ไทย-จีน เห็นชอบโครงการความร่วมมือจัดหาแท็บเล็ต

ปักกิ่ง 17 เม.ย.- นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว และเข้าร่วมหารือกับนายกรัฐมนตรีจีน ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบโครงการความร่วมมือจัดหาแท็บเล็ต ความร่วมมือทางด้านรถไฟ พลังงานสะอาด และการบริหารจัดการน้ำ

“มนชนก พัฒนพงศ์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ซึ่งติดตามภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
 
เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 17-19 เมษายน ตามคำเชิญของนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน รายงานว่า นายกรัฐมนตรีและคณะรวมทั้งนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี และ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง เวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าพักที่เรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถ่ ทั้งนี้ ผู้จัดการเตี้ยวหยูไถ่ มอบตราประทับชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นภาษาจีนให้เป็นที่ระลึกด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ ลานหน้ามหาศาลาประชาชน ด้านทิศตะวันออก
 
โดยมี นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน นำเดินแถวตรวจกองทหารเกียรติยศ จากนั้น ผู้นำทั้งสองได้เข้าหารือข้อราชการเต็มคณะ ก่อนที่ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงและเอกสาร ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการหารือทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน
 
โดยเฉพาะโครงการความร่วมมือ เพื่อพัฒนาในสาขาที่ยั่งยืนของไทย 4 สาขา ได้แก่ การจัดหาคอมพิวเตอร์แบบพกพา (แท็บเล็ต) ให้เด็กนักเรียน ความร่วมมือด้านรถไฟ พลังงานสะอาด และการบริหารจัดการน้ำ นอกจากนี้ ยังเห็นพ้องที่จะกำหนดทิศทาง และตั้งเป้าความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน ใน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ เพิ่มการค้าร้อยละ 20 ต่อปี เพิ่มการลงทุนร้อยละ 15 ใน 5 ปีข้างหน้า แสะเพิ่มการท่องเที่ยวร้อยละ 20 ใน 5 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้จีนตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือ SMEs ที่เข้าไปลงทุนในจีนแบบครบวงจร
 
พร้อมเชิญชวนนักลงทุนจีน มาลงทุนในสาขาที่ไทยส่งเสริมการลงทุน อาทิ ผลิตภัณฑ์ยางพารา ชิ้นส่วนยานยนต์ พลังงานลมและชีวภาพ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเสนอให้สองฝ่ายพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และเน้นเชิงคุณภาพมากขึ้น และขอให้รัฐบาลจีนอนุมัติการจัดตั้งสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่นครกวางโจว และย้ำการกระชับความสัมพันธ์กับจีน เป็นรายมณฑล

สำหรับความร่วมมือระดับภูมิภาค ไทยและจีน มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเครือข่ายเชื่อมโยงคมนาคมในภูมิภาค
 
ด้วยการเปิดเส้นทาง R3 A เชื่อมคุนหมิง-ยูนนาน-ลาว-ไทย ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 4 และกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งไทยขอให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับระดับน้ำไทย-จีนในฤดูแล้ง อย่างต่อเนื่องทุกปี โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญนายกรัฐมนตรีจีน มาร่วมประชุม WEF ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 30 พ.ค. - 1 มิ.ย.นี้ด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีจีนเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี และคณะ.-สำนักข่าวไทย