‘บิ๊กตู่’คืนตำแหน่งผบ.ตร. ให้‘พัชรวาท’ อ้างทำตามคำสั่งศาลปกครอง

‘บิ๊กตู่’คืนตำแหน่งผบ.ตร. ให้‘พัชรวาท’ อ้างทำตามคำสั่งศาลปกครอง

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม มีรายงานข่าวแจ้งว่าราชกิจจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนพิเศษ 139ง วันที่ 23 ก.ค. 2557

ได้ตีพิมพ์คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 93/2557 เรื่องยกโทษปลดออกจากราชการ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ระบุว่า โดยที่ศาลปกครองกลางได้มีคําพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 99/2554 ลงวันที่ 28 ก.พ. 2557 ให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับแจ้งมติของคณะกรรมการข้าราชการ ตำรวจ (ก.ตร.) ในการประชุมครั้งที่17/2552เมื่อวันที่30ธ.ค.2552และครั้งที่1/2553เมื่อวัน ที่15 ม.ค.2553ที่ให้สั่งยกโทษปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ออกจากราชการตามคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ 228/2552 ลงวันที่19ต.ค.2552ให้แล้วเสร็จภายใน60วัน นับแต่วันที่คําพิพากษาถึงที่สุดนั้น

เพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลปกครองกลางซึ่งถึงที่สุดข้างต้น หัวหน้า คสช.ในฐานะผู้ใช้อํานาจนายกรัฐมนตรี

ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 10/2557เรื่องให้อํานาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นอํานาจหน้าที่ของหัวหน้า คสช.ลงวันที่ 22 พ.ค.2557จึงอาศัยอํานาจตามความในมาตรา72(1)และมาตรา105แห่งพระราชบัญญัติ ตํารวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบกับข้อ18(2)(ง)ข้อ21และข้อ23แห่งกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. 2547มีคําสั่งให้ยกโทษปลดพล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากราชการตามคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรีที่ ที่ 228/2552 ลงวันที่ 19 ต.ค.2552ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปวันที่17ก.ค.2557ลงชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.

สำหรับ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นน้องชายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณประธานที่ปรึกษาคสช. และเป็นพี่ใหญ่แห่งนายทหารบูรพาพยัคฆ์

เคยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปราบปรามผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมในพื้นที่บริเวณหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่7ต.ค. 2551พบว่าตำรวจมีการใช้แก๊สน้ำตาแบบยิงและจงใจยิงใส่ผู้ชุมนุมโดยตรง ผิดหลักการสากลทำให้ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บพิการจำนวนมาก ต่อมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิด เมื่อวันที่7ก.ย.2552 พล.ต.อ.พัชรวาทมีมูลความผิดทางอาญาและความผิดวินัยร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา79 กระทั่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลงนามคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาทไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีหลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดผ่านไป2วัน จึงได้ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งโดยให้เหตุผลว่าต้องการพักผ่อน

ต่อมา พล.ต.อ.พัชรวาทได้ยื่นอุทธรณ์ต่อก.ตร.พร้อมพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)

และพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีตผบก.ภ.อุดรธานีกระทั่งวันที่12ก.พ.2553ที่ประชุม ก.ตร.ครั้งที่2/2553รับรองมติที่ ก.ตร.รับอุทธรณ์ พล.ต.อ.พัชรวาท, พล.ต.ท.สุชาติและพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กลับเข้ารับราชการตามเดิมโดยพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.ในขณะนั้นให้เรียกตัว พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กลับเข้ารับราชการตามเดิม

ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาทต้องส่งเรื่องให้นายอภิสิทธิ์ แต่นายอภิสิทธิ์ส่งเรื่องสอบถามกลับมายัง ก.ตร.และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ซึ่งกฤษฎีกายืนยันกลับไปว่านายอภิสิทธิ์ ต้องปฏิบัติตามมติ ก.ตร.นายอภิสิทธิ์จึงสอบถามกลับไปที่ ป.ป.ช.อีกครั้ง แต่หลังรัฐบาลอภิสิทธิ์ยุบสภา พล.ต.อ.พัชรวาท ตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อให้พิพากษายกเลิกคำสั่งปลดและให้ นายกฯเร่งคืนตำแหน่งเนื่องจากมีผลทางประวัติการทำงาน

กระทั่งวันที่ 28 ก.พ.2557 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งลงโทษปลด พล.ต.อ.พัชรวาทตามมติก.ตร.ภายใน60วัน

นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุดหลัง พล.ต.อ.พัชรวาทยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเลย ต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร ซึ่งพล.ต.อ.พัชรวาทมีหนังสือหลายฉบับให้ นายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามมติ ก.ตร.แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมิได้ดำเนินการใดๆ ทำให้ผู้ฟ้องคดีเดือดร้อนเสียหายจนถึงในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช.จึงดำเนินการคืนตำแหน่ง ผบ.ตร.ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ในที่สุด


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์