แย้ม บิ๊กจิ๋ว หวนเล่นการเมืองแน่

คนสนิท พล.อ.ชวลิต เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พล.อ.ชวลิต


ส่วนนายอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคไทยรักไทย คนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พล.อ.ชวลิต ว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค. อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่อยู่พรรคความหวังใหม่เดิมได้เข้าพบ พล.อ.ชวลิตที่บ้านปิ่นประภาคม ซึ่ง พล.อ.ชวลิตได้พูดถึงอนาคตทางการเมืองของตนเองว่า
 
มีแนวโน้มสูงที่จะกลับเข้ามาเล่นการเมือง

แต่จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่หรือเข้าไปอยู่กับกลุ่มหรือพรรคการเมืองใดนั้น คงจะต้องดูความชัดเจนอีกครั้งหลังวันที่ 19 ส.ค. เพราะต้องรอดูผลว่า รัฐธรรมนูญ 50 จะผ่านหรือไม่ ที่ผ่านมากลุ่มไทยรักไทยก็ได้ทาบทามให้ พล.อ.ชวลิตเข้ามาช่วยงาน แต่ พล.อ.ชวลิตได้เคยพูดไว้ว่า หากจะไปทำงานก็ต้องดูปัจจัยหลายๆอย่าง โดยเฉพาะจะเข้ามาช่วยงานในส่วนใด เพราะเท่าที่รู้กลุ่มไทยรักไทยก็มีการวางตัวหัวหน้ากลุ่มไว้แล้ว หากจะให้ พล.อ.ชวลิตเข้าไปทำหน้าที่อื่น เช่น ที่ปรึกษาพรรคก็ต้องดูสถานการณ์ในขณะนั้นด้วย


ชี้ร่วมงาน ทรท.เป็นไปได้มากที่สุด


“ที่ผ่านมาก็มีแกนนำกลุ่มไทยรักไทย เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รวมถึงแกนนำกลุ่มการเมืองหลายกลุ่มที่แตกออกมาจากไทยรักไทย อาทิ กลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์ กลุ่มมัชฌิมา หรือแม้แต่กลุ่มรวมใจไทยก็เข้ามาพบและหารือกับ พล.อ.ชวลิตอย่างต่อเนื่อง แต่เบื้องต้น พล.อ.ชวลิตก็ทำได้เพียงประสานกับทุกกลุ่มไว้อย่างต่อเนื่อง ยังไม่ได้ตัดสินอะไรชัดเจน แต่ได้เตรียมทางออกไว้หลายทาง ทั้งกรณีที่รัฐธรรมนูญ 50 ผ่านหรือไม่ผ่าน อย่างกรณีของพรรคพลังแผ่นดินไทย ซึ่งตอนนี้ก็มีคนของพรรคความหวังใหม่เดิมเข้าไปอยู่ ก็เป็นทางออกหนึ่ง

แต่เบื้องต้นคงให้น้ำหนักไว้ที่กลุ่มไทยรักไทย

เพราะผู้ใหญ่ของไทยรักไทยเองก็ทอดไมตรีและดูแลอดีต ส.ส.ในสังกัดได้ดี ถ้าหาก พล.อ.ชวลิตไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ก็คงต้องเหนื่อยมาก เพราะยังขาดปัจจัยหลายอย่าง อีกทั้งสถานการณ์การเมืองก็ยังไม่เอื้ออำนวย” นายอรรถสิทธิ์กล่าว


หวั่นพิษ ศก.ร้ายกว่ายุคต้มยำกุ้ง
 

ทางด้านนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคไทยรักไทย หนึ่งในผู้ร่วมเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศอังกฤษเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา กล่าวว่า ตนและเพื่อน ส.ส.กว่า 10 คน เดินทางไปแสดงความยินดี พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ ที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นประธานสโมสร เตะฟุตบอลอุ่นเครื่องกับทีมบาเลนเซีย


ซึ่งนอกจากคณะของตนแล้ว ยังมีคณะของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แกนนำกลุ่มไทยรักไทย เดินทางไปด้วยแต่เป็นคนละส่วนกัน


เท่าที่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจ และรู้ว่ามีนักธุรกิจทำการไซฟ่อนเงิน คือขณะนี้เงินดอลลาร์สิงคโปร์มีราคาถูก ขนเงินดอลลาร์จากประเทศสิงคโปร์มาขายเก็งกำไรในประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณยังบอกด้วยว่าราคาน้ำมันในประเทศไทยอยู่ที่ 80 เหรียญต่อบาร์เรล แต่หากถ้าราคาน้ำมันขึ้นไปถึง 90 เหรียญ เชื่อว่าประเทศไทยจะประสบภาวะทาง เศรษฐกิจครั้งใหญ่ อาจจะยิ่งกว่าเหตุการณ์ต้มยำกุ้ง


“หมอมิ้ง” แจงวางมือการเมือง


วันที่ 9 ส.ค. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกฯและอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประกาศวางมือทางการเมืองอย่างถาวรว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ได้ตัดสินใจคิดไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯก็รับทราบ จะเห็นข้อมูลนี้ได้จากเนื้อหาในหนังสือ ทักษิณ แวร์ อาร์ ยู ยิ่งในบรรยากาศการเมืองขณะนี้ ไม่อยากมีบทบาทหรือเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดๆทั้งสิ้น การเมืองตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก ตนเคยถูกถามเรื่องกลุ่มฝ่ายขวาฝ่ายซ้ายจากเหตุการณ์เดือนตุลาฯก็บอกไปว่า เหตุการณ์มันเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว คนเดือนตุลาฯบางคนเข้าไปสนับสนุนฝ่ายเผด็จการก็มี ปัจจุบันมีการแบ่งเป็นแค่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สนับสนุนเผด็จการกับกลุ่มที่คัดค้านเผด็จการทหารเท่านั้น


พ้อมีสภาพแค่พลเมืองชั้นสอง


เมื่อถามว่า จะหันหลังให้การเมืองอย่างถาวรหรือรอให้พ้นจากช่วงถูกเว้นวรรคการเมือง 5 ปี นพ.พรหมินทร์ตอบว่าวันนี้ตนต้องกลายเป็นพลเมืองชั้นสอง แต่เสียภาษีเต็ม และยังต้องตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าร่วมกระทำการทุจริตในคดีกล้ายาง และถูกกล่าวหาว่าประพฤติมิชอบในคดีหวยบนดิน พร้อมกับ ครม.ทั้งคณะรวมทั้งนายวิษณุ เครืองาม และ ร.ต.อ.ปุระชัย เปียมสมบูรณ์ อดีตรองนายกฯ อีกด้วย ถ้าไปอยู่พรรคการเมืองไม่ว่าพรรคใด ไม่มีแน่นอน เพราะเหตุผลที่ตนไม่ค่อยชอบการเมืองมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แม้จะเข้ามาทำประโยชน์ เพื่อบ้านเมือง แต่ก็ต้องสร้างศัตรูไปพร้อมๆกัน

การทำประโยชน์เพื่อบ้านเมืองนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมือง

จะอยู่ในสถานะนักธุรกิจหรือทำงานมูลนิธิก็ทำประโยชน์ ได้ ถ้ามีช่องทางใดที่จะให้พลเมืองชั้นสองอย่างตนทำประโยชน์แก่บ้านเมืองในบางด้านได้ก็ไม่ขัดข้อง


แม่ทัพภาค 1 ไม่เชื่อ “หมอมิ้ง” วางมือ


เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงเรียนวัดเทพลีลา พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีต เลขานุการส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศวางมือทางการเมืองว่า ลองติดตามต่อไปว่าจะมีการวางมือกันจริงๆ หรือเปล่า ตนยังไม่ทราบ ต้องติดตามดูก่อนว่าจริงหรือไม่จริง

แต่ทั้งนี้อยู่ที่ประชาชนมากกว่า ไม่ใช่อยู่ที่ใครทั้งสิ้น

ประชาชนต้องเข้าใจว่าในปัจจุบันเราต้องการอะไรกันอยู่ เราทำอะไรกันอยู่ และรัฐธรรมนูญปี 50 ขอให้สนใจเรื่องเนื้อหา อย่าไปสนใจที่มา เพราะว่ามันถอยหลังกลับไปไม่ได้ ต้องก้าวไปข้างหน้าและเอาเนื้อหามาดูว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร แล้วก็ร่วมกันลงประชามติให้มากที่สุดก็ขอกันเท่านั้นเองในส่วนของการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาลงประชามติก็ยังไม่มีอะไรสะดุด


“มนูญกฤต” กั๊กร่วมกลุ่มรักชาติ


วันเดียวกัน พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา เปิดเผยถึงภาวะการเมืองในช่วงนี้ว่า สังคมมีความเสื่อมเพราะพฤติกรรมจิตใจและปัญญา ส่วนเรื่องเศรษฐกิจไปไม่รอด โดยเฉพาะเศรษฐกิจพื้นฐาน หรือที่เรียกกันแบบชาวบ้านว่ารานกหญ้า เจ๊งหมดแล้ว ที่สำคัญที่สุดเรื่องความมั่นคงของชาติไม่มีเลย ถ้าเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ประเทศชาติคงแย่ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าจะสมัครเป็นสมาชิกพรรครักชาติ เท็จจริงอย่างไร พล.ต. มนูญกฤตตอบว่า ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค จะเป็นได้อย่างไรเพราะยังไม่มีพรรครักชาติเกิดขึ้นเลย การที่จะมีพรรคใหม่เกิดขึ้นในวิถีการเมืองบ้านเรา จะต้องนำชื่อพรรคประกาศในราชกิจจานุเบกษาเสียก่อน แต่นี่ยังไม่มีทำอะไรที่ไหนอย่างไรเลย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์