โหรทำนายพ้นเม.ย.รัฐบาลอยู่ยาวแต่ไม่ถึง 3 ปี ชี้กองทัพเหมือนพี่เลี้ยงช่วยประคองชาติ รบ.ทาบอจ.นิติร่วม


รัฐบาลทาบอจ.นิติร่วมทีมที่ปรึกษากม.ทำงานคู่ขนานกับ"กลไกพิเศษ" "เจตต์" ขอดูก่อนให้ไปทำอะไร วิปรบ.ตั้งคณะทำงานคุมเสียงส.ส. โหรทายพ้นเม.ย.รัฐบาลอยู่ยาว แต่คงไม่ถึง 3 ปี ต้องคืนอำนาจให้ปชช. มีกองทัพเหมือนเป็นพี่เลี้ยงช่วยประคับประคองชาติบ้านเมือง บอก"สนธิ"รอหลังปี"52"ลงการเมือง


โหรทายพ้นเม.ย.รัฐบาลอยู่ยาว

นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหรวารินทร์ โหรชื่อดังจังเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ " ลับ ลวง พราง " ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 เมกะเฮิร์ตซ์ เมื่อวันที่ 17 มกราคม ถึงระยะเวลาในการบริหารประเทศของรัฐบาลว่า ต้องผ่านช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไป ทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ ในเดือนเมษายนทุกอย่างจะคลี่คลายและดีขึ้น แล้วรัฐบาลจะอยู่ปกครองบ้านเมืองในระยะยาว ที่ผ่านมาตลอดปี 2551 ชาติเกิดวิกฤตมากมาย เหมือนเป็นกรรมของแผ่นดิน เมื่อเปิดนิมิต เห็นเป็นการร่วมใจกัน เพื่อสร้างบุญให้กับแผ่นดินเพื่อผ่อนคลายกรรม เมื่อถึงเวลานี้ กรรมได้คลายไปแต่ยังไม่หมดจนกว่าจะผ่านวิกฤตเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ทุกอย่างจึงจะเป็นปกติ ส่วนวิธีการแก้ที่รัฐบาลจะทำบุญประเทศนั้น ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผ่อนคลายกรรมลงไปได้

นายวารินทร์กล่าวว่า ส่วนบทบาทของกองทัพขณะนี้ เหมือนเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งในอดีตการวางดวงเมืองนั้นจะวางดวงของทหารเป็นผู้ที่ดูแลและคู่ราชบัลลังก์ เพื่อรักษาชาติบ้านเมือง ปัจจุบันกองทัพช่วยดูแลความสงบ และความมั่นคงของชาติ ตลอดจนต้องช่วยกันเป็นพี่เลี้ยงช่วยประคับประคองชาติบ้านเมือง เท่าที่ผ่านมากองทัพช่วยดูแลทุกรัฐบาลอยู่แล้ว สำหรับดวงในการปฏิวัติรัฐประหารนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น และเวลานี้พรรคประชาธิปัตย์กับกองทัพจะต้องช่วยกันประคอง แลดูแลซึ่งกันและกัน

บอก"สนธิ"รอหลังปี"52"ลงการเมือง

"จะเกิดวิกฤตใน 1-2 เดือนนี้แต่ผ่านพ้นไป เดือนเมษายนจะเป็นช่วงการคลายกรรม จากนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นไปเรื่อย หลังเดือนธันวาคมจะดีที่สุด ช่วงนั้นอาจมีการปรับเปลี่ยนของบ้านเมือง จากนั้นจะดีขึ้นเรื่อยๆ หากรัฐบาลพ้นวิกฤต 2 เดือนนี้ไปได้จะอยู่ยาว แต่วิกฤตนั้นจะไม่รุนแรงถึงขั้นนองเลือดเหมือนปี 2551 ส่วนการยุบสภานั้น ช่วงนี้ไม่เกิดแน่นอน ดูนายกฯตั้งใจดีในการประคองชาติบ้านเมืองเพื่อฟันฝ่ามรสุม ผมขอเป็นกำลังใจให้ประเทศชาติผ่านพ้นไปได้ด้วยดี" นายวารินทร์กล่าว

เมื่อถามว่า ได้มีโอกาสพบกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.หรือไม่ นายวารินทร์กล่าวว่า ช่วงหลังไม่ได้พบกับท่าน เพราะท่านเดินทางไปต่างประเทศ มีเพียงการพูดคุยทางโทรศัพท์ ถามสารทุกข์สุขดิบ ส่วน พล.อ.สนธิจะเล่นการเมืองหรือไม่เป็นเรื่องอนาคต แต่ พล.อ.สนธิคงต้องกลับมาช่วยกันประคับประคองบ้านเมือง ดูแล้วปี 2552 คงยังจะไม่ลงการเมือง หรือถ้าลงก็ยังไม่เหมาะ แต่คงได้กลับมาหลังปี 2552 เพราะดวงในเวลานี้ยังไม่ใช่ช่วงของ พล.อ.สนธิที่จะได้เป็นนายกฯ เพราะดวงนายกฯตอนนี้ ยังเป็นนายอภิสิทธิ์ และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์จะอยู่ยาวกว่าในอดีต แต่คงไม่ถึง 3 ปี เพราะเมื่อทำทุกอย่างดีแล้ว คงจะคืนอำนาจให้กับประชาชนตัดสินใจอีกครั้ง

นายวารินทร์กล่าวว่า ส่วนที่มีคนมองว่าในอนาคต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จะขึ้นถึงตำแหน่งนายกฯนั้น คงเป็นเรื่องของบุญวาสนา ตนต้องขอดูบุญบารมีอีกระยะหนึ่ง

 

ทาบอจ.นิติร่วมทีมที่ปรึกษากม.

ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายนายกรัฐมนตรี ซึ่งมาจากอธิการบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ ว่า รัฐบาลเห็นว่าควรมีที่ปรึกษา 1 ชุด เข้ามาให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย จึงเชิญนักวิชาการด้านนิติศาสตร์มาร่วมงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการทาบทาม ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากคณบดีคณะนิติศาสตร์หลายมหาวิทยาลัย ทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยอื่นๆ
นายสาทิตย์กล่าวว่า คณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายดังกล่าว จะทำหน้าที่พิจารณากฎหมายทุกฉบับที่เข้าสภา เพื่อให้งานด้านกฎหมายรวดเร็วขึ้น ควบคู่ไปกับงานของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่คณะกรรมการชุดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการปฎิรูปการเมือง ที่นายกฯจะแต่งตั้งในภายหลัง

ทำงานคู่ขนานกับ"กลไกพิเศษ" 

ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯมีดำริ ต้องการให้แก้ไขความขัดแย้งในบ้านเมือง และรัฐบาลต้องการดูแลเรื่องส่วนรวมเป็นหลัก ต้องการเห็นความยุติธรรมและความเป็นธรรม ดังนั้น คณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายจะดูแลภาพรวมในเรื่องปัญหาของคดีและกฎหมาย โดยจะมาช่วยเร่งรัด ทำให้รู้สึกว่ามีความเป็นธรรมมากขึ้นในการแก้ไขปัญหา เป็นการแนะแนวทางต่างๆ ให้รัฐบาลตัดสินใจได้ดีขึ้น โดยนายสาทิตย์จะเป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาดังกล่าว โดยจะทำงานคู่ขนานไปกับกลไกพิเศษ ที่จะเข้ามาสะสางคดีความทางการเมืองต่างๆ โดยจะไม่เข้าไปแทรกแทรงกลไกที่มีอยู่แล้ว ส่วนคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง ต้องหาตัวประธานก่อน จากนั้นให้ประธานไปหากรรมการเอาเอง

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการทาบทาม น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส มานั่งเป็นประธานคณะกรรมปฏิรูปการเมือง นายปณิทานกล่าวว่า ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ก็จะทำงงานได้เร็ว มีประสิทธิภาพ

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า นายภิสิทธิ์ยืนยันว่า การเชิญนักวิชาการด้านนิติศาสตร์ เข้ามาเป็นที่ปรึกษา เพื่อต้องหาทางออกเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อหาทางออกจากวิกฤตให้กับบ้านเมือง ส่วนการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง ถือเป็นเรื่องในอนาคต ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกภาคส่วน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายช่วงปลายเดือนมกราคมนี้

"เจตต์" ขอดูก่อนให้ไปทำอะไร 

ด้านนายเจตต์ โทณะวนิก คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า เพิ่งได้รับการทาบทามให้ไปช่วยเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายรัฐบาล เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา แต่ขอเวลาคิด 2-3 วัน เพราะต้องดูก่อนว่าให้ไปทำอะไร มีอำนาจหน้าที่และการทำงานอย่างไร เพื่อประโยชน์โดยรวมของชาติหรือไม่ การไปช่วยงานต้องไม่ใช่เพียงแค่เพื่อประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ หรือรัฐบาลเท่านั้น

นายเจตต์กล่าวว่า ถ้าให้คณะกรรมการมาดูระบบกฎหมายโดยรวมของประเทศ หรือคดีทางการเมืองอะไรก็แล้วแต่ ที่ไม่ส่งผลให้เกิดการแบ่งข้าง หรือไปไล่บี้ใคร เป็นการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคดีที่ไม่ว่าจะเกิดกับใคร คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าไปตีย้อนหลัง หรือไล่บี้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เช่นไปจัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนคงต้องพิจารณา เพราะคดีเหล่านั้นบางส่วนก็อยู่ในมือพนักงานสอบสวน และบางส่วนอยู่ในระบบตุลาการแล้ว ถ้ายังเป็นเรื่องที่ค้างอยู่ อาทิ คดียึดทำเนียบ ยึดสนามบิน ก็สามารถทำได้ ไม่มีปัญหาอะไร แต่จะเป็นการให้คำปรึกษาในแง่ข้อกฎหมายเท่านั้น ไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดี

วิปรบ.ตั้งคณะทำงานคุมเสียงส.ส. 

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้จับตามเกมในสภา โดยเฉพาะกรอบการเจรจาอาเซียน และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 หรืองบกลางปี เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจการจัดสรรงบประมาณ ว่า ในวันที่ 19 มกราคม วิปรัฐบาลจะประชุมกัน มั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการดูแลเสียงของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้เสนอหลักในที่ประชุมพรรคร่วมมาแล้ว คือ 1.จะให้ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลทำความเข้าใจกับคำชี้แจงของตัวแทนหน่วยงานราชการ เพื่อชี้แจงรายละเอียดต่อที่ประชุมของพรรคตัวเองได้ 2.ในการประชุมสภาสมัยสามัญนี้ ขอให้วิปช่วยประสานงานไปยัง ส.ส.และรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยกันควบคุมเสียงในสภาในการตรวจสอบองค์ประชุม โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายที่รัฐบาลเสนอ

"เบื้องต้นตั้งคณะทำงาน 3 ชุด มาช่วยงานวิปรัฐบาล คือ คณะกรรมการคุมเสียง ส.ส.ในสภา โดยจะให้วิป 1 คนดูแล ส.ส. 5 คน นอกจากนี้ยังตั้งคณะกรรมการประสานงานด้านการเมือง ซึ่งผมจะเป็นหัวหน้า และคณะทำงานด้านกฎหมาย จะให้นายทิวา เงินยวง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน มีหน้าที่ประสานงานข้อกฎหมายกับ ครม. จึงมั่นใจว่าเสียงที่รัฐบาลมีอยู่ทั้ง 261 เสียง จะเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียงและโหวตกฎหมายไปในทางเดียวกัน" นายชินวรณ์กล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์