โอ๊ค-เอมอ่วม โดนหมื่นล้าน คตส.ชง สรรพากรเรียกภาษี

"โอ๊ค-เอม"อ่วม โดนหมื่นล้าน คตส.ชง สรรพากรเรียกภาษี


คตส.ชงสรรพากรเรียกเก็บภาษีซื้อขายหุ้นแอมเพิลริชฯ และภาษี ณ ที่จ่าย รวมกว่าหมื่นล้านบาท ขีดเส้นจ่ายภายใน 7 เม.ย. หากล่าช้าโดนดอกเบี้ยร้อยละ 1.5% ด้าน "ฉลองภพ" เผยพร้อมระบุชื่อผู้กระทำผิดในหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษคดีหวยบนดิน ขณะที่ปลัดคลังปัดข่าวถอดใจเตรียมไขก๊อกหลังถูก คตส.กดดันในคดีที่เข้าไปตรวจสอบ

นายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบกรณีการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)

ซึ่งได้มีการพิจารณารายงานการตรวจสอบกรณีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ระหว่างนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับบริษัท แอมเพิลริช อินเวสต์เมนท์ จำกัด จำนวน 329.2 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท

นายวิโรจน์ ระบุว่า ที่ประชุมมีมติให้เรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทา 5,697 ล้านบาท นอกจากนี้ทั้งสองคนยังจะต้องเสียภาษี ณ ที่จ่ายของบริษัทแอมเพิลริชฯ อีก 4,884 ล้านบาท โดยจะต้องจ่ายภายในวันที่ 7 เมษายนนี้ หากไม่มาจ่ายตามกำหนด จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 โดยหลังจากนี้ คตส.จะส่งหนังสือไปยังกรมสรรพากรเพื่อดำเนินการประเมินเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต่อไป


สรรพากรชี้"โอ๊ค-เอม"ยังไม่ได้ยื่นเสียภาษี


นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยกรณีการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของนายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา จากการซื้อขายหุ้นบริษัทแอมเพิลริชฯ ว่า ยังไม่ได้รับแบบการเสียภาษีจากทั้งสองคนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม บุคคลทั้งสองจะต้องยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีรายได้ ส่วนการยื่นเสียภาษีจะครอบคลุมถึงการชำระภาษีการซื้อขายหุ้นแอมเพิลริชฯ หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามการชำระภาษีของบุคคลทั้งสองแล้ว โดยหากยื่นภาษีผ่านระบบอินเทอร์เน็ต จะหมดระยะเวลา 24.00 น. วันที่ 2 เมษายน และหากยื่นผ่านหน่วยงานของกรมสรรพากร จะหมดเวลา 16.00 น. วันที่ 2 เมษายน

นายศานิต กล่าวกรณีที่ คตส.จะประชุมเพื่อพิจารณากรณีการซื้อขายหุ้นแอมเพิลริชฯ เพื่อชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้อง และทำความเห็นถึงกรมสรรพากรให้เรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทา เป็นเงินประมาณ 5,800 ล้านบาท โดยหาก คตส.สรุปว่ามีความผิดจริง ผู้เกี่ยวข้องต้องรับโทษตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 ที่ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้ว หรือจงใจแจ้งข้อความเท็จมาแสดงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ทำนองเดียวกับการเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร

ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน-7 ปี และปรับ 2,000-200,000 บาท แต่จะต้องรอให้ คตส.ส่งหนังสือให้พิจารณาก่อน โดยสรรพากรยังไม่ยืนยันในเรื่องการเรียกเก็บภาษี 5,800 ล้านบาท โดยต้องตรวจรายได้จากส่วนต่างๆ ให้ชัดเจน


ทนายชินวัตรยัน"โอ๊ค-เอม"ไม่จ่ายภาษี


นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณี คตส.มีมติเรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทา กรณีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ซื้อหุ้นแอมเพิลริชฯ ว่า จากการประชุมหารือระหว่างทีมทนายของตนและทนายของบุตร พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่า การยื่นแบบประเมินภาษี ภ.ง.ด.90 ที่ผ่านมา ในการซื้อขายหุ้นแอมเพิลริชฯ ไม่มีรายการคำนวณเสียภาษี เนื่องจากมีเหตุผลดังต่อไปนี้

1.บุตรทั้งสองคนมีตัวแทนไปยื่น เพราะการซื้อขายหุ้นแอมเพิลริชฯ ไม่มีภาระทางภาษี รวมทั้งการซื้อขายหุ้นที่กระทำระหว่างบริษัทแอมเพิลริชฯ กับบุตร พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสองคน กระทำในต่างประเทศ

2.การขายหุ้นที่กระทำระหว่างนายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทา ที่ขายให้แก่สิงคโปร์ กระทำในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมสรรพากรและการตรวจสอบยังไม่ยุติ

โดยยืนยันได้ว่า บุตรของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสองคน ไม่มีเจตนาที่จะปกปิด หรือจงใจไม่ยื่นแบบ ภ.ง.ด. และ 3.การดำเนินการทางธุรกรรมในการขายหุ้นดังกล่าว ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของกรมสรรพากรที่ได้ระบุว่าไม่มีภาระทางภาษี

ดังนั้น ที่ผ่านมานายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทา ไม่ต้องเสียภาษีให้แก่กรมสรรพากร จำนวน 5.8 พันล้านบาท รวมถึงค่าปรับที่คณะอนุกรรมการคำนวณจากฐานภาษีการซื้อขายหุ้นดังกล่าว อย่างไรก็ดี หาก คตส.มีข้อข้องใจ ตนและทีมทนายก็จะใช้เหตุผลดังกล่าวชี้แจง



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์