โพลล์ชี้ตร.หนุนจุมพล-ปทีบเป็นผบ.ตร.

พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย


             (20ส.ค.) ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัย “เอแบคเรียลไทม์โพลล์” ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างเชิงระบบจากบัญชีรายชื่อ เรื่อง ถามใจตำรวจ หนุนใครเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไป กรณีศึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ จำนวน 1,031 นาย ดำเนินการสำรวจในวันที่ 19 สิงหาคม 2552 ผลการสำรวจเมื่อสอบถามความคิดเห็นตำรวจเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ที่ต้องการพบว่า ร้อยละ 100.0 ระบุต้องปกป้องสถาบันสูงสุดของประเทศ รองลงมาคือร้อยละ 99.3 ระบุต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 99.0 ระบุเป็นนักพัฒนาระบบงานตำรวจเพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ร้อยละ 98.5 ระบุดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างทั่วถึง ร้อยละ 97.8 ระบุกล้าคิดกล้าทำ ร้อยละ 97.4 ระบุเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายการเมือง


พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ

 
            นอกจากนี้พบว่าร้อยละ 96.6 ระบุผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ควรรู้จักประนีประนอม แก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติได้  ร้อยละ 96.6 เช่นเดียวกันที่ระบุว่าเป็นนักพัฒนาระบบงานตำรวจเพื่อตำรวจ ร้อยละ 95.0 ระบุมีผลงานเป็นที่ประทับใจประชาชน  ร้อยละ 94.2 ระบุไม่ยอมให้ฝ่ายการเมืองเข้าแทรกแซง 93.4 ระบุแก้ปัญหาการซื้อขายตำแหน่งในองค์กรตำรวจ และร้อยละ 85.8 ระบุ ไม่ก้าวก่ายการแต่งตั้งโยกย้ายที่เป็นอำนาจของผู้บัญชาการระดับภาค ตามลำดับ

พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย


          ดร.นพดล กล่าวว่า เมื่อสอบถามความคิดเห็นของตำรวจต่อภาพลักษณ์ตำรวจที่ได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนในช่วง 30 วันที่ผ่านมาพบว่า ร้อยละ 44.1 ระบุได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนว่ามีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีมากกว่า ในขณะที่ร้อยละ 15.7  ระบุมีภาพลักษณ์ที่ดีมากกว่า และร้อยละ 40.2 ระบุพอๆ กัน


            เมื่อถามความคิดเห็นของตำรวจต่อหลักเกณฑ์ในการพิจารณาความดีความชอบในหน่วยงานของตนพบว่า ร้อยละ 21.1 ระบุใช้ระ บบอุปถัมภ์มากกว่า (อาทิ เส้นสาย การเอาใจผู้บังคับบัญชา พวกพ้อง และการซื้อขายตำแหน่ง) ร้อยละ 36.1 ระบุใช้คุณธรรมมากกว่า เช่น การพิจารณาตามความรู้ความสามารถ และระบบอาวุโส ทั้งนี้ร้อยละ 42.8 ระบุใช้ทั้งสองระบบร่วมกัน อย่างไรก็ตามแม้องค์กรตำรวจขณะนี้มีปัญหามาก แต่ผลสำรวจพบว่าคะแนนเฉลี่ยความภูมิใจต่อการเป็นข้าราชการตำรวจสูงมากจากการสำรวจครั้งนี้มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 8.43 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน


พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย


            ประเด็นที่น่าพิจารณาคือเมื่อสอบถามความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ในการดำรงตำแหน่งผู้บัญ ชาการตำรวจแห่งชาตินั้นพบว่า ร้อยละ  88.9 ระบุควรอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนเกษียณอายุราชการ ขณะที่ ร้อยละ 11.1 ระบุควรมีการปรับย้าย 


           เมื่อถามถึงการสนับสนุนผู้ที่จะขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ต่อจากพล.ต.อ.พัชรวาท ตำรวจผู้ตอบสามารถจะสนับสนุน ได้มากกว่า 1 ชื่อ พบประเด็นสำคัญคือ ตำรวจชั้นประทวนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.7 และชั้นสัญญาบัตร ร้อยละ 58.3 สนับสนุน พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย อย่างไรก็ตามจำนวนที่ไม่แตกต่างกันของตำรวจชั้นสัญญาบัตรคือ ร้อยละ 58.6  และชั้นประทวนร้อยละ 49.9 สนับสนุน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ขณะที่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ได้รับการสนับสนุนจากตำรวจชั้นประทวนร้อยละ 29.7 และชั้นสัญญาบัตร ร้อยละ 36.7 ในขณะที่ตำรวจชั้นประทวน หรือร้อยละ 65.1 และตำรวจชั้นสัญญาบัตร ร้อยละ 62.5 ระบุสนับสนุนบุคคลท่านอื่น อาทิ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ และ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นต้น 


พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ


             ผอ.เอแบคโพลล์ กล่าวว่า สรุปก็คือว่า ข้าราชการตำรวจอยากได้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปที่ต้องปกป้องสถาบันสูงสุดของประเทศ ซื่อสัตย์สุจริต อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนทั่วไป กล้าคิดกล้าทำ ไม่ฝักใฝ่การเมือง ประนีประนอมลดความขัดแย้งของคนในชาติได้ จนถึงไม่ก้าวก่ายการแต่งตั้งโยกย้ายในส่วนที่ผู้บัญชาการภาครับผิดชอบ และงานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่า ผลความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับตำรวจในรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้คือเสียหายด้วยกันทั้งคู่

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์