โสภณป้องปิยะพันธ์ยันไม่เด้งเก้าอี้ ปธ.บอร์ดขสมก.อ้างติดถ่ายรายการ ไม่ว่างแจงเมล์เอ็นจีวี 4พันคัน

รมว.คมนาคมออกโรงป้อง"ปธ.บอร์ดขสมก." ยันไม่เด้งเพราะไม่ผิด หลังกมธ.ป.ป.ช.เสนอปลด เหตุไม่แจงรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน "ปิยะพันธ์"อ้างติดถ่ายรายการทีวี ปัดเปล่าท้าทาย แต่ 16 มิ.ย.ก็คิวเต็ม ย้อนถามว่างวันไหนนัดมา

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ถึงกรณีกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ลงโทษนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ด้วยการถอดถอนออกจากประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการชี้แจงโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ว่าคงไม่เป็นเหตุผลที่เพียงพอที่จะปลดนายปิยะพันธ์ เนื่องจากนายปิยะพันธ์ติดภารกิจอื่น จึงไม่สามารถเดินทางไปชี้แจงคณะกรรมาธิการได้ แต่ส่งตัวแทนคือนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รองประธาน ขสมก.ไปชี้แจงแทนแล้ว

"จึงถือว่านายปิยะพันธ์ไม่ได้ขัดขืนที่ไม่ไปเพราะเขาไม่ว่าง และส่งคนอื่นไปแทนก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่หากไม่ได้ส่งใครไปแทนเลยก็ถือว่าเป็นการบกพร่องในหน้าที่ ผมไม่ปลดเขาหรอก เพราะไม่มีความผิด" นายโสภณกล่าว

นายโสภณ กล่าวถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับเงินในการประชาสัมพันธ์โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ว่าเป็นเงินจากงบประมาณที่จัดทำการศึกษาโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน ซึ่งเป็นงบฯโฆษณาประชาสัมพันธ์หน่วยงานของ ขสมก.อยู่แล้ว

ด้านนายปิยะพันธ์ กล่าวว่า ที่ไม่สามารถไปชี้แจงคณะกรรมาธิการในวันที่ 2 และ 9 มิถุนายนได้ เนื่องจากติดธุระถ่ายทำรายการ "อร่อยร้อยเส้นทาง" ซึ่งนัดหมายล่วงหน้าไว้กับทีมงานนานแล้ว แต่มอบหมายให้นายชัยรัตน์ ในฐานะรักษาการ ผอ.ขสมก. และในฐานะประธานร่างทีโออาร์โครงการรถเมล์ 4,000 คัน รวมทั้งเป็นรองประธานบอร์ด ขสมก.ไปแทน ซึ่งนายชัยรัตน์ถือเป็นผู้บริหารมีความรู้ในรายละเอียดมากกว่าตนเสียอีกจึงให้ไปแทน อย่างไรก็ตาม ตนอยู่ในฐานะประธานบอร์ด ซึ่งเป็นผู้อนุมัติโครงการเท่านั้น แต่ที่ก่อนหน้านี้ออกมาชี้แจง เพราะต้องการให้ประชาชนเข้าใจถึงความจำเป็นของโครงการเท่านั้น

ส่วนงบประมาณในการชี้แจงโครงการลงหนังสือพิมพ์นั้น นายปิยะพันธ์กล่าวว่า เท่าที่ฝ่ายบริหาร ขสมก.รายงานทางปากเปล่าให้ทราบว่าอยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านบาท เมื่อบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมแล้วประมาณ 2.1 ล้านบาท ขณะที่โฆษณาทางบิลบอร์ด เป็นของพรรคภูมิใจไทย ไม่เกี่ยวข้องกับงบประมาณของ ขสมก.แต่อย่างใด  

เมื่อถามว่า คณะกรรมาธิการนัดชี้แจงอีกครั้งในวันที่ 16 มิถุนายน จะไปหรือไม่ นายปิยะพันธ์กล่าวว่า คงไปไม่ได้เช่นกัน เพราะไม่ว่างจริงๆ ไม่ได้ต้องการท้าทายอะไร แต่เพราะต้องถ่ายทำรายการ ส่วนใหญ่จะเป็นทุกวันอังคาร เพราะต้องออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี ส่วนวันอื่นมีประชุมอีกหลายคณะ ก่อนหน้านี้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า สัปดาห์หน้าจะว่างวันที่ 15 มิถุนายน ช่วงบ่าย วันพุธที่ 17 มิถุนายน ช่วงเช้า วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน ช่วงเช้า และเพิ่มให้อีก 1 วัน คือ วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน ช่วงบ่าย หากคณะกรรมาธิการว่างวันไหน สามารถนัดได้ทันที พร้อมไปชี้แจงทุกเรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมาธิการระบุว่าหากไม่มาชี้แจงวันที่ 16 มิถุนายน จะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อปลดออกจากตำแหน่งประธานบอร์ด ขสมก. นายปิยะพันธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยยื่นหนังสือลาออกจากประธานบอร์ด ขสมก.กับนายโสภณแล้ว เนื่องจากเหนื่อยที่ต้องเป็นประธานบอร์ดอีก 2 แห่ง คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ (ทอท.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บ.ข.ส.) แต่นายโสภณไม่อนุมัติ โดยบอกว่าอยากให้ช่วยงานก่อน เพราะโครงการรถเมล์ 4,000 คัน ถือเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างมาก แต่ยังมีหลายฝ่ายไม่เข้าใจ ต่อไปจะเป็นอย่างไร ก็พร้อมปฏิบัติตามทุกอย่าง 

วันเดียวกัน น.ส.ศุภมาศ อิสรภักดี รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พรรคภูมิใจไทย ออกแจกสมุกปกขาวที่มีเนื้อหาชี้แจงโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่ามีประโยชน์และคุ้มค่า ย่านอนุเสารีย์ชัยสมรภูมิ หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ด แยกราชประสงค์ และป้ายรถเมล์สำคัญๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯกว่า 1 ล้านฉบับ โดยเอกสารมีความหนา 12 หน้า ขนาดครึ่งหนึ่งของกระดาษเอ 4 หน้าปกจะเขียนเอาไว้ว่า "พรรคภูมิใจไทย ตั้งใจทำ เพื่อประชาชน" พร้อมแจกแจงรายละเอียดการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี (ป.อ.) 4000 คัน ค่าโดยสาร 1 เที่ยว 12 บาทตลอดสาย  1 วัน 30 บาทขึ้นได้ทุกคัน ตั๋วเดือน 800 บาทลดพิเศษ และตั๋วนักเรียน 600 บาทต่อเดือน ซึ่งหน้าในมีคำชี้แจงของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ และนายโสภณ พร้อมรายละเอียดต่างๆ เต็มทั้ง 12 หน้า

น.ส.ศุภมาศกล่าวว่า ไม่ได้กังวลต่อมติคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ด สศช.) ไม่ว่าจะเป็นประเด็นให้เช่าหรือซื้อ แต่พรรคต้องการให้โครงการนี้เดินหน้าอย่างเร็วที่สุด เพื่อลดภาระของประชาชนผู้ใช้รถเมล์ อยากขอร้องไปยังกลุ่ม ส.ส.ที่พยายามขัดขวางโครงการนี้ ให้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนมากกว่าเป็นเกมการเมือง และขอยืนยันว่า พรรคไม่ได้มองว่าโครงการนี้เป็นการหาเสียงเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ มีดุลพินิจในการตัดสินใจ

ขณะที่ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า ขอย้ำอีกครั้งว่า ปชป.ในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ให้เกียรติในการร่วมงานกับพรรคร่วมทุกพรรค เราไม่ได้กังวลเรื่องการช่วงชิงพื้นที่แต่อย่างใด เห็นได้จากการที่ ปชป.สนับสนุน ภท.ในเลือกตั้งซ่อมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง 2 จังหวัด ทั้งนี้ แนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วม คือการหารือร่วมกัน ส่วนการเดินหน้าตรวจสอบของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ท.) พรรคถือว่าเป็นการทำหน้าที่ร่วมกัน ไม่ได้เป็นเพราะ ปชป.ต้องการโจมตี ภท.แต่อย่างใด โดยแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องเสียงวิจารณ์โครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ที่ดีที่สุดก็คือ รอให้ผลการศึกษาของสภาพัฒน์ออกมาก่อน ที่จะด่วนพูดหรือตัดสินใจไปในแนวทางใด

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย แจกเอกสารสุดปกขาวชี้แจงกรณีการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4000 คันว่า เท่าที่ทราบเบื้องต้นจัดทำ 5 แสนเล่ม คิดเป็นตัวเลขประมาณเล่มละ 20 บาท รวมถึงการซื้อพื้นที่โฆษณาตามสื่อต่างๆ ขอตั้งข้อสังเกตว่านำงบประมาณจากส่วนใดมาใช้ และเป็นการแทรกแซง ทำงานซ้ำซ้อนกับสภาพัฒน์ หรือไม่ เพราะหนังสือปกขาวเป็นข้อมูลจากพรรคภูมิใจไทยฝ่ายเดียว ทั้งที่ที่มีการกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยขัดขวางโครงการนั้น ขอชี้แจงว่าได้ทำหน้าปกป้องผลประโยชน์ชาวกรุงเทพฯ จึงขออย่าพูดเอาความดีใส่ตัวเอาความมัวหมองให้คนอื่น

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์