โต้พธม.ตั้งพรรค ปชป.สาขา2 ฮั้วเลือกตั้งไม่ได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00น. วันนี้ (26 พ.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ให้สัมภาษณ์ถึง การที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ว่า จริง ๆ พธม.เพิ่งตัดสินใจตั้งพรรคกันเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ในพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่มีการคุยกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนว่าจะย้ายพรรคหรือไม่ แต่การเคลื่อนไหวทางการเมืองต้องถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ละคนสามารถเลือกที่จะจะไปสังกัดอยู่พรรคใดก็ได้ในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง ในพรรคประชาธิปัตย์เองเราไม่เคยปิดกั้นคนที่ต้องการตัดสินใจทางการเมือง พรรคตั้งมานาน 60 กว่าปี มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายพรรคบ่อย แต่เรายังเชื่อมั่นว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคยังคงทำงานอยู่กับพรรคต่อไป และในการเลือกตั้งครั้งหน้าคงจะมีหน้าใหม่เข้ามาร่วมงานกับพรรคอีกจำนวนมาก อาจเป็นเพราะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี และทำงานแล้วมีคนรุ่นใหม่มาสมัครทำงานกับพรรคเป็นจำนวนมาก

เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ว่าถ้ามีการเลือกตั้งในวันนี้พรุ่งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะได้ส.ส.เท่าไหร่ นายสาทิตย์ ตอบว่า คงประเมินยาก

เพราะสถานการณ์การเมืองยังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การตั้งพรรคใหม่ของ พธม. หรือ พรรคภูมิใจไทย หรือตัวแปรหลักอย่างพรรคเพื่อไทยก็ยังมีความไม่แน่นอนในแต่ละพรรคว่าจะมีส.ส.โยกย้ายหรือไม่อย่างไร หรือแม้แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งหรือไม่ ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้คิดถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า คิดแต่จะแก้ปัญหาความวิตกกังวลของประชาชนต่อเรื่องเศรษฐกิจอย่างไร ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั่วไปก็เรื่องปกติธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีอะไรวิตกกังวล

เมื่อถามว่า เมื่อ พธม.ตั้งพรรคขึ้นมาแนวทางการควบคุมดูแลสื่อจะทำอย่างไร จะปล่อยให้สถานีเอเอสทีวีดำเนินการไปปกติหรืออย่างไร

นายสาทิตย์ ตอบว่า ไม่ว่าใครตั้งพรรคขึ้นมาสถานภาพก็เปลี่ยนไป ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทาง กกต.ต้องกำกับควบคุมอยู่ เรายังหวังว่าจะมีการใช้กฎเกณฑ์กติกา กันอย่างเป็นธรรม ส่วนกรณีการใช้สื่อก็ต้องดูว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบคนอื่นหรือผิดกฎเกณฑ์กติกาใด ๆ หรือไม่  

ต่อข้อถามว่า เกรงว่าในอนาคตจะถูกกดดันมากหรือไม่เพราะมีทั้งพรรคการเมือง มีมวลชนนอกสภาฯและมีสื่อในมือ นายสาทิตย์ ตอบว่า ปัจจุบันเป็นรัฐบาลก็มีปัจจัยรุมเร้าทุกวันอยู่แล้ว

ซึ่งเป็นเรื่องปกติใครมาเป็นรัฐบาลในภาวะวิกฤติบ้านเมืองอย่างนี้ก็ต้องถูกกดดันเป็นธรรมดา ตอนนี้ยังไม่ได้เล็งหรือคิดไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าเลย คิดแต่ทำงานอย่างไรให้ราบรื่น สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมองว่าพรรคของ พธม.จะเป็นพรรคประชาธิปัตย์สาขาสอง นายสาทิตย์ ตอบว่า เป็นเรื่องที่ พธม.ต้องชี้แจงเอาเอง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยตั้งสาขาอยู่แล้ว ประชาธิปัตย์มีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายของพรรค และตนเชื่อว่าพธม.ก็มีอิสระเช่นเดียวกัน ส่วนที่เกรงว่าจะมีการฮั้วกันในสนามเลือกตั้งนั้น ยุคนี้การฮั้วกันในการเลือกตั้งไม่ได้ เพราะอยู่ภายใต้การติดตามตรวจสอบของทั้ง กกต. สื่อมวลชนและพรรคการเมืองอื่น ซึ่งการฮั้วเลือกตั้งมันผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ทำไม่ได้ ส่วนการรับมือแรงกดดันที่จะถาโถมเข้ามา และเสียงโจมตีความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ที่จะเข้ามานั้น ต้องตระเตรียมมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและต้องเตรียมชี้แจงให้ประชาชนตอบสังคมได้ว่า 6 เดือนรัฐบาลได้ทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีอย่างไร 

ส่วนผลการสำรวจโพลภายในของพรรคประชาธิปัตย์เองระบุว่าคะแนนนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นมากผิดหูผิดตาจะสร้างความมั่นใจให้พรรคในการลงสู่สนามเลือกตั้ง

และมีการวางโปรแกรมให้นายกฯ ลงพื้นที่ภาคเหนือและอีสานรวมทั้งพื้นที่ของกลุ่มเพื่อนเนวิน นายสาทิตย์ ตอบว่า คงเป็นลักษณะเชิงวิเคราะห์มากกว่า คงไม่ได้มีโพลโดยเฉพาะ ซึ่งเราดูจากผลการสำรวจโพลต่าง ๆ ว่าสิ่งที่ประชาชนวิตกกังวลหรือมีความต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาคือเรื่องอะไร หลัก ๆ คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง รองลงมาคือการแก้เรื่องวิกฤติความขัดแย้ง ให้คนรักและสามัคคีกัน ส่วนอื่น ๆ ก็คงเป็นการวิเคราะห์ว่าการทำงานในช่วงที่ผ่านมาปัญหาอุปสรรคอยู่ตรงไหนบ้างในความรู้สึกของประชาชน เราก็พบว่าประชาชนยังมีความวิกตกังวลอยู่ แต่ก็มีความเชื่อมั่นว่านายอภิสิทธิ์สามารถแก้ปัญหาได้ รัฐบาลต้องมุ่งมั่นทำงานต่อไป และต้องไม่ให้สิ่งที่พูดจาให้สัมภาษณ์วิพากษ์วิจารณ์กันโดยคนในพรรคมาเป็นอุปสรรคการทำงานของรัฐบาล


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์