แมลงวันบุกหมู่บ้านหลังชาวบ้านใช้กากมันสำปะหลังเพาะเห็ด

"กองทัพแมลงวันนับล้านบุก"

แมลงวันบุกหมู่บ้านหลังชาวบ้านใช้กากมันสำปะหลังเพาะเห็ด


แมลงวันนับล้านป่วนหมู่บ้าน หลังชาวบ้านใช้กากมันสำปะหลังเป็นหัวเชื้อเพาะเห็ดเป็นอาชีพเสริม ทำปริมาณแมลงวันมากกว่าปกติ พ่อค้าก๋วยเตี๋ยววอนผู้เกี่ยวข้องดูแล ต้องกางมุ้งกินข้าว ขณะที่อบต. พร้อมลงพื้นที่กับหน่วยควบคุมแมลง เพื่อหาทางป้องกัน

(21สค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านห้วยทราย หมู่ที่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้มีกองทัพแมลงวันนับล้านๆตัว บินเข้าไปเกาะตามบ้านเรือนประชาชน และสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก โดยแมลงวันดังกล่าวมาจากโรงเพาะเห็ดของชาวบ้านที่รวมตัวกัน ทำโรงเพาะเห็ดขึ้นมาหลายหลังคาเรือนภายในหมู่บ้าน ซึ่งเชื้อเพาะเห็ดทำมาจากกากมันสำปะหลัง ที่รับซื้อจากโรงงาน และพอกากมันสำปะหลังหมักหมมกันเป็นเวลานาน ทำให้ส่งกลิ่นเน่าเหม็น และเป็นที่เพาะพันธุ์ของแมลงวัน โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน แมลงวันจะมีมากกว่าวันปกติ จนเป็นเหตุให้ทุกวันนี้ ชาวบ้านต้องกางมุ้งกินข้าว และเวลากลางวันต้องกางมุ้งนั่ง เนื่องจากทนแมลงวันจำนวนมากไม่ไหว


"กำจัดยังไงก็ไม่หมด วอน จนท.ช่วยเหลือ"


นายอรุณ ประทุมโย ชาวบ้านห้วยทราย เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้าน กล่าวว่า แมลงวันนับล้านตัว มาสร้างความเดือดร้อนนานแล้ว โดยเฉพาะจะมีมากในฤดูร้อนและฤดูฝน กำจัดอย่างไรก็ไม่หมด ทั้งเอายามาฉีดพ่น เอากาวดักมาดักจับก็ไม่หมด เวลากินข้าวต้องกางมุ้ง แม้แต่ก๋วยเตี๋ยวของตนที่ขายก็ขายไม่ได้ ลูกค้าหายหมด อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยแก้ไขปัญหาด้วย ถ้าให้ชาวบ้านเลิกเพาะเห็ด ก็คงไม่ได้ เพระาเป็นอาชีพของเขา

นายประยงค์ แสงไพศาล นายก อบต.บ้านใหม่ เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ตนในฐานะตัวแทนของ อบต.พร้อมด้วย นางมยุรี บุญเรืองศรี หัวหน้าหน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 4 อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จะมีการจัดเวทีประชาคมร่วมกับชาวบ้านบ้านใหม่ถึงวิธีการกำจัดแมลงวัน พร้อมกับขอความร่วมมือกับชาวบ้านที่เพาะเห็ดในการทำโรงเรือนให้ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการหมักกากมันสำปะหลัง เนื่องจากปัจจุบันนี้ชาวบ้านจะหมักกากมันสำปะหลังบนพื้นดิน และมีการฉีดน้ำพ่นจนแฉะ จนเป็นแหล่งเพาะแมลงวันได้เป็นอย่างดี ซึ่งวิธีที่ถูกต้อง ต้องลาดพื้นด้วยปูนซีเมนต์


"กำจัดทีเดียวไม่ได้ คาด 3 เดือน"


สำหรับการกำจัดแมลงวันที่มีจำนวนมากมายมหาศาลนั้น นายประยงค์ กล่าวว่า ในเรื่องของการกำจัดนั้น คงจะกำจัดให้หมดไปเพียงครั้งเดียวไม่ได้ แต่วิธีการกำจัดนั้นต้องเริ่มต้นที่ต้นตอ คือกำจัดพื้นที่วางไข่หรือบริเวณหมักกากมัน ทำให้ถูกสุขลักษณะการทำโรงเรือนเพาะเห็ด ส่วนแมลงวันที่มีอยู่ในขณะนี้ ก็คงต้องใช้กาวดักไปก่อน แต่คงจะใช้สารพิษฉีดพ่นไม่ได้ เพราะจะส่งผลกระทบกับชาวบ้าน และทำให้เห็ดไม่งอกไม่โต ซึ่งคาดว่าการกำจัดแมลงวันคงต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน แมลงวันถึงจะลดลง

ด้านนางไหม เยี่ยมลอย อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 7 หมู่ 5 บ้านห้วยทราย กล่าวว่า แมลงวันที่บินว่อนก่อกวนชาวบ้านแทบทุกหลังคาเรือนเริ่มมีเข้ามาที่หมู่บ้านได้ประมาณ 1 ปี ยิ่งเฉพาะช่วงหน้าร้อนและหน้าฝนแมลงวันจะเพิ่มมากขึ้น 3 เท่าตัว โดยเฉพาะบริเวณคอกหมูที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้


"เสียสุขภาพจิตมาก"


หลังจากมีแมลงวันเข้ามา ทำให้ชีวิตของคนในครอบครัวต้องเปลี่ยนไป เพราะเวลาจะอ้าปากทานข้าว ก็ต้องคอยปัดแมลงวัน โดยมีไม้จักสานตีแมลงวันเป็นอาวุธอยู่ตลอด เพราะถ้าไม่ปัดแมลงวันก็จะบินเข้าปาก หรือตกใส่ถ้วยกับข้าว นางไหม กล่าวและว่า แม้ว่าขณะนี้คนในครอบครัวจะยังไม่ล้มป่วยหรือติดเชื้อจากแมลงวันที่เป็นพาหะ แต่ก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อบต.สาธารณสุข เข้ามาแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบทางด้านร่างกายแล้ว สุขภาพจิตยังย่ำแย่อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศร้านขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งที่บ้านห้วยทรายนั้น เจ้าของร้านได้นำตาข่ายร่อนทรายล้อมไว้ทั้งร้าน เพื่อป้องกันแมลงวันบินเข้ามา แต่หากร้านใดที่ไม่ได้ติดตาข่ายก็จะไม่มีลูกค้าเข้าไปกินที่ร้าน


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์