โวยเพื่อไทยเล่นนอกกรอบ


ปชป.โวย พท.ใช้ยุทธศาสตร์ใส่ความ กดดันการทำงานของ กกต.-ทหาร-ประธานองคมนตรี หวังสร้างความวุ่นวายหลังเลือกตั้ง


เมื่อเวลา 11.30  น. วันที่ 5 มิ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์  ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ และประธาน ส.ส.ภาค กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวว่า ทางพรรคมีความกังวลเป็นอย่างมาก ถึงยุทธศาสตร์ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ที่อาจจะนำไปสู่ความวุ่นวายภายหลังการเลือกตั้ง เนื่องจากเห็นว่าพรรคเพื่อไทยพยายามพูดมาตลอดว่าพรรคจะได้ ส.ส.เกินครึ่งหรือ 270 เสียง และจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยเสียงข้างมาก จึงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้


นายองอาจ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังให้สมาชิกพรรคพยายามกล่าวหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาทิ การพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน เพื่อนำไปใช้ในการทุจริตเลือกตั้ง การพิมพ์บัตรเลือกตั้งเคลือบมันทำให้กาเบอร์ 1 ไม่ได้หรือแม้กระทั่งการปล่อยข่าวบิดเบือนเชื่อมโยงว่าประธาน กกต.นัดพบกับประธานองคมนตรีด้วยสาเหตุต่าง ๆ หรือล่าสุดที่ออกมากดดัน กกต.ว่ามีการทุจริตเลือกตั้ง และกล่าวหาว่ารัฐบาลใช้อำนาจรัฐสั่งการให้ทหารลงคะแนนให้ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์หรือการปล่อยข่าวว่า กอ.รมน. ให้สั่งการให้หน่วยทหารช่วยงานพรรคประชาธิปัตย์ในการหาเสียง
                                            
นายองอาจ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งหมดนี้เป็นการเปิดเกม เพื่อให้สอดรับการตัวเลข 270 เสียง โดยยัดเยียดข้อกล่าวหาบิดเบือนและชี้นำสังคม เพื่อนำไปสู่ข้ออ้างหลังการเลือกตั้งได้เสียง ส.ส.ไม่ถึง 270 เสียง ก็จะปั่นกระแสว่ามีการโกงการเลือกตั้ง ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองอีกครั้ง จึงอยากถามพรรคเพื่อไทยว่า จะดำเนินยุทธศาสตร์ดังกล่าวไปเพื่ออะไร ทั้งที่เรื่องต่าง ๆ ที่ยกมาทาง กกต.ตลอดจนหน่วยงานที่ถูกพาดพิงต่างออกมายืนยันแล้วว่าไม่เป็นความจริง

"นอกจากนี้ผมยังห่วงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาของตัวเอง ต้องแก้ไขด้วยกระบวนการทางการเมือง ไม่ใช่ระบบยุติธรรม ทั้งที่ข้อเท็จจริงความผิดได้เกิดจากการกระทำ โดยต้องแยกแยะอย่าเอาเรื่องการกระทำความผิดกฎหมายต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรมมาโยงกับงานการเมือง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับทำทุกอย่างผ่านเครือข่ายกลไกที่มีทั้งในสภาและนอกสภา กดดัน ทั้งที่เรื่องของคดีความต้องผ่านการพิจารณาตามกระบวนการตามกฎหมายและระบบยุติธรรม แต่หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะอ้างความปรองดอง เพื่อไม่ให้ต้องรับโทษก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะถือเป็นการใช้การเมืองมาลบล้างความผิดทางอาญาของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง" นายองอาจกล่าว.



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์