ไชยวัฒน์น้อมรับศาล ยันไม่หันใช้ช่องทาง กกต.

"ไชยวัฒน์" น้อมรับคำพิพากษาของศาล

ยอมรับเหนื่อย-มึน ขอเวลาตั้งสติ ปรึกษานักกฎหมาย ยันไม่ใช้ช่องทาง กกต. "ถาวร" แนะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ยกคำร้องทั้ง 4 ข้อหาว่า ตนเคารพคำวินิจฉัยของศาล หลังจากนี้ขอพักผ่อนในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซัก 1-2 วัน แล้วจะปรึกษาเพื่อนๆ ที่เป็นนักกฎหมาย เพราะเรื่องนอมินีไม่มีการชี้และไม่ใช่เขตอำนาจศาล รู้สึกเหนื่อยมามาก ขอพักซักหน่อย ตั้งสติใหม่แล้วค่อยว่ากัน
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า

 ก่อนหน้านี้นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เคยยื่นเรื่องนอมินีไว้ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง แล้วจะไปยื่นซ้ำหรือไม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า บ้านเมืองของเรามีอำนาจแยกกัน เมื่อเราคำนึงถึงอำนาจบริหารและก็ตัดสินใจใช้อำนาจตุลาการในฐานะผู้เสียหายฟ้องร้อง เพราะเราเคารพหลักการอำนาจอธิปไตยของปวงชน แต่ประชาชนสามารถมีอำนาจในตัวเอง แต่สภาพบ้านเมืองวันนี้ต้องผ่านกลไกการบริหารทั้งหมด ตนก็ยังมึนอยู่ต่อข้อถามที่ว่า ที่บอกว่าจะปรึกษาเพื่อนกฎหมายรวมทั้งปรึกษาฝ่ายกฎหมายในพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ใช่ฝ่ายกฎหมายของพรรค คงไม่รบกวน เพราะออกจากพรรคมาแล้ว
 

ส่วนกรณีนี้ทำให้รู้สึกท้อหรือไม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า

ไม่มีความท้อแต่ต้องมองความเป็นจริงของบ้านเมืองและจะแก้ไขอย่างเป็นขั้นตอนอย่างไร ตนกำลังคิดตรงนั้นอยู่ แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ยังมึน เพราะมันกำลังสะท้อนให้เห็นความจริงของสังคมในเรื่องของการปกครองการอยู่ร่วมกัน ในระบบการปกครอง ตนก็หลงเข้าใจว่า ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจธิปไตยและระบอบประชาธิปไตย แต่เนื้อหาจริงๆ ใช่หรือไม่ตนไม่รู้ เพราะวันนี้ก็รู้อยู่ว่าอำนาจบริหารของ กกต.ไม่มีประสิทธิภาพจัดการปัญหาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กำลังรู้สึกว่า วันนี้บ้านเมืองของเรากำลังอยู่ใน 2 คำ คือ "กลัว และ กล้า" อดคิดไม่ได้ว่า ผู้มีหน้าที่ในเรื่องต่างๆ ยังกลัวๆ กล้าๆ อยู่
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า

กกต.ควรยื่นเรื่องไปที่อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการหรือไม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ในใจคิดว่า เมื่อตัดสินพึ่งบารมีของศาล และอำนาจตุลาการก็แสดงว่า ตนได้ประเมินว่า กกต.ไร้ประสิทธิภาพไปแล้ว ดังนั้น ก็ไม่อยากไปเสียเวลากับกลไกตรงนั้นอีก
 

นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า

นายไชวัฒน์มีทางเดียวคือยื่นเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะนายวีระเคยยื่นเรื่องพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของอดีตพรรคไทยรักไทยไว้ที่ กกต.แล้ว อยู่ที่ว่า กกต.จะดำเนินการให้หรือไม่ แต่นายไชยวัฒน์น่าจะยื่นซ้ำไปที่ กกต.อีกครั้ง ซึ่ง กกต. ก็คงจะยื่นไปที่อัยการสูงสุด เพื่อที่จะดำเนินการต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์