โวยถูกสกัดตั้งเวทีปราศรัย ยันไม่โจมตีคมช.-รัฐบาล

 
เพื่อรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ว่าเราประสบปัญหาการตั้งเวทีมาก ทั้งที่พื้นที่สนามหลวงกว้างใหญ่ จากการประสานงานไปยังกรุงเทพมหานคร (กทม.) อ้างว่ากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ใช้พื้นที่แล้ว ต้องไปเจรจาเอง เราก็ไปเจรจา ซึ่ง นปก.ให้ใช้พื้นที่ได้ แต่เมื่อคืนวานนี้ (14 ส.ค.) ระหว่างที่ตั้งเวทีก็มีปัญหาอีก เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าจะไม่ให้ตั้งเวที ให้ไปใช้เวที นปก. ซึ่งไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ตั้ง เพราะใช้เวทีเสร็จวันนี้ ก็รื้อทันที  

นายพงศ์เทพ กล่าวต่อว่า เวทีปราศรัยจะเริ่มในเวลาประมาณ 16.00-22.30 น.

ผู้ที่ขึ้นเวทีมีหลายคน อาทิ นายสุธรรม แสงประทุม นายอดิศร เพียงเกษ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายจาตุรนต์ ฉายแสง ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง  การแสดงความเห็นเรื่องประชามติตามหลักการ ต้องปล่อยให้มีการแสดงออก ต้องเปิดโอกาสให้ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้แสดงความคิดเห็น  

 
"ทีป้ายที่ทางด่วน นายเสรี สุวรรณภานนท์ รองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ใช้เงินหลวงทำ ไม่เห็นมีใครโต้แย้งอะไร มีการเกณฑ์ประชาชนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้มารณรงค์ใช้สิทธิลงประชามติและมีหนังสือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สนับสนุนเงินให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน 200 บาทต่อคน กลับไม่มีใครพูดถึง" นายพงศ์เทพ กล่าว  

แกนนำกลุ่มไทยรักไทย ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการจ่ายเงินคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกลุ่มไทยรักไทย อยากถามว่าถ้าใครไปทำอย่างนั้น ใช้เงินเท่าไร ได้ประโยชน์อะไร ไม่มีใครมีเงินไปจ่ายได้ขนาดนั้น เมื่อถามว่า หลังวันที่ 19 ส.ค. หากคนออกมารับร่างรัฐธรรมนูญมากกว่าจะยอมรับหรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ถ้าผลออกมาโดยสุจริตยุติธรรม เราก็เข้าสู่กระบวนการตามรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่ถ้าประชาชนไม่รับร่าง เชื่อว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และคณะรัฐมนตรี ต้องนำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ และถ้านำมาใช้จริง เราเชื่อว่าการเลือกตั้งจะดีขึ้นกว่าเดิม  

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานที่ปรึกษากลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า

การขึ้นเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวงในเย็นวันนี้ ทำในนามอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแต่ประการเดียวเท่านั้น โดยจะไม่มีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ส่วนที่ต้องขึ้นเวทีเพราะต้องการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ เนื่องจากถูกปิดกั้นการใช้สื่อของรัฐและไม่ได้รับการส่งเสริมจากสื่อมวลชนบางแขนง  

ขณะที่ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการโฆษณาของกลุ่มไทยรักไทยทางหนังสือพิมพ์

มีใจความว่าถ้าเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญปี 50 มาตรา 309 จะรับรองการกระทำของ คมช. ทั้งที่ชอบและไม่ชอบด้วยกฎหมายว่า น่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งยังอยู่ในขอบข่ายที่กระทำได้ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกลุ่มไทยรักไทย อยากถามว่าถ้าใครไปทำอย่างนั้น ใช้เงินเท่าไร ได้ประโยชน์อะไร ไม่มีใครมีเงินไปจ่ายได้ขนาดนั้น