ใบลาออกไร้ความหมาย! กกต.เดินหน้าสอยยงยุทธล้างบาปอัลไพน์

ทาง กกต. ได้รับคำร้องที่มีผู้ยื่นให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายยงยุทธ ทั้งหมด 4 คำร้อง ซึ่งทาง กกต. ได้รับเรื่องแล้ว โดยรอส่งเรื่องให้ อนุกรรมการฯ ต่อไป แต่หลังจากที่นายยงยุทธ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและ ส.ส. บัญชีรายชื่อ แล้วนั้น ในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น ขั้นตอนต่อไปทางพรรคจะต้องแจ้งเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 30 วัน เพื่อให้นายทะเบียนได้พิจารณาตอบรับภายใน 30 วัน

“หลังจากนายยงยุทธลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้ว กรรมการบริหารพรรคอื่นๆ ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งลงไปปริยาย ส่วนใครจะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่นั้น   ซึ่งต้องมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ภายใน 60 วัน ตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้กรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ จะต้องรักษาการในตำแหน่งต่อไป โดยทางนายยงยุทธนั้นไม่สามารถที่จะกระทำนิติกรรมใดๆกับทาง กกต.ได้อีก ซึ่งระหว่างนี้ การทำนิติกรรมต่อกกต. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินกองทุนพรรคการเมือง รวมไปถึงจำนวนสมาชิกพรรคการเมือง จะเป็นหน้าที่ของรักษาการหัวหน้าพรรค ดำเนินการไปก่อน จนกว่าที่ประชุมพรรคจะคัดเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่มาดำรงตำแหน่งแทน” นางสดศรีกล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีผู้ร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัตินายยงยุทธทั้ง 4 เรื่องนั้น ทาง กกต. จะดำเนินการต่อไปอย่างไร นางสดศรีกล่าวว่า ในส่วนคำร้องที่นายยงยุทธ ได้มอบหมายให้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ให้ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองนั้น หากนายยงยุทธได้ประกาศลาออกแล้ว ถือว่าไม่มีความประสงค์ที่จะตรวจสอบ ทาง กกต. ก็อาจจะจำหน่ายคำร้องดังกล่าวออกไป เพราะไม่มีเหตุที่ต้องพิจารณา แต่อีก 3 คำร้องที่มีผู้มายื่นนั้น ทาง กกต. ก็ยังจะมีการดำเนินการต่อไป ซึ่งทางนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ได้มอบหมายให้แบ่งออก 2 ส่วน คือ งานกิจการพรรค และ กลุ่มงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งท้ายที่สุด คำร้องทั้งหมดก็จะเสนอให้ทาง คณะกรรมการ กกต. เพื่อพิจารณาให้ครบถ้วนทุกประเด็น โดยหลังจากนี้ จะพิจารณาว่าคำร้องใดจะมีคำสั่งให้ดำเนินการต่อหรือสั่งให้ยุติเรื่อง ไม่ใช่ว่านายยงยุทธจะลาออกแล้ว ทาง กกต.จะยุติการสอบสวนเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 

เมื่อถามว่า การที่นายยงยุทธ ประกาศลาออกทุกตำแหน่งทางการเมือง จะเข้าหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ล้างมลทิน ปี  2550 หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้วินิจฉัย อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นกัน ดังนั้นเรื่องนี้คงต้องไปยุติที่ศาล เพราะมีหลายประเด็นที่ต้องตีความในหลายนัยยะ

สำหรับ ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับถัดไป ที่จะเลื่อนขึ้นมา ภายหลังจากที่นายยงยุทธประกาศลาออกนั้น นางสดศรี กล่าวว่า ทางพรรคการเมืองจะต้องแจ้งไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรประกาศเลื่อนลำดับส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่หน้าที่ความรับผิดชอบของกกต. 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่จะมาเลื่อนลำดับการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ที่ลาออกไปนั้น คือ นางมาลินี อินฉัตร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 71