โฆษกเชื่ออังกฤษไม่ใช่วิมานที่ แม้วจะเป็นสุขได้ โต้ข่าว ทักษิณ หนีไปอยู่เกาะ เบอร์มิวดา

โฆษกเชื่อ"แม้ว" อยู่อังกฤษไม่เป็นสุขเหมือนเมืองไทย เชื่อ "ทักษิณ"จะไปอยู่เบอร์มิวดาไม่มีมูลความจริง ไม่รู้เรื่องนายลาออกปธ.แมนฯ ซิตี้ " หลังสโมสรขอให้ลาออก เผยเจ้าตัวบอก"ละอาย" ทำเสื่อมเสีย "เตช" ย้ำนายกฯชี้ขาดริบพาสปอร์ต "ชัยสิทธิ์" บอกความยุติธรรม "ชอบกล"

โฆษกเชื่อ"แม้ว" อยู่อังกฤษไม่สุข

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายเอวาร์ท เฟรเดอริค บราวน์ จูเนียร์ นายกรัฐมนตรี ประเทศเบอร์มิวดา พร้อมจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวลี้ภัยในเกาะเบอร์มิวดา ว่า ไม่เคยได้รับข้อมูลนี้ผ่านบุคคลใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเลย ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านสื่อและเป็นข้อมูลจากเบอร์มิวดาฝ่ายเดียว ไม่ได้ออกจาก พ.ต.ท.ทักษิณเลย ดังนั้น จึงไม่คิดว่าเรื่องนี้มีมูลความจริงหรือไม่ ส่วนที่มีข่าวระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะขอลี้ภัยในอังกฤษนั้น ขณะนี้ก็ยังไม่รับข้อมูลที่ชัดเจนจากท่าน แต่เป็นข้อมูลจากคนอื่น ถือเป็นเรื่องที่คาดกันไปเอง อีกทั้งช่วงนี้ตนไม่ได้โทรศัพท์สอบถามจากท่านโดยตรง แต่จะประสานงานผ่านเลขาฯส่วนตัว เพราะไม่อยากรบกวน แต่ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ ก็จะอี-เมลติดต่อกับเลขาฯส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อให้ประสานงาน

"หากไม่จำเป็นผมก็จะไม่โทรศัพท์ไปรบกวนท่าน เพราะท่านคงอยากมีเวลาอยู่อย่างสงบ แต่ที่ผ่านมามีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากติดต่อผ่านผมเพื่อจะขอสัมภาษณ์ท่าน ซึ่งผมก็ติดต่อผ่านอี-เมล เชื่อว่าหลังจากท่านทักษิณไปอยู่ประเทศอังกฤษก็คงไม่มีความสุข เพราะจากที่เคยเดินทางไปเยี่ยมช่วงที่อยู่ต่างประเทศนั้นท่านบอกว่ารักประเทศไทยและมีความปรารถนาจะอยู่เมืองไทย การไปอยู่ต่างประเทศจึงไม่ได้อยู่อย่างมีความสุขแน่นอน คนที่เคยไปเยี่ยมท่านก่อนหน้านี้ต่างรู้ดีว่าท่านอยากกลับเมืองไทยมากแค่ไหน" นายพงศ์เทพกล่าว
ไม่รู้เรื่องนายลาออกปธ.แมนฯซิตี้

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะลาออกจากประธานสโมสรแมนฯ ซิตี้ นายพงศ์เทพกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีข้อมูลออกมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับสโมสรแมนฯซิตี้ ส่วนใหญ่โฆษกสโมสรจะเป็นผู้เปิดเผยกับสื่อมวลชนเอง เว้นแต่ว่าโฆษกสโมสรให้ข้อมูลไม่ชัดเจนเท่านั้น เราจึงจะเป็นผู้ให้ข้อมูลกับสื่อ แต่เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่ามีมูลความจริงหรือไม่

ด้าน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณอีกคน กล่าวว่า นับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปบรรยายทางวิชาการที่เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย และ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา ดังนั้น จึงไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวท่านเลย

ส่วนกรณีที่สื่อต่างประเทศประโคมข่าวการจัดอันดับทรัพย์สินของกษัตริย์ประเทศต่างๆ เป็นฝีมือของบริษัท เบล พอตติงเกอร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น น.ส.ศันสนีย์กล่าวสั้นๆ ว่า "ไม่รู้ข้อมูลจริงๆ และไม่ได้โกหก เพราะไม่อยากวิจารณ์ข้อมูลในเรื่องที่ไม่ทราบ"

"เตช"ย้ำนายกฯชี้ขาดริบพาสปอร์ต

วันเดียวกัน ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางการทูตและหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ตนจะหารือเรื่องนี้กับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าวันที่ 26 สิงหาคมก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนที่มีข่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือด่วนที่สุดถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อถามความคิดเห็นเรื่องการยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาของทางกระทรวงนั้น ตนยังไม่เห็นหนังสือดังกล่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรียกร้องให้เพิกถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นการกดดันหรือไม่ นายเตชกล่าวว่า ไม่ได้เป็นการกดดัน เพราะกระทรวงทำงานตามขั้นตอนและหน้าที่

เมื่อถามว่า นักวิชาการบางส่วนมองว่าการเพิกถอนหนังสือเดินทางการทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ นายเตชกล่าวว่า ตนยังไม่เคยเห็นตัวบทกฎหมายที่ระบุไว้ อย่างไรก็ตาม อดีตนายกฯมีหนังสือเดินทางการทูตที่รัฐบาลออกให้เพื่อเป็นเกียรติ และยังมีหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดาเพื่อความสะดวกในการเดินทาง แม้ขอลี้ภัยแล้วก็ยังคงต้องถือหนังสือเดินทางไทยต่อไปได้ ส่วนจะเพิกถอนหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดาหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ ทั้งนี้ ที่ผ่านมายังไม่เคยเพิกถอนหนังสือเดินทางอดีตนายกฯคนใด

"ชัยสิทธิ์" บอกความยุติธรรม "ชอบกล"

ด้าน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และญาติผู้พี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุ เอฟเอ็ม 100.5 ถึงกรณีที่มีข่าว พ.ต.ท.ทักษิณขอลี้ภัยในต่างประเทศว่า ในฐานะคนไทยตนรู้สึกอึดอัด ที่ผ่านมาวางตัวเฉยมาตลอด เพราะคิดว่าความยุติธรรมต้องมีในโลก แต่ตอนนี้รู้สึกชอบกล ทั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็นผลพวงจากการปฏิวัติ และมีกฎหมู่มากดดัน ไม่เข้าใจเมืองไทยว่าไม่มีกฎหมายหรือมีกฎหมายแต่คนไทยไม่เชื่อกัน ดังนั้น คนดีจึงอยู่ไม่ไหว เพราะอึดอัดว่าทำไมถึงไม่จบเสียที ต้องยอมรับว่าคนไทยอยู่ในบรรยากาศที่อึมครึมและไม่สบายใจกันทุกคน หากทุกสิ่งทุกอย่างทำโปร่งใสก็จะทำให้ใสไปหมด แต่ขณะนี้ตนที่วางตัวเป็นกลางมาโดยตลอดรู้สึกว่าชอบกล

"ไหนบอกว่าเป็นประชาธิปไตย แต่นี่มันไม่ใช่ กฎหมู่มากดรัฐบาลอยู่ตลอดเวลาจนทำงานไม่ได้ เขาเป็นใครมาจากไหนไม่หยุดเสียที การจองล้างจองผลาญเป็นนิสัยหนึ่งของคนไทยอยู่แล้ว แต่เราต้องการประจานให้ทั่วโลกรับทราบหรือ ทั้งนี้ จะต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่นอน ไม่ใช่ธรรมดา" พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า นอกจากเหตุผลจากคดีแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณต้องลี้ภัยเพราะเรื่องความปลอดภัยด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า ประจวบเหมาะกันทุกสิ่งทุกอย่าง คือถ้าคนนี้ยังไม่ตายก็ยังเป็นหนามยอกอกเขาอยู่ ซึ่งไม่ใช่ เพราะเขาเป็นที่รักของประชาชน ผิดตรงไหนที่คนรักเขา คนทำความดี ถูกใจประชาชน กลายเป็นทำดี ทำเด่น เหนือกว่า ทำให้เกิดปัญหา การตั้ง คตส.เลือกแต่คนที่เกลียด พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาทำงาน ไม่ว่าเป็นใครก็ตาย

แมนฯซิตี้ขอ"แม้ว" ให้ลาออก

จากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าของและประธานสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังของอังกฤษในพรีเมียร์ลีก ซึ่งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ หลังผิดคำสั่งศาลไม่ไปรายงานตัวในคดีทุจริตที่ดินย่านรัชดาภิเษก จนทำให้สถานการณ์ของสโมสรแมนฯซิตี้ ถูกจับตามองจากพรีเมียร์ลีก ด้วยนั้น

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า นายแกร์รี่ คุก ประธานบริหารของสโมสรแมนฯซิตี้ เปิดเผยว่า ได้เสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสรแล้ว หลังจากที่เจ้าตัวพูดเปิดอกเองว่า หากสโมสรต้องการให้ลาออก และให้เป็นไปตามความต้องการของพรีเมียร์ลีก ก็ยินดีจะทำตาม ตราบใดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องสิทธิในการเป็นเจ้าของสโมสร พร้อมทั้งใกล้จะขายหุ้นจำนวนหนึ่งของสโมสรให้กับนักธุรกิจชาวเอเชียรายหนึ่งเพื่อนำเงินทุนมาใช้ในการซื้อนักเตะเข้าสโมสรด้วย หลังจากต้องไปขอยืมเงินจาก นายจอห์น วอร์เดิล อดีตประธานสโมสรแมนฯซิตี้ ก่อนหน้านี้ เพราะยังไม่สามารถนำเงิน 70,000 ล้านบาท ที่ถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) อายัดไว้ออกมาใช้ได้ 

เผยเจ้าตัวบอก"ละอาย" ทำเสื่อมเสีย 

"พ.ต.ท.ทักษิณรู้สึกละอายใจที่นำความเสื่อมเสียมาสู่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นสโมสรแมนฯซิตี้ หรือพรีเมียร์ลีก ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ และเมื่อพรีเมียร์ลีกมีการตรวจสอบคุณสมบัติที่เหมาะสมในการเป็นเจ้าของสโมสร จึงเป็นเหตุผลที่ต้องขอให้เขาออกจากตำแหน่งประธานสโมสร " นายแกร์รี่ คุก กล่าว
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ เดลี่ เทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานว่า นายแกร์รี่ คุก ได้เข้าพบกับเซอร์เดฟ ริชาร์ดส ประธานพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม เพื่อให้ข้อมูลว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานภรรยาที่หนีจากประเทศไทยมาด้วยกันไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสโมสรแมนฯซิตี้ หลังจากที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของ พ.ต.ท.ทักษิณว่าเหมาะสมต่อการเป็นเจ้าของสโมสรหรือไม่ ซึ่งตามกฎระเบียบของพรีเมียร์ลีกระบุไว้ชัดเจนว่า เจ้าของสโมสรมีสิทธิถูกปลดจากตำแหน่งได้ หากพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดเกี่ยวกับการทุจริตฉ้อโกงไม่ว่าที่ใดในโลก แต่นายแกร์รี่ คุก มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีสิทธิถือครองหุ้นของสโมสรได้ต่อไป เพราะเป็นคนละส่วนกัน  

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์