าที่ห้องไอซียู ทราบชื่อ นายศราวุธ คูนา อายุ 31 ปี น.ส.แหวน รัววิชา อายุ 25 ปี และ นายเปา ซือแวง อายุ 23 ปี ซึ่งทั้งสามคนอยู่ในอาการโคม่า แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการรักษา พบว่าทั้งสามมีอาการชักเกร็งดิ้นทุรนทุราย แพทย์ต้องใช้ผ้ามัดร่างกายไว้ ส่วนอีก 1 คน ทราบชื่อ นายทวี บุญแบะ อายุ 23 ปี ยังรู้สึกตัวพูดคุยได้

จากการสอบถามนายทวี เปิดเผยว่า พวกตนทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่เดินทางมาทำงานในแคมป์คนงานก่อสร้าง บริเวณข้างซอยลูกเสือวชิราวุธ หมู่ 1 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา แต่เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่จึงไม่สามารถทำงานได้เลยหยุดพักงาน แล้วชักชวนกันไปเที่ยวแถวสวนสาธารณะเกาะลอย ของเทศบาลเมืองศรีราชา พบปลาปักเป้าลอยมาเกยตื่นริมชายหาด พวกตนจึงจับมาปรุงอาหารทำต้มยำกินกันที่พัก จนทั้งหมดเกิดอาการชัก คลื่นไส้อาเจียน เพื่อน คนงานจึงแจ้งตำรวจช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล

นายแพทย์จรุง อุดพัชญสกุล ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จฯ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยซึ่งได้รับพิษจากปลาปักเป้า 4 ราย เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ทั้งหมดอยู่ในอาการหมดสติ หายใจลำบาก โดยเฉพาะนายศราวุธ จะมีอาการหนักหัวใจหยุดเต้น

ทางแพทย์ต้องปั๊มกระตุ้นหัวใจช่วย ซึ่งปกติปลาปักเป้าในบ้านเรามี 2 ชนิด คือ เทโทรโดไมดิ และเทโทโดนิค อะชิด เมื่อผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ แล้วจะได้สารเทโทรโดท็อกซิน อาการพิษดังกล่าวจะเกิดหลังรับประทานปลาปักเป้าประมาณ 30 นาที ถึงหลายชั่วโมง แล้วแต่ปริมาณที่รับประทานเข้าไป

นายแพทย์จรุง กล่าวต่อไปว่า อาการที่เกิดขึ้นแบ่งเป็น 4 ขั้น คือ ขั้นแรก ชาที่ริมฝีปาก ลิ้น ปลายนิ้วมือ คลื่นไส้อาเจียน กระสับกระส่าย ขั้นที่สอง จะชามากขึ้น อาเจียนอย่างรุนแรง อ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรง ยืนและเดินไม่ได้ ขั้นที่สาม เคลื่อนไหวแขนขาไม่ได้ พูดไม่ได้เนื่องจากสายกล่องเสียงเป็นอัมพาต ขั้นสุดท้าย กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต หายใจลำบาก หมดสติ รูม่านตาโต และถ้ารักษาไม่ทันผู้ป่วยจะเสียชีวิตในเวลารวดเร็ว โดยพิษของปลาปักเป้าจะ หายไปจากร่างกายของผู้รับประทานยาก เพราะพิษทนต่อความร้อนถึง 200 องศาเซลเซียสและ เครื่องในของปลาปักเป้าจะมีพิษร้ายแรงกว่าส่วนอื่น ๆ จึงฝากเตือนประชาชนอย่านำปลาปักเป้ามารับประทานอย่างเด็ดขาด.

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์