‘บิ๊กชา’เดือด! ท้า‘สุเทพ-อภิสิทธิ์’เจรจา ถามอีก2ปีรอไม่ได้หรือ ยันรัฐไม่รุนแรงแก้ปัญหา

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง
 
ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมยกระดับการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลว่า การยกระดับการชุมนุมถือเป็นสิทธิ์ของผู้ชุมนุม ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ในประเด็นที่กระทบหรือลิดรอนสิทธิประชาชนคนส่วนใหญ่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ก็มีสิทธิ์ตามกฎหมายเช่นกัน ตัวอย่างที่ผู้ชุมนุมประกาศยกระดับปิดถนนนั้น ก็ส่งผลกระทบต่อสิทธิและถือเป็นการลิดรอนสิทธิของคนอื่น ก็อาจเป็นเรื่องที่ไม่ชอบและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตนอยากแนะนำแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมและผู้ชุมนุมเองว่า การดำเนินการอะไรขอให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ขอให้คำนึงถึงสิทธิของคนอื่น

 ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะยกระดับโดยการใช้วิธีปิดล้อมเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีการส่งกำลังบำรุงเข้ามา ก็ถือว่าเป็นการทำไม่ถูกต้อง ถ้าเกินเลยขอบเขตของกฎหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องใช้มาตรการในการดำเนินการ

 ผู้สื่อข่าวถามว่าในการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความสงบโดยเร็ว จะใช้วิธีการเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมแทนการตั้งรับหรือไม่

รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ความจริงฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช่เป็นฝ่ายที่จะไปต่อรองโดยตรง กระแสสังคมหรือมวลชนที่ได้แสดงความคิดเห็นออกมาในขณะนี้ น่าจะเป็นส่วนที่ให้ข้อคิดที่กลุ่มผู้ชุมนุมควรใช้ดุลพินิจในการตัดสินชัดเจนแล้ว ทั้งประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม ต่างก็ออกมาบอกแล้วว่าเงื่อนไขการชุมนุมเรียกร้องต่างๆ ทั้งเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถ้ายังเป็นห่วงในส่วนของระยะเวลา 180 วันของ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่าจะมีการหยิบยกกลับขึ้นมาอีกทุกส่วนที่เกี่ยวข้องก็ยืนยัน และมีสัญญาประชาคมออกมาชัดเจนแล้วว่าไม่มีการหยิบยกมาอีก

‘บิ๊กชา’เดือด! ท้า‘สุเทพ-อภิสิทธิ์’เจรจา ถามอีก2ปีรอไม่ได้หรือ ยันรัฐไม่รุนแรงแก้ปัญหา

 ส่วนเรื่องคดีปราสาทพระวิหารนั้นก็เบาใจได้แล้วหลังแถลงการณ์จากฝ่ายผู้รับผิดชอบ

โดยตรงโดยเฉพาะจากนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศและนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตประจำกรุงเฮก ในฐานะหัวหน้าคณะ ก็ชี้แจงชัดเจนแล้ว แต่บางอย่างที่ไม่ควรพูด เนื่องจากต้องเข้าสู่การเจรจาก็ไม่ควรพูดหรือยกประด็นขึ้นมา เมื่อทั้ง 2 ประเด็นจบแล้วเงื่อนไขการชุมนุมก็น่าจะบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของแกนนำควรจะเลิกการชุมนุมโดยเห็นแก่ประชาชนส่วนใหญ่

 “ในส่วนของรัฐบาลถ้าแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมที่จะเจรจาหรือพูดคุยก็ขอให้แสดงเจตจำนงค์ออกมา รัฐบาลก็พร้อมที่จะพูดคุย เราไม่ปฏิเสธเพราะถือว่าการพูดคุยเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ผ่านมาคุณอภิสิทธิ์ก็ขึ้นเวทีชุมนุมทุกคืนไม่ต้องไปแอบอยู่ข้างหลังแล้ว ขอให้ออกมาเถอะเพื่อมาพูดคุยกันว่าจะเอากันอย่างไร รอได้หรือรอไม่ได้ อย่างไรก็ตามอีกไม่เกิน 2 ปี ก็จะมีการเลือกตั้งใหม่อยู่แล้ว ทั้งหมดก็ต้องรอฟังเสียงประชาชนว่าจะมอบสิทธิ์หรืออำนาจให้ใครในการบริหารประเทศ แต่ถ้าแค่นี้ท่านรอไม่ได้ก็ถือว่าขาดความอดทน”              

 เมื่อถามว่าแต่วันนี้กลุ่มที่ต้องการล้มรัฐบาลแยกกันทำหน้าที่แบบแยกกันตี ทั้งในสภาฯและนอกสภา รัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร
 
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า “ก็เป็นธรรมดาฝ่ายค้านที่รอไม่ได้ก็พยายามใช้จังหวะช่วงชิงโอกาสและสถานการณ์เพื่อล้มรัฐบาล เรื่องนี้เราไม่ว่ากัน ถ้าจะล้มก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่ควรอยู่ในครรลองของกฎหมายเพื่อให้เป็นแบบอย่างและตัวอย่างของอนุชนรุ่นหลัง”

 ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สมช.ห่วงว่าจะมีมือที่ 3 เข้ามาก่อความรุนแรง จากการข่าวดังกล่าวจะป้องกันอย่างไร

พล.ต.อ.ประชา กล่าวยอมรับว่า ตรงนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงและระมัดระวัง เนื่องจากเราทราบจากการข่าวว่า ขณะนี้มีการขนคนโดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่อยู่ในร่องในรอย กลุ่มพวกคนติดยา ไม่มีงานทำ จะเดินทางเข้ามาจากต่างจังหวัดที่รู้ๆ กันอยู่ เจ้าหน้าที่ก็ติดตามสถานการณ์และสกัดกั้นอยู่ ยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องนี้พอสมควร ก็ขอฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมและแกนนำต้องดูแลกันเองด้วย เจ้าหน้าที่เองมีหน้าที่ดูแลอย่างเต็มความสามารถแต่ถ้าช่วยกันดูแลเหตุการณ์ต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น

 เมื่อถามว่าคิดว่าจะเอาอยู่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า “เท่าที่ผมดูก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
 
แต่ขอร้องว่าอย่าไปใช้มาตรการเหมือนปี 2553 แค่เป่านกหวีดเฉยๆ ก็ไม่เป็นไร ก็เป่ากันไป ความจริงถ้าคุณสุเทพคิดได้และใช้การเป่านกหวีดตั้งแต่ปี 2553 ก็คงไม่มีคนตายเป็น 100 หรือคนเจ็บเป็น 1,000 คน น่าจะคิดได้นานแล้ว และยืนยันว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจะไม่มีการใช้ความรุนแรงอย่างแน่นอน เว้นแต่ถ้ามาเป่านกหวีดใส่หูเป็นอันตรายต่อประสาทหูก็อาจจะมีสิทธิ์แยกนกหวีดและผลักออกไปบ้าง ถือเป็นการป้องกันตัว  หรือถ้ามาเป่านกหวีดใส่ผมๆ ก็จะใช้แตรเป่าตอบ ไม่ใช้นกหวีดเหมือนท่านปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ”

 เมื่อถามว่าได้มอบหมายให้ใครเป็นผู้ติดตามและดูแลสถานการณ์ในขณะนี้ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า

ฝ่ายสภาความมั่นคงห่างชาติ (สมช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)และเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเฝ้าติดตามสถานการณ์ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการดูแลสถานที่โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาล สภา และขอร้องว่าอย่ามาปิดล้อมหรือเข้ามาเลย และการชุมนุมโดยการปิดถนนสร้างความเดือดร้อน เด็กนักเรียนไม่สามารถเดินทางมาศึกษาเล่าเรียนได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง การไปดึงระบบการบริหารบ้านเมืองที่ดีมาเป็นการเมืองส่วนตัวคิดว่าทำไม่ถูก วันนี้เด็กควรได้เรียนหนังสือ ร้านค้าควรได้ค้าขายเพิ่มพูนเศรษฐกิจของประเทศ แต่กลับไปยุยงให้ปิดการค้าขาย ปิดโรงเรียน ยุยงให้ปิดโรงงานหรือกิจการต่างๆ แต่กิจการของตัวเองกลับไม่ปิดเลย


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์