‘เรืองไกร’บี้กกต.ส่งศาลรธน.ตีความ‘มาร์ค’พ้นส.ส. ชี้ศาลปค.ไม่มีอำนาจรับเรื่อง

‘เรืองไกร’บี้กกต.ส่งศาลรธน.ตีความ‘มาร์ค’พ้นส.ส. ชี้ศาลปค.ไม่มีอำนาจรับเรื่อง


‘เรืองไกร’บี้กกต.ส่งศาลรธน.ตีความ‘มาร์ค’พ้นส.ส. ชี้ศาลปค.ไม่มีอำนาจรับเรื่อง

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า ตนได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนุญ มาตรา 62 เพื่อยื่นเรื่องต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 12พ.ย. นี้ โดยขอให้กกต.ส่งเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106(5) ประกอบมาตรา102(6) จากกรณีถูกปลดออกจากราชการตามคำสั่งกระทรวงกลาโหมหรือไม่ ทั้งนี้จากสาระสำคัญในคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่1163/2555 เรื่อง ให้นายทหารสัญญาบัตรออกจากราชการ ทั้งในประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ทำให้เชื่อได้ว่าคำสั่งดังกล่าวมีความชัดเจนว่า เป็นคำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ชอบแล้ว จึงมีผลบังคับโดยสมบูรณ์ และตีความต่อได้ว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นผู้เคยถูกปลดออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2531 เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการแล้ว และถือว่าเป็นบุคคลต้องห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อีกด้วย

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า กรณีที่กระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลด ร.ต. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากราชการ ถือเป็นการลงโทษทางวินัยทหารที่ยังมีผลใช้บังคับอยู่ในขณะนี้ โดยสามารถนำแนวทางในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8211/2543 ที่มีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ เป็นองค์คณะอยู่ด้วยนั้นมาพิจารณาประกอบได้ นอกจากนี้การที่นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายร่างการโต้แย้ง ส่งให้ศาลปกครองได้วินิจฉัยนั้น เห็นว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นการดำเนินการเกี่ยวกับวินัยทหาร จึงไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง ที่จะพิจารณาตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 9 วรรคสอง (1) ซึ่งบัญญัติว่า “เรื่องดังต่อไปนี้ไม่อยู่ในอำนาจศาลปกครอง (1) การดำเนินการเกี่ยวกับวินัยทหาร”


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์