โผครม.ปู3ว่อนแดงบีบแก้รธน.

โผครม.ปู3ว่อนแดงบีบแก้รธน.


โผ 'ครม.ปู 3' ฝุ่นตลบ บ้านเลขที่ 111 ตบเท้า 'จาตุรนต์-อภิวันท์-ชิดชัย-เสริมศักดิ์-ศิธา' ชื่อโผล่แคนดิเดต พท.จ้องหั่นโควตา ชทพ. หลังคุมส.ส.ไม่อยู่ ด้าน 'เสื้อแดง' เรียกถก พลิกยุทธวิธีกดดันแก้รธน.
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวว่า อาจจะมีการปรับครม.เกิดขึ้น ในช่วงปลายเดือนมิ.ย.-กลางเดือนก.ค.นั้น ล่าสุดมีความเป็นไปได้ว่า น่าจะเป็นการปรับครม.ครั้งใหญ่ในหลายตำแหน่ง และจะมีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้าไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย

 ทั้งนี้ มีรายงานว่า มีรายชื่อผู้ที่คาดว่า จะเข้ามารับตำแหน่ง อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง คาดว่า จะได้ดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ หรือ รมว.มหาดไทย ซึ่งหากนายจาตุรนต์ ดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ก็จะได้ดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย แต่หากนายจาตุรนต์ ดำรงตำแหน่งรมว.มหาดไทย พ.อ.อภิวันท์ ก็จะดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการแทน

          รายงานระบุว่า นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการคนปัจจุบัน จะถูกปรับออกจากครม. และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ จะดำรงตำแหน่งรองนายกฯ เพียงตำแหน่งเดียว สำหรับตำแหน่งรมช.มหาดไทย 2 ตำแหน่งนั้น ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน โดยเบื้องต้น คาดว่า นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช และพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ และนายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทยคนปัจจุบันจะถูกปรับออกจากครม.

          ทั้งนี้ ในส่วน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อาจจะถูกปรับออกจากครม. แล้วคืนโควตาให้ภาคกทม. เพื่อคัดสรรบุคคลมาผู้ดำรงตำแหน่งแทนด้วย โดยเบื้องต้นมีความพยายามที่จะผลักดันน.ต.ศิธา ทิวารี ให้มาดำรงตำแหน่งแทน
 
เล็งขอโควต้ารมต.คืน จาก ชทพ.
          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับโควตาในสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ขณะนี้ มีความเป็นไปได้ ที่พรรคเพื่อไทยอาจจะขอโควตารัฐมนตรีคืนจากพรรคชาติไทยพัฒนา 1 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ ตำแหน่งรมช.พาณิชย์ ของนายนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมองว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่สามารถควบคุมเสียงส.ส.ได้ จนทำให้การขอเลื่อนญัตติขึ้นมาพิจารณาไม่สามารถทำได้ และทำให้ญัตติดังกล่าวต้องตกไป
          รายงานแจ้งว่า อาจมีความจำเป็นต้องขอโควตารัฐมนตรีคืน จากพรรคชาติไทยพัฒนา 1 ตำแหน่ง ซึ่งหากพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ยอม หรือขู่จะถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยก็เตรียมหาทางออกไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยจะดึงส.ส.พรรคภูมิใจไทยในกลุ่มของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน มาร่วมรัฐบาลแทน เพื่อไม่ให้กระทบต่อเสียงของรัฐบาลให้มากนัก
          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับบ้านเลขที่ 111 และส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่คาดว่า อาจจะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในการปรับครม.ครั้งหน้า แต่ยังไม่สามารถระบุกระทรวงได้ในขณะนี้นั้น มีอาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร 
 
'เสื้อแดง' เรียกถกด่วน วางยุทธวิธีกดดันแก้รธน.
          นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. เปิดเผยว่า วันที่ 19 มิ.ย.55 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ที่ชั้น 4 ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว จะมีการประชุมระดับแกนนำนปช.ทั้งชุดเก่าและชุดใหม่กว่า 30 คน อาทิ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำนปช. นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานนปช. นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตประธานนปก. และนายอดิศร เพียงเกษ แกนนำนปช. เป็นต้น
          ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันหารือถึงยุทธวิธีแนวทางของคนเสื้อแดง เพราะที่ผ่านมาบางคนท้อแท้และท้อถอย ที่พรรคเพื่อไทยไม่ยอมโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291วาระ3 ทั้ง ๆ ที่จุดยืนของกลุ่มนปช.ชัดเจนว่า ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย
          ประกอบกับประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารนั้น ล้วนหวังว่า ฝ่ายนิติบัญญัติจะเข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อผลออกมาว่า ยังไม่มีการโหวตในวาระ 3 จึงทำให้บางคนท้อแท้ จึงต้องมาพูดคุยเพื่อหาแนวทางยุทธวิธีว่าจะเอาอย่างไรต่อไป
 
'กทม.' โวย 'ดีเอสไอ' ไร้อำนาจสอบปม 'บีทีเอส'
          นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ได้ลงนามเอกสารเพื่อยื่นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตามที่ได้ร้องขอมาเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.55 แล้ว ซึ่งดีเอสไอระบุให้กทม.ชี้แจงกรณีต่อสัญญาจ้างเดินรถบีทีเอสเป็นระยะเวลา 30 ปี รวมทั้งจะสำเนาคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอ ที่ระบุว่า หากกรณีการทุจริตมีผู้เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการการเมือง ดีเอสไอไม่มีอำนาจในการสอบสวน ต้องส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 66 ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.ก็เข้าข่ายเป็นตำแหน่งข้าราชการการเมืองเช่นกัน
           "ขอบเขตอำนาจป็นเรื่องของ ปปช. ตามมาตรา 66 จึงต้องส่งเรื่องนี้ให้ ปปช.ตัดสิน ไม่ใช่ดีเอสไอ ซึ่งในเอกสารชี้แจงที่จะส่งให้ดีเอสไอ จะยังคงมีการยืนยันว่า กทม.ไม่ได้ต่อสัญญาสัมปทาน แต่เป็นการจ้างเดินรถตามอำนาจของผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเอกชนไม่ได้มีส่วนได้เสียกับผลกำไร แม้ว่าดีเอสไอจะไม่มีอำนาจสอบสวน แต่เมื่อขอข้อมูลมา กทม.ก็พร้อมจะให้ตรวจสอบ"

           ด้านนายอัศวัชร์ อภัยวงศ์ ที่ปรึกษานายธีระชน กล่าวถึงกรณีที่ส.ส. พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนกทม.จ้างเดินรถบีทีเอส 30 ปี ต่อดีเอสไอว่า กรณีเหมือนกับการแจ้งความผิดโรงพัก เพราะดีเอสไอไม่มีอำนาจในการสอบสวน ซึ่งที่ผ่านมานายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ออกมาแถลงเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.55 ในทำนองว่า นักฟุตบอลเล่นผิดกติกาแล้วมาโทษกรรมการ
          "นายธาริต คงลืมไปว่า ความจริงแล้วเป็นเพียงคนดูฟุตบอลแล้ว แต่คิดว่า ตัวเองเป็นกรรมการจึงกระโดดลงสนาม เอานกหวีดมาเป่าเข้าข้างส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เล่นผิดกติกา ซึ่งที่จริงแล้วกรรมการตัวจริงในเกมส์นี้คือ ปปช. ไม่ใช่ ดีเอสไอ"
           ทั้งนี้ มีรายงานจากฝ่ายบริหาร แจ้งว่า การสอบสวนกรณีบีทีเอสที่ดีเอสไอจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ในวันที่ 27 มิ.ย.55 นี้ กทม.คาดว่า จะถูกบรรจุป็นคดีพิเศษแน่นอน เพราะบอร์ดกคพ.ส่วนใหญ่เป็นคนรัฐบาล โดยมีการสั่งการจากคนดูไบ ให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด ก่อนจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพื่อลดความน่าเชื่อถือของผู้บริหารกทม.ชุดนี้ โดยเฉพาะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.
"คาดว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ในฐานะประธาน จะทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมกรณีนี้เอง หลังจากที่ผ่านมาในกรณีอื่น ๆ ได้มอบหมายให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ทำหน้าที่เป็นประธานแทน" แหล่งข่าว ระบุ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์