แห่ศพเหยื่อ 10เมย. ไปคอกวัว-เชิญวิญญาณ แกนนำแดงร่วมเผาวันนี้

แห่ศพ- คนเสื้อแดงแห่ศพนายเทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทร์ อายุ 29 ปี
 จากวัดพลับพลาไชย มาทำพิธีเรียกวิญญาณที่สี่แยกคอกวัว
 ซึ่งเป็นสถานที่ถูกยิง ก่อนเคลื่อนศพไปวัดสีกัน ย่านดอนเมือง
โดยจะฌาปนกิจศพวันที่ 3 เม.ย.นี้

เสื้อแดงร่วมพิธีเคลื่อนศพ′เทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทร์′ เหยื่อกระสุน  เม.ย.′ โดยนำศพไปแยกคอกวัวเพื่อเชิญ วิญญาณจากจุดเกิดเหตุ ก่อนนำไปตั้งที่วัดสีกันดอนเมือง กำหนดเผาวันที่ 3 เม.ย.นี้
 
โดยจะมีแกนนำแดงมาร่วมพิธีพร้อมหน้า พ่อเหยื่อเผยต้องนอนเฝ้าศพทุกคืน หวั่นโดนเจ้าหน้าที่ขโมย ยันจะต่อสู้ต่อจนกว่าผู้สั่งการจะถูกลงโทษ ด้านเทือกแผ่นเสียงตกร่อง′คอมมิวนิสต์′ เรียกเพื่อไทยมาสู้กันตามวิถีประชาธิปไตย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่วัดพลับ พลาไชย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบรรเจิด ฟุ้งกลิ่น จันทร์ อายุ 53 ปี บิดาของนายเทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่น จันทร์ อายุ 29 ปี เหยื่อกระสุนปืนจากเหตุการณ์ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 บริเวณสี่แยกคอกวัว พร้อมด้วยกลุ่มญาติของวีรชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เดียวกันหลายคน และสมาชิกคนเสื้อแดงกว่า 700 คน ได้เดินทางมาร่วมงาน และช่วยกันเคลื่อนย้ายศพนายเทิดศักดิ์ ออกจากวัดพลับพลาไชย เพื่อนําไปประกอบพิธีทาง ศาสนาที่วัดสีกัน ย่านดอนเมือง ระหว่างนี้ทางญาติได้สั่งให้นําศพไปทำพิธีเชิญวิญญาณผู้ตายก่อนบริเวณจุดเกิดเหตุ สี่แยกคอกวัว ประมาณ 5 นาที ก่อนจะเคลื่อนศพต่อไปยังวัดสีกัน ดอนเมืองทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพของนายเทิดศักดิ์ มาถึงวัดสีกัน ในเวลาประมาณ 13.45 น. และได้นําไปตั้งไว้ในศาลา 1/2 ซึ่งพบว่าภายในศาลามีโลงเปล่าและรูปถ่ายของนายเทิดศักดิ์ตั้งอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นทางญาติและคนเสื้อแดง จึงช่วยกันเอาศพมาบรรจุลงโลงที่เตรียมไว้ และจะมีการสวดพระอภิธรรมศพในเวลา 19.00 น. วันเดียวกันนี้เพียงคืนเดียว จากนั้นในวันที่ 3 เม.ย. เวลา 17.00 น. จะทําพิธีเผาทันที ซึ่งจะมีแกนนํานปช.มาร่วมงานครบทุกคน นําโดย นาย จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ฯลฯ

นายบรรเจิดกล่าวว่า ศพของนายเทิดศักดิ์ ลูกชายนั้นตนได้ถูกย้ายออกจากวัดหัวลําโพง แล้วนําไปฝากไว้ที่วัดพลับพลาไชย มานานเกือบ 1 ปี ซึ่งไม่มีใครรู้ เพราะช่วงแรกที่ลูกชายเสียชีวิตมีเจ้าหน้าที่เข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ในวัดหัวลําโพงจํานวนมาก จึงเกรงว่าศพลูกชายจะถูกขโมยไปจึงได้แอบย้าย

"ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ผมแอบไปนอนเฝ้าศพลูกชายที่วัดเกือบทุกคืนเพราะกลัวหาย หากวันไหนไม่ไปก็จะฝากเด็กวัดช่วยดูแล และสั่งห้ามบอกใครหากมีเจ้าหน้าที่หรือคนมาถาม ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่ลำบากมาก" นายบรรเจิดกล่าว

นายบรรเจิดกล่าวด้วยว่า ยังมีวีรชนที่เสียชีวิตพร้อมกับลูกชายหลายรายที่ยังไม่มีการนําไปผ่าพิสูจน์ และรัฐบาลก็ยังไม่รับผิดชอบ ไม่สามารถหาตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษได้ อย่างไรก็ตามถึงแม้ตนจะเผาลูกชายไปแล้วก็จะขอต่อสู้ให้กับลูกชายเพื่อให้เขาได้รับความเป็นธรรมตลอดไป หรือจนกว่าจะสามารถหาตัวผู้สั่งการและผู้ก่อเหตุยิงประชาชนในครั้งนี้มาเข้าคุกได้

นายบรรเจิดกล่าวต่อว่า สําหรับคดีของลูกชายตนนั้นทราบว่าได้ถูกโอนมายังกรมสอบ สวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และก็เป็น 1 ใน 64 ศพ ที่ทางดีเอสไอระบุว่ายังไม่สามารถหาตัวผู้กระทําผิดได้ ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้ตนก็จะขอต่อสู้และจะออกมาร่วมชุมนุมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมร่วมกับคนเสื้อแดงต่อไป ทุกๆ วันที่ 10 เม.ย. และ 19 พ.ค. พร้อมกันนี้ก็ขอฝากไปยัง ดีเอสไอให้ช่วยดําเนินการเกี่ยวกับคดีของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตกว่า 90 ศพนั้นให้ทําคดีแบบตรงไปตรงมา ใครกระทําผิดก็ว่าไปตามหลักฐาน และใครสั่งการหรือใครยิงประชาชนก็ว่าไปอย่างตรงไปตรงมา อย่าทำแบบ 2 มาตรฐานแบบนี้ เพราะผู้เสียชีวิตในแต่ละรายนั้นส่วนใหญ่ มีหลักฐานมากมายว่าใครเป็นผู้กระทําให้ตาย

ด้านนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม กล่าวเสริมว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาครอบครัวตนได้เดินทางไปร่วมงานศพของนายเทิดศักดิ์เหยื่อกระสุนปืนที่เสียชีวิต วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา แยกคอกวัว หลังจากเสร็จพิธีก็เดินทางไปยังเรือนจํากลางอุดรธานีทันที เพื่อไปพบกับบรรดาญาติของคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจําอุดรฯ เพราะขณะ นี้พวกเขาเดือดร้อนมากที่หัวหน้าครอบครัวต้องมาติดคุก หลังจากได้พบกับญาติพวกเขาแล้วก็จะสอบถามข้อมูลแต่ละรายว่าต้องการให้ช่วย เหลือด้านใดบ้าง เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเรื่องการยื่นขอประกันตัวคนเสื้อแดงที่ติดคุกอยู่ เมื่อได้ข้อมูลแล้วก็จะเดินทางมาพบกับอธิบดีกรมคุ้ม ครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ที่กรุงเทพฯอีกครั้ง เพื่อมอบข้อมูลเหล่านี้ให้ไว้พิจารณาเกี่ยวกับการประกันตัวและเรื่องเงินค่าประกัน เพราะฐานะของผู้ต้องขังส่วนใหญ่ยากจน หาเช้ากินค่ำรายได้วันละไม่ถึง 200 บาท จึงต้องเร่งให้การช่วยเหลือโดยเร็ว

เมื่อเวลา 06.19 น. ที่จ.อุดรธานี นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรพร้อมด้วยสมาชิกชมรมคนรักอุดรได้นิมนต์พระภิกษุ 9 วัด จำนวน 9 รูป มาร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปี ของอาณาจักรคนเสื้อแดงอุดรฯ ต่อมา เวลา 07.00 น. นายขวัญชัย พร้อมด้วยพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่ 2 ร่วมกันเป็นประธานเปิดป้ายตึกอาณาจักรคนเสื้อแดง ซึ่งสร้างด้วยวงเงิน 5 ล้านบาทเศษ ถือเป็นอาคารแห่งแรกของคนเสื้อแดงอุดรธานี พร้อมด้วยนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และแกนนำนปช.คนสำคัญได้เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดป้ายและฉลองครบรอบ 5 ปี ร่วมกับสมาชิกชมรมคนรักอุดรด้วย

ต่อมาเวลา 16.00 น. นายขวัญชัย ได้ขึ้นเวทีพร้อมด้วยแกนนำ นปช.ทั้ง 7 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากคุก เพื่อรับการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ โดยมีพราหมณ์ศักดิ์ระพี จากนครปฐมที่เป็นคนนำเลือดไปสาดที่หน้าทำเนียบครั้งที่ผ่านมาเป็นพราหมณ์ในพิธีพร้อมพานบายศรี โดยมีแกนนำ นปช.คนสำคัญเดินทางมาหลายคน อาทิ นายวีระกานต์ นายจตุพร นายณัฐวุฒิ นายสุพร อัตถาวงศ์ และในเวลา 19.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นปราศรัยใหญ่ จากนั้นเวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินมายังเวทีคนเสื้อแดงที่จ.อุดร ธานีด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศของการเดินทางมาร่วมเวทีปราศรัยมีคนเสื้อแดงจากหลายจังหวัดได้เดินทางมาร่วมฟังการปราศรัยของแกนนำคนเสื้อแดงจำนวนมาก

นายขวัญชัยกล่าวว่า สำหรับการจัดงานวันนี้เป็นการเปิดป้ายฉลองครบรอบ 5 ปีของชมรมคนรักอุดรและเป็นการรวมพลคนเสื้อแดงครั้งใหญ่ของคนเสื้อแดง นอกจากจะมีแกนนำนปช. ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันที่ถนนราชประสงค์มาร่วมงานจำนวนมากครบทุกคน ซึ่งแกนนำคนสำคัญของคนเสื้อแดงเดินทางมาร่วมในการปราศรัยใหญ่เป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกที่เขาใหญ่ และพิเศษสุดวันนี้จะเป็นการเปิดตัวส.ส. ของพรรคเพื่อไทยก่อนใครตามเขตเลือกตั้งใหม่ของจ.อุดรธานีจากเดิมมี 10 เขต 10 คน เหลือ ส.ส.เพียง 9 เขต 9 คน ตามการวางตัวผู้สมัครพรรคเพื่อไทยเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในจ.อุดรธานีมีดังนี้ เขต 1 นายศราวุธ เพชรพนมพร, เขต 2 พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์, เขต 3 นายอนันต์ ศรีพันธุ์, เขต 4 นายขจิตร ชัยนิคม, เขต 5 นายทองดี มนิสสาร, เขต 6 นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์, เขต 7 นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น, เขต 8 นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม และเขต 9 นายเทียบจุฑา ขาวขำ ส่วนส.ส.แบบปาร์ตี้ลิสต์ ประกอบด้วย นายวิเชียร ขาวขำ, นายประสพ บุษราคัม, นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น, พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และโควตาของชมรมคนรักอุดรอีก 1 คน การเปิดตัวของส.ส.ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของพรรคเพื่อไทย

ที่โรงแรมสมุย ปาล์มบีช รีสอร์ท นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานงานสัมมนาแกนนำและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ ธานี โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยและพ.ต.ท.ทักษิณพยายามปลุกระดมมวลชน โดยใช้แนวคิดเหมือนสมัยคอมมิวนิสต์ ยกตัวอย่างการที่ปลุกระดมให้โจมตีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่าเป็นอำมาตย์ ซึ่งประชาชนต้องแยกแยะให้ดี

"ที่ประเทศมีปัญหาอยู่ในตอนนี้เกิดจากทั้งเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย คนชุดดำ กองกำลังติดอาวุธที่ต่อสู้เพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมามีอำนาจอีกครั้ง และกลุ่มเสื้อเหลืองที่คิดว่ามีอำนาจ มีมวลชน จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ โจมตีทุกคนที่มีความเห็นแตกต่าง ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แม้มีคนแค่ 300 คน" นาย สุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันขอให้ทุกคนช่วยกันปกป้องสถาบัน และขอยืนยันกับประชาชนว่าที่พูดเรื่องสถาบันนั้น ไม่ได้เป็น การหาเสียง แต่เพื่อความมั่นคงของชาติ ถ้าไม่ปกป้องสถาบันที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดสงครามกลางเมือง แม้บางครั้งที่รู้สึกไม่สบายใจกับพฤติกรรมทางการเมืองของคนไทยในบางจังหวัด แต่ต้องใช้ความอดทน ให้เวลาแก่คนเหล่านั้นได้ไตร่ตรอง จะยกกองกำลังไปโจมตีเหมือนในประเทศลิเบียไม่ได้ ต้องต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย และให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศได้ตัดสิน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยอยากขอให้มาต่อสู้ตามวิถีทางประชาธิปไตย ตามแนวทางของพรรค การเมือง ไม่ควรใช้มวลชนนำการเมือง โดยเฉพาะในบรรยากาศที่จะมีการหาเสียงเลือกตั้ง

"ผมขอปวารณาตัวในฐานะที่เป็นนักการเมืองอาวุโส ตอนนี้อายุ 63 ปีแล้ว ไม่รู้ว่าจะลงสมัครส.ส.ได้อีกกี่ชั่วอายุ แต่เวลาสุดท้ายก็จะทำเพื่อสร้างพรรค ดูแลพรรคที่เป็นของประชาชนให้มีความก้าวหน้า" นายสุเทพกล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์