แม้วลั่นกลับไทยปีนี้

"มาร์ค"ร่วมรับสายวันที่ 2 เจอหนุ่มขอนแก่นถามทำไมไม่ยุบสภา ขณะที่"กรณ์"ถึงหน้าเจื่อนโดนด่ารัฐบาล 2 มาตรฐาน ออกไปได้ก็ออก

เพื่อไทยจำลองเหตุการณ์ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ดอดรับเอกสารจากเจ้าหน้าที่ศาลในโรงอาหารศูนย์ราชการ ปูดบิ๊กในพรรคอยู่เบื้องหลังประสานงาน ส.ส.ทีมกฎหมายฮึ่มฟ้อง อ้างทำเสื่อมเสีย เทือกโวยลั่นอ้างคุ้ยที่เขาแพงหวังดิสเครดิตรัฐบาล ลั่นไม่ยอมก้มหัวให้ใครแกล้ง พท.สัมมนาใหญ่ "ยงยุทธ" งัดคำเท่ปลอบผู้สมัคร ระบุขบวนรถไฟที่ไม่มีผู้ยากไร้นั่งอยู่ไปถึงจุดหมายลำบาก

เปิดสายวันที่2-กรณ์โดนต่อว่า

เวลา 08.00 น.วันที่ 2 ก.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะใน"โครง การ 6 วัน 63 ล้านความคิดร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย" อย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเวลา 09.30 น. นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้มาทำหน้าที่อาสาสมัครรับโทรศัพท์ ประ มาณ 20 นาที ซึ่งมีสายจากผู้หญิงรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อและจังหวัด โทรศัพท์เข้ามาต่อว่านาย กรณ์ว่า "รัฐบาล 2 มาตรฐาน ถ้าออกไปได้ ก็ออกไปเลย" แล้ววางหูทันที ทำให้นายกรณ์สีหน้าเจื่อนลงทันทีและหันมาพูดกับผู้สื่อข่าวว่า ความคิดเห็นก็มีหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีนักวิชาการอิสระให้ความเห็นว่าปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้นเป็นเพราะนักการเมืองไม่มีจริยธรรม และไม่มีคุณธรรมที่ดีพอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีประชาชนร้องเรียนมายังสายที่นายกรณ์รับ เช่น ของแพง ค่าครองชีพต่ำ บางคนถึงกับพูดว่า "รัฐบาลชุดนี้รวยอย่างเดียว ซึ่งไม่ถูก ขอให้ไปบอกนายกฯว่าพวกนายเนวิน มีเป็นพันล้าน แต่ชาวบ้านไม่มีเงินจะกิน" ขณะเดียวกันมีโทรศัพท์จากชาวบ้าน จ.ระนอง อาชีพขับรถบรรทุกปลา ร้องเรียนว่าถูกรีดไถจากตำรวจทุกด่านที่ขับรถผ่านเข้ากรุงเทพฯ โดยเฉพาะตั้งแต่จ.ชุมพร ขึ้นมา จึงอยากให้มีการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจอย่างจริงจัง และแก้กฎหมายใหม่เพื่อป้องกันการรีดไถ

โวสายตาโลกมองไทยในแง่ดี

จากนั้น นายกรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่รับฟัง ส่วนใหญ่แล้วจะร้องเรียนเรื่องใกล้ตัว ทั้งค่าครองชีพ หนี้สิน รายได้ มีประเด็นการเมืองเพียงสายเดียวที่พูดตรงๆ ว่าขอให้ยุบสภา ดังนั้น น้ำหนักที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเข้าไปแก้ปัญหาคือเรื่องปากท้องของประชาชนมากกว่าเรื่องการเมือง เชื่อว่าถ้าประชาชนมีระดับรายได้ที่พอเพียง มีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เป็นภาระหรือสร้างทุกข์ให้เขา ประเทศชาติจะสงบได้ ส่วนประเด็นการเมืองเป็นเรื่องที่เราต้องว่ากันไป แต่นับดูจากสายที่รับวันนี้สะท้อนให้เห็นว่าประเด็นที่ประชาชนเป็นทุกข์คือเรื่องปากท้องทั่วไป

เมื่อถามถึงการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 6 กทม. รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้สั่งให้นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครของพรรค เร่งออกหาเสียงตั้งแต่เช้า พบปะประชาชนในเขตพื้นที่ให้มากที่สุด ซึ่งพรรคมั่นใจว่าได้ส่งบุคคลที่มีคุณภาพ ยอมรับว่าพื้นที่เขต 6 คะแนนระหว่างพรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์สูสีกันมาทุกสมัย แบ่งคะแนนกันคนละครึ่ง

นายกรณ์กล่าวว่า เมื่อวันก่อนตนเห็นภาพของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับหนึ่ง และเขียนใต้ภาพว่า "หนึ่งในแกนนำเสื้อแดงมาลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม และเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาก่อการร้าย" ภาพดังกล่าวถือว่าเป็นข่าวดี เพราะเป็นภาพที่ส่งสัญญาณในเชิงบวกอย่างมากไปสู่โลกภายนอก ทำให้เห็นว่าการแข่งขันทางการเมืองกลับเข้าสู่ระบบ และมองได้ว่าประเทศเราเป็นประเทศเสรีประชาธิป ไตย แม้แต่ผู้ที่ถูกรัฐบาลกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายก็มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ตอกย้ำความเป็นประชาธิปไตยของเราให้ชาวโลกได้เห็น

"มาร์ค"รับโทรศัพท์เองอีก4สาย

เมื่อเวลา 12.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงไปร่วมรับโทรศัพท์ในโครง การ "6 วัน 63 ล้านความคิด ร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย" เป็นวันที่ 2 ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดขึ้นวันที่ 1-6 ก.ค. เวลา 08.00-20.00 น. เปิดสายให้ประชาชนทั่วประเทศโทรศัพท์แสดงความคิดเห็นหรือสะท้อนปัญหามาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2304-9999 (โทรฟรี 300 คู่สาย) โดยมีอาสาสมัคร 600-700 คน หมุน เวียนกันรับโทรศัพท์ ซึ่งวันเดียวกันนี้ นายกฯรับสายทั้งหมด 4 สาย มีทั้งเรื่องขอให้เพิ่มจุดค้าขายย่านบางแค การโรงเรียนเรื่องการศึกษา และเรื่องการเมือง ซึ่งมีการถามว่าเมื่อไหร่จะยุบสภา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้ชี้แจงว่า ในปีหน้า(2554) คงมีการเลือกตั้ง แต่ขณะนี้สิ่งที่ทุกคนอยากเห็นคือการทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุข โดยทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน

หนุ่มขอนแก่นถามทำไมไม่ยุบ

นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการออกรายสดทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 โดยยอมรับว่า โครงการดังกล่าวคงไม่สามารถรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนทั้ง 63 ล้านคนได้ แต่สิ่งสำคัญถือว่าทุกสายที่เข้ามาเป็นตัวแทนของ 63 ล้านความคิด สิ่งที่เราคาดหวังไม่ได้ใช้แค่ช่องทางนี้ทางเดียว แต่เราสามารถเห็นแนวโน้มว่าสิ่งที่อยู่ในใจของประชาชนคืออะไร ซึ่งวันแรกมี 5,000 กว่าสาย และเช้าวันนี้มี 4,000 สาย แนวโน้มชัดเจนว่าเรื่องอาชีพ รายได้ เศรษฐกิจครัวเรือนอยู่ในใจคนมากที่สุด รองลงมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองที่มีการเสนอแนะเข้ามาทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ซึ่งสายที่โทร.เข้ามาเรื่องการเมืองมีอยู่ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์จากสายที่เข้ามาทั้งหมด

"ผมรับสายวันนี้มีโทรศัพท์มาจากคุณสม โภช จังหวัดขอนแก่น คุยกับผมว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ เขาถามว่าทำไมไม่ยุบสภา ซึ่งถือเป็นความเชื่อทางการเมืองก็แลกเปลี่ยนความเห็น และเปิดโอกาสให้แสดงออก การพูดคุยกันเป็นบรรยากาศที่ดี คุณสมโภชถามผมว่าระหว่าง การเดินหน้าทำแผนเหล่านี้กับยุบสภา ทำไมไม่คิดว่าถ้ายุบสภาแล้วเรื่องมันจะจบ ผมเสนอมุมมองไปว่าเรื่องการยุบสภามีการพูดกันถึงการเลือกตั้ง ถ้ามีการเลือกตั้งแต่บางปัญหาบางอย่างยังไม่ได้แก้และสถานการณ์ยังไม่สงบจริง จะยิ่งเกิดปัญหารุนแรงมากขึ้น เขาก็ไม่เห็นด้วย บอกน่าจะลองเลือกตั้งดู สุดท้ายผมบอกว่าความจริงรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นการยุบสภาหรือการเลือกตั้งเร็ว แต่อยากเห็นบ้านเมืองมีความปรองดองมากกว่านี้ ซึ่งคุณสมโภชเชื่อว่าคนส่วนใหญ่อยากเห็นความสงบ ดังนั้น ถ้าทุกฝ่ายมาช่วยกันทำ ให้บ้านเมืองสงบสักระยะ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้" นายกฯ กล่าว

อ้างปชต.ไม่ใช่แค่หย่อนบัตร

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องการขณะนี้คือการให้ทุกคนมีส่วนร่วมหรือสะท้อนความเห็นออกมาโดยมีความรู้สึกเป็นเจ้าของประเทศ ไม่ใช่แค่การหย่อนบัตรเลือกตั้งหรือมาชุมนุมประท้วง ทั้งนี้ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ จะจัดส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมการปฏิรูป

เมื่อถามว่าพูดชัดเจนได้หรือไม่ว่าปีนี้จะไม่มีเลือกตั้ง นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งใจจะยุบ สภาก่อนสิ้นปี เพราะคิดว่าขณะนี้ถ้าเรามีเสถียร ภาพในการผลักดันแผนระยะหนึ่ง ก็จะเป็นประโยชน์ แต่ตนจะไปให้หลักประกัน 100% ไม่ได้ เพราะเราอยู่ในระบบรัฐสภา การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง กรยุบสภาอาจเกิดขึ้นได้ แต่ตนตั้งใจว่าบ้านเมืองควรมีเสถียรภาพอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี ในการเดินหน้าแผนที่จะปูทางไปสู่ความปรองดอง ซึ่งส่วนหนึ่งคือมีการเลือกตั้งในปีหน้า

"ผมเชื่อว่าทุกคนอยากอยู่ในสังคมที่ดี อยากเห็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงใจกับตัวเอง ทุกความคิดทุกข้อเสนอแนะมีความหมาย อยากให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วม ดังนั้นถ้ามีความคิดเห็นอยากให้บ้านเมือง ชีวิตดีขึ้นอย่างไร ขอให้เสนอความเห็นเข้ามา สิ่งเหล่านี้จะเป็นประ โยชน์ในการทำงานของรัฐบาลและคณะกรรม การปฏิรูป ผมเชื่อว่าถ้าเราเปิดพื้นที่ เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม ซึ่งอาจไม่ถูกใจหรือสัม ฤทธิผลทุกเรื่อง แต่จะช่วยทำให้บ้านเมืองก้าวเดินไปข้างหน้าบนความปรองดองที่ดียิ่งขึ้น" นายกฯ กล่าว

เผย 2 วันโทร.มา1.3หมื่นคน

เวลา 16.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกฯ แถลงสรุปการเปิดสายรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนในโครงการ "6 วัน 63 ล้านความคิด" ว่า จนถึงเวลา 15.30 น. วันเดียวกันนี้ มีประชาชนโทร.มา 7,690 สาย รวม 2 วัน มี 13,255 สาย เฉลี่ยแล้ววันละ 1,000 สายต่อชั่วโมง คาดว่าวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ จะมีโทร.เข้ามามากกว่านี้

นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ อันดับ 1.ปัญหาเศรษฐกิจในครัวเรือน ปัญหาหนี้นอกนอกระบบ พร้อมทั้งเสนอรัฐบาลให้ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปประกอบอาชีพต่างๆ โดยปัญหาหนี้นอกระบบนั้นรัฐบาลได้เปิดสายด่วนพิเศษ 1689 ของกระทรวงการคลัง เนื่องจากต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยประชาชนสามารถโทร.ได้ในเวลา 08.00-16.30 น. ระหว่างวันจันทร์ถึงวันศุกร์ อันดับ 2. เป็นความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการเมือง โดยเฉพาะที่ต้องการให้รัฐบาลยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพ พร้อมทั้งเสนอแนวทางปรองดองที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีดูแลชาวบ้านให้มีความเท่าเทียมกัน และการปฏิรูปการเมืองที่อยากเห็นนักการเมืองคำนึงถึงประชาชน

นายอภิรักษ์ กล่าวว่า อันดับ 3.เป็นข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสวัสดิการสังคม เช่น เสนอให้เพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการครู ปัญหาหนี้สินของครู อันดับ 4. เรื่องเกี่ยวกับแนวนโยบายด้านการศึกษา อันดับ 5.เศรษฐกิจภาพรวม และการลดหย่อนภาษี อย่างไรก็ตามตลอด 2 วันที่ผ่านมาประชาชนร้องเรียนปัญหาสภาพความเป็นอยู่ต่างๆ อาสาสมัครได้แนะนำให้โทร.ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับโครงการนี้ต้องการให้ประชาชนโทรศัพท์เข้ามาเสนอแนะความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศไทยเป็นหลัก เพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวประชาชน

"เทือก"โต้กินข้าวแกนนำพรรคร่วม

ที่ทำเนียบรัฐบาล ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธข่าวไปรับประทานอาหารร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ว่า ไปกินกับพรรคร่วมได้อย่าง ไร มีแต่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที และกรรมาธิการในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีพรรคร่วม สื่อไปเอาข่าวมาจากไหน ข่าวไม่ดีเลย เมื่อถามว่ามีข่าวว่าไปกินข้าวกับพรรคร่วมไม่ดีหรือ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ สื่อต้องปฏิรูปกันใหญ่เลยตอนนี้ ความจริงตนไปกินข้าวกับกรรมาธิการของพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเป็นเลขาธิการพรรค มีหน้าที่ดูแลคนของพรรคที่ไปทำงานในหน้าที่ต่างๆ คนที่พรรคเลือกไปทำหน้าที่กรรมาธิการงบประมาณนั้นทำงานหนัก ต้องให้กำลังใจ ให้แนวทาง นานๆ ครั้งก็ชวนกันมารับประทานอาหารกัน มีเพียงเท่านั้น รับรองด้วยเกียรติยศ ด้วยเกียรติของลูกเสือว่าไม่มีส.ส.พรรคอื่นแม้แต่คนเดียวมาร่วมด้วย

เมื่อถามว่ามีนัดหมายหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลบ้างหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่มีอะไรต้องมีโปรแกรมไปเดินสายหารือกับพรรคร่วม

ไม่ได้มีปัญหา-ไม่ต้องเคลียร์เติ้ง

ต่อข้อถามหลังผ่านพ้นจากชุมนุมทางการเมืองไปแล้ว เสถียรภาพของรัฐบาลเป็นอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างพรรคร่วมยืนยันว่าแน่นแฟ้นดี แต่ปัญหาหนักใจคือกลุ่มคนที่พยายามก่อเหตุร้ายยังไม่เลิกความคิด ต้องแก้ไขปัญหานี้ต่อไปให้เร็วที่สุดก่อนมีการเลือกตั้งทั่วไป หลังเลือกตั้งแล้วเราจะมีรัฐบาลใหม่ที่ไม่ต้องมากังวลกับเรื่องเหล่านี้ และจะเดินหน้าพัฒนาประเทศต่อไป เมื่อถามว่าหากสถาน การณ์ไม่มีอุปสรรคอย่างนี้ รัฐบาลจะอยู่ครบวาระหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปพูดถึงขนาดนั้น ถามเรื่องที่ตอบยากอีกแล้ว

เมื่อถามว่าจะนัดหมายเคลียร์ใจกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เรื่องแนวทางการปรองดองหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนกับนายบรรหารไม่มีปัญหาอะไรกัน ยืนยันได้ว่านายบรรหารสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลเต็มที่ในฐานะผู้อาวุโสคนหนึ่ง มีอะไรก็แนะนำพูดคุยกัน

โวยลูกโดนใส่ร้ายกรณีที่ดิน

นายสุเทพ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินเขาแพง ต.แม่น้ำ อ.เกาะ สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ของนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชาย ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าชื่อผู้ครอบครองที่ดินในเอกสารสิทธิสค.1 และนส.3ก.ไม่ตรงกันว่า ไม่เป็นไร พิสูจน์กันไป เรื่องนี้ต้องแยกแยะให้ชัดเจน ลูกชายของตนซื้อที่ดินมาขณะที่มีเอกสารสิทธิ นส.3 ก. ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิประเภทหนึ่ง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเริ่มต้นขอเอกสารสิทธิแต่ประการใด ลองนึกดูว่ามีบ้าน มีที่ดินและมีเอกสารสิทธิแต่อยู่ดีๆ มีคนมากล่าวหาว่าเอกสารสิทธิตั้ง 10 กว่าปีมาแล้ว ไม่ถูกต้อง ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องถูกดำเนินการหรือเล่นงาน แต่ตนพร้อมร่วมมือพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพียงแต่ไม่ต้องการให้เอามาเป็นประเด็นใส่ร้ายลูกชาย เขาไม่ได้มาเล่นการเมืองกับตน กรณีกล่าวหาตนนั้น ป.ป.ช. ต้องสอบสวนตามระเบียบกติกา ซึ่งป.ป.ช.ต้องแจ้งมาที่ตน และตนมีหน้าที่นำหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหลายไปแสดงต่อป.ป.ช.ว่าเราบริสุทธิ์ ไม่ได้เข้าร่วมกระทำความผิดใดๆ ตามที่เขากล่าวหา กรณีมีคนพยายามเล่นงาน หาเรื่องลูกชายตน เป็นเรื่องที่เขาต้องดูแลตัวเอง

ลั่นปากถ้าเอกสารปลอมยินดีคืนที่ดิน

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยยังโยงไปถึงที่ดินของนายอากร ฮุนตระกูล ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำและได้บริจาคแล้ว ว่ามีการเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับการออกเอกสารสิทธิโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วย นายสุเทพกล่าวว่า เขาคงพยายามขยายความไปเรื่อย เป้าหมายคือทำลายเครดิตความน่าเชื่อถือของตน คนกลุ่มนี้เขาพยายามอยู่ และหวังว่าเมื่อตนถูกดิสเครดิตหรือถูกทำลายความน่าเชื่อถือ ก็จะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไปด้วย เพราะวันนี้ตนเป็นกำลังให้กับรัฐบาล

เมื่อถามว่าในอดีตมีการทำโฉนดซ้ำซ้อนขึ้นมาหลายใบแล้วมาเร่ขาย รองนายกฯกล่าวว่า ถ้าเป็นโฉนดปลอมต้องดำเนินคดี แต่ต้องแยกแยะกับกรณีของลูกชายตน มันคนละอย่างกัน ถ้าสงสัยว่าที่ของลูกตนเป็นของปลอมก็พิสูจน์กัน ไม่มีปัญหา ถ้าปลอมยินดีคืน เมื่อถามว่าขณะที่เรื่องมีปัญหา มีแนวคิดคืนที่ดินให้รัฐหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มี ถ้าตนไปบอกว่าบ้านคุณไม่ถูกต้อง คุณจะคืนหรือไม่ อย่างนั้นคงไม่ได้ตนต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนถูกต้องตามข้อกฎหมาย เมื่อถามว่าหากพิสูจน์จนชัดเจนแล้ว มีแนวคิดฟ้องร้องกลับหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ขอพูดอะไรทั้งสิ้น แต่ไม่มีวันก้มหัวสยบให้คน ร้ายหรือคนเลว

"ผมเป็นคนไม่ยอมแพ้คนพาลเด็ดขาด ไม่สยบให้ใครที่มาหาเรื่องผม ใช้ความไม่ถูกต้องมาเล่นงานผม ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน นักการเมือง ที่จะใช้วิธีการเลวร้ายกับผม ผมไม่มีวันสยบให้ กลัวคนดีบูชาคนดีกราบเท้าก็ได้ แต่ถ้าคนเลวไม่ก้มหัวให้แม้แต่นิดเดียว" นายสุเทพ กล่าว

พท.จำลองเหตุปชป.รับเอกสาร

เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน และนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส. ยโสธร พรรคเพื่อไทย คณะทำงานติดตามคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อจำลองเหตุการณ์การเดินทางมารับเอกสารจากเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคดีศาลรัฐธรรมนูญ ของนายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนท บุรี พรรคประชาธิปัตย์ อดีตทีมทนายความสู้คดียุบพรรค เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ศูนย์อาหาร อาคารเอ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ จำลองเหตุการณ์ตั้งแต่ขั้นตอนติดต่อที่ต้องแลกบัตร เมื่อเข้ามาภายในสำนักงาน ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ทราบเพื่อประสานไปยังหน่วยงานที่จะติดต่อ หากมารับเอกสารสำนวนคดีตามที่ยื่นขอไว้ จะมีเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคดีที่รับผิดชอบคดีนั้นๆ ลงมามอบให้บริเวณที่รับรองของสำนักงานศาล

จากนั้น นายพร้อมพงศ์พาสื่อมวลชนเดิน ไปยังบริเวณศูนย์อาหารที่ต้องออกจากตัวสำนักงานลงไปชั้นล่างของอาคาร เอ แสดงให้เห็นว่าศูนย์อาหารไม่ได้อยู่ภายในบริเวณสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และมีระยะทางห่างจากสำนักงานเกินกว่า 10 เมตรตามที่นายทศพลกล่าวอ้าง โดยศูนย์อาหารห่างจากสำนักงานศาล 100 เมตร นายพร้อมพงศ์ยังพาชี้จุดที่นายทศพลนัดให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารมามอบให้ ซึ่งอยู่ภายในศูนย์อาหาร ก่อนการมอบเอกสารนายทศพลไปซื้อกาแฟให้เจ้าหน้าที่คนนั้น แล้วไปนั่งคุยที่โต๊ะอาหารก่อนมอบเอกสารลับดังกล่าว

จับเท็จทีมทนายยุบพรรคปชป.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจำลองเหตุการณ์ดังกล่าว ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ที่มีหน่วยราชการอยู่ในอาคาร เอ รวมถึงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ส่งเจ้าหน้าที่มาบันทึกภาพและเสียงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

นายพร้อมพงศ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้เพื่อจับเท็จนายทศพล ซึ่งเป็นส.ส. เป็นทนาย และเป็นคณะทำงานสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ การมารับเอกสารจากเจ้าหน้าที่หญิงของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญบริเวณนอกศาลนอกเวลาทำการ ถือเป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรม สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย สะท้อนให้เห็นว่าเอกสารที่มารับนั้นต้องมีความสำคัญ ไม่เช่นนั้นไม่ต้องทำแบบมุบมิบ น่าจะไม่สุจริต เชื่อได้ว่าเป็นการอินไซเดอร์ข้อมูลภายในศาล

"ปกติถ้าเป็นเอกสารที่ไม่สำคัญ คนเป็นส.ส. หรือทนายไม่มารับเอง จะให้เจ้าหน้าที่พรรค เจ้าหน้าที่สำนักงานฯมารับแทน แต่การที่นายทศพลมารับด้วยตัวเอง แสดงว่าต้องมีนัยแอบ แฝง ต้องเป็นเอกสารสำคัญมาก นายทศพลเป็นถึงส.ส.ต้องมีจริยธรรมสูงกว่าคนทั่วไป สิ่งที่ทำจึงถือว่าเข้าข่ายผิดจริยธรรมทางการเมือง ขอเรียกร้องให้นายกฯ ที่มีหัวโขนเป็นทั้งหัวหน้าพรรคและหัวหน้ารัฐบาลชี้แจง เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดียุบพรรค 258 ล้าน และ 29 ล้านบาท กระทบต่อการบริหารของรัฐบาล ทำให้สังคมเชื่อว่ารัฐบาลก้าวก่ายและแทรกแซงอำนาจตุลาการ" นายพร้อมพงศ์กล่าว

แฉบิ๊กปชป.เบื้องหลังสั่งการ

นายประเกียรติ กล่าวว่า มีข้อมูลว่าผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ประสานให้นายทศพลมารับเอกสารจากเจ้าหน้าที่คนนี้ จึงเชื่อว่าการกระทำของนายทศพลและเจ้าหน้าที่นั้นไม่ได้กระทำโดยลำพัง ต้องมีคนที่ใหญ่กว่าและมีบารมีอยู่เบื้องหลัง วันที่ 5 ก.ค. เวลา 10.00 น. นายพีรพันธุ์จะรวบรวมหลักฐานและนำภาพเหตุการณ์จำลองมายื่นเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาดังกล่าว เรื่องนี้ต้องทำให้กระจ่างโดยเร็ว เพราะกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของศาล

นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า นายทศพลอ้างว่าเป็นการมารับเอกสารรายงานกระบวนการวิธีพิจารณา ดีของส.ส.และส.ว.นั้น ไม่น่าเป็นความจริง เอกสารกระบวนวิธีพิจารณาคดีดังกล่าวศาลอนุญาตให้คู่กรณีมารับตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. ส่วนใหญ่รับไปเกือบหมดแล้วในบ่ายวันเดียวกัน ถ้าอ้างว่าเป็นการมารับเอกสารดังกล่าวที่มาขอคัดไว้ในภายหลัง จากที่ตรวจสอบไม่พบว่ามีใครมายื่นขอคัดคำร้องดังกล่าว

ปชป.ฮึ่มฟ้อง-อ้างทำเสียหาย

วันเดียวกัน นายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนทบุรี หนึ่งในทีมกฎหมายต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้กรณีนายพร้อมพงศ์ พร้อมคณะ ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อจำลองเหตุการณ์การเดินทางมารับเอกสารจากเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคดีศาลรัฐธรรมนูญของนายทศพลว่า ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าตนไปรับเอกสารเกี่ยวกับคดี 13 ส.ส.ถือหุ้น ไม่ใช่ข้อมูลคดียุบพรรค เพราะคดียุบพรรค ศาลรัฐธรรมนูญได้ส่งเอกสารให้ทราบหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปขออะไรเพิ่มเติม และเอกสารเรื่องยุบพรรคเปิดเผยทุกฉบับไม่มีการมุบมิบ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเปิดเผยและโปร่งใส

นายทศพล กล่าวว่า ส่วนที่นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่ามีผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ประสานให้ตนไปเอาข้อมูลนั้น ยืนยันว่าไม่มีผู้ใหญ่คนไหนประ สานให้ เพราะศาลมีระบบและมีขั้นตอนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนกำลังร่างคำฟ้องนายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย และพวก ในข้อหาร่วมกันใส่ร้าย ทำให้เสียหาย เพราะเอกสารทุกฉบับเปิดเผยต่อสาธารณชนอยู่แล้ว คาดว่าจะยื่นฟ้องได้ในเร็วๆนี้

ชี้รัฐมั่วมะกันหนุนปรองดอง

เวลา 16.00 น. ที่โรงแรมลอง บีช ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงรัฐบาลระบุสหรัฐเห็นด้วยกับแผนปรองดองว่า การที่รัฐบาลพยายามเสนอข่าวนี้ออกมา ถือเป็นการฉวยโอกาส และไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด เพราะไม่ว่าประเทศไหน ถ้าเขาเห็นประเทศที่มีความขัดแย้งแล้วจะแก้ปัญหาด้วยความปรองดองก็ต้องเห็นด้วย เพียงแต่เห็นด้วยในหลักการ ไม่ใช่แผนการปฏิบัติ เพราะแผนปฏิบัติต้องดูว่าเป็นอย่างไร รัฐบาลพูดความจริงไม่หมด ทำไมไม่บอกว่าที่เห็นด้วยนั้นอยู่ในเงื่อนไขว่าต้องมีการเลือกตั้งเดือนพ.ย.ด้วย

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ส่วนการตั้งกรรมการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปประเทศ ต้องถามว่าประเทศเป็นอะไรถึงต้องปฏิรูป ปัญหาของประเทศไม่ใช่การปฏิรูป แต่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียม ส่วนกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตนเห็นว่ายากมากที่จะได้ข้อเท็จจริง เพราะคนที่ถูกกล่าวหาเป็นคนตั้งกรรม การเอง ถ้าจะให้ดีต้องให้สภาเป็นคนตั้ง

"วันที่ 3 ก.ค. ผมจะบรรยายเรื่องวิธีชนะเลือกตั้งให้ส.ส.พรรคฟัง จะวิเคราะห์สถาน การณ์ของรัฐบาลให้ฟังว่ารัฐบาลนี้ยื้อเวลาด้วยการตั้งกรรมการขึ้นมาไม่รู้กี่ชุดต่อกี่ชุด แล้วใครไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ต้องเอาไปขัง เป็นรัฐบาลที่ไม่ต่างไปจากรัฐบาลเผด็จการ อีกไม่เกิน 6 เดือนจะต้องพบจุดจบแบบเหตุการณ์ในอดีต 1 ใน 3 เหตุการณ์ คือ 14 ตุลา 6 ตุลา หรือพฤษภาทมิฬอย่างแน่นอน" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

รับซ่อมส.ส.-เสียเปรียบปชป.

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเลือกตั้งซ่อมกทม. เขต 6 ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยอม รับว่าเสียเปรียบมาก เหมือนฝ่ายหนึ่งถูกใส่กุญแจมือมัดไพล่หลัง แต่อีกฝ่ายต่อยเอาๆ ตนยังไม่ทราบเลยว่าเวลาไปปราศรัยจะถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯสั่งจับ เพราะไม่พอใจหรือไม่ แต่ตนไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องสลายการชุมนุม แค่คนเสียเงิน 75 บาทซื้อข่าวสดก็รู้ความจริงหมดแล้ว เพราะเขาเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ทุกอย่างชัดเจน

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐ มีมติเห็นด้วยกับแผนการปรองดองแห่งชาติ 5 ข้อของนายอภิสิทธิ์ว่า รัฐบาลควรให้ข้อมูลกับประชาชนโดยละเอียด อย่าสรุปเช่นนี้ เพราะตนอ่านรายละเอียดแล้ว สหรัฐเห็นด้วยกับแผนปรองดองและอยากเห็นไทยร่วมใจสนับสนุนแผนปรองดอง รวมถึงอยากให้คนไทยเห็นความสำคัญของสถาบัน นอกจากนี้ยังระบุชัดเจนว่าแผนปรองดองที่สนับสนุนนั้นประกอบด้วยการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเมือง การตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. และมุ่งสู่การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย.ตามที่นายอภิสิทธิ์ เคยประกาศเอาไว้ ดังนั้น นายกฯควรประกาศเรื่องนี้ให้มีการปฏิบัติต่อไป อย่างไรก็ตาม ทราบว่าขณะนี้มีการบล็อกไม่ให้เข้าถึงข้อมูลรายละเอียดของมติรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งขอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสอบด้วย

"เทือก"สั่งปชป.ห้ามไล่บี้ขรก.

รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์เผยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. เวลา 12.00 น. นายสุเทพเรียกประชุมคณะกรรมาธิการ และอนุกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ห้องอาหารจีน โรงแรมสยามซิตี โดยซักซ้อมทำความเข้าใจเรื่องการทำงาน หลังจากมีประชุมกรรมาธิการไปแล้ว 1 เดือน นายสุเทพ เน้นย้ำ 4 ข้อคือ 1.ให้ซักถามข้าราชการอย่างสุภาพ ไม่ไล่บี้มากเกินไป เพราะข้าราชการเป็นกลไกช่วยตอบสนองนโยบายของรัฐบาล 2.ไม่ให้กรรมาธิการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์ในงบประมาณแผ่นดิน ไม่ว่ากระ ทรวงหรือโครงการใด 3.ระวังเป็นเครื่องมือของฝ่ายค้าน ต้องรู้ทันฝ่ายค้านในการซักถามข้าราช การ ไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเครื่องมือได้ง่ายๆ และ 4.ให้ทุกคนเข้าประชุมอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้นายสุเทพเน้นย้ำให้ทุกคนช่วยสละเวลาลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เขต 6 อย่างน้อยเป็นการอธิบายเรื่องการจัดสรรงบให้ประชาชนได้เข้าใจ

ฝากฝังดูแลงบทหารเป็นพิเศษ

รายงานข่าวระบุว่า นายสุเทพยังฝากให้กรรมาธิการดูแลงบกระทรวงกลาโหมที่เข้าสู่ที่ประชุมกรรมาธิการในวันที่ 2 ก.ค. เป็นห่วงทหารที่ช่วยเหลือรัฐบาล พร้อมย้ำว่าขณะนี้มีข่าวลือชัดเจนว่ามีพฤติกรรมการขายงบข้ามจังหวัด ซึ่งไม่ใช่การกระทำของกรรมาธิการในซีกของพรรคประชาธิปัตย์ แต่กำชับว่าอย่าให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับพรรคเด็ดขาด

รายงานข่าวจากกรรมาธิการงบประมาณเผยว่า ขณะนี้เกิดพฤติกรรมที่น่ารังเกียจในการประชุมอนุกรรมาธิการงบประมาณ มีส.ส.ซึ่งเป็นกรรมาธิการ และมีบริษัทรับเหมา หรือสนิทกับบริษัทรับเหมา มาเจรจากับส.ส.ในพื้นที่ที่ได้รับงบประมาณดำเนินการในโครงการต่างๆ ให้โยกงบไปในพื้นที่ที่ผู้รับเหมาต้องการ หากส.ส.คนดังกล่าวไม่คัดค้านในการโยกงบในจังหวัดของตัวเองออกไป จะได้เงินค่าปิดปาก 20 เปอร์เซ็นต์ของวงเงินงบปะมาณ

วันสุดท้ายเขต6-สมัครเพิ่ม1

วันเดียวกัน นายมนัส ปสาทรัตน์ ผอ.การเลือกตั้งประจำเขต 6 ให้สัมภาษณ์ว่า การเปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. จนถึงวันนี้ปรากฏว่าขณะนี้มีผู้สมัครรวม 6 คน ประกอบด้วยนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 1 นายนพดล ชัยฤทธิ์เดช ผู้สมัครจากพรรคชาติสามัคคี หมายเลข 2 นายอนุสรณ์ สมอ่อน จากพรรคความหวังใหม่ หมายเลข 3 นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย หมายเลข 4 และนายชูชาติ พิมกา ผู้สมัครจากพรรคแทนคุณแผ่นดิน หมายเลข 5 ล่าสุดมีสมัครเพิ่มเติมอีก 1 คน คือนายกิจณพัฒน์ สามสีลา ผู้สมัครจากพรรคประชาธรรม ซึ่งได้หมายเลข 6 ในการหาเสียง

นายมนัส กล่าวว่า การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครตามกฎหมายให้ใช้เวลาตรวจสอบ ให้เสร็จภายใน 7 วัน หลังจากเปิดรับสมัคร เบื้องต้นขณะนี้ได้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครไปบางส่วนแล้ว คาดว่าวันที่ 7 ก.ค.นี้ จะประ กาศให้ทราบว่า ใครเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งบ้าง หากใครที่ กกต.ไม่ประกาศให้เป็นผู้สมัคร สามารถไปร้องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 7 วัน

"พนิช"อ้างชาวบ้านตอบรับดี

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการหาเสียงของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครส.ส.เขต 6 กทม. พรรคประชาธิปัตย์ว่า ระหว่างเดินหาเสียงที่เขตบึงกุ่ม ได้พบกับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. ที่เดินทางมาทำพิธีละหมาดบริเวณมัสยิดย่านนั้น โดยพล.อ.สนธิ ได้พูดให้กำลังใจ และขอให้นายพนิชทำงานให้หนัก ขอให้โชคดี ทั้งนี้ ระหว่างการหาเสียงบริเวณย่านถนนนวมินทร์ ได้พบกับนายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยสากลเหรียญทองโอลิมปิก ที่นั่งรับประทานอาหารอยู่บริเวณนั้น ทำให้บรรยากาศการหาเสียงครั้งนี้เป็นไปอย่างคึกคัก

นายพนิชกล่าวถึงนายกรณ์ แสดงความเป็นห่วงถึงคะแนนนิยมที่ยังคงสูสีกับพรรคเพื่อไทยว่า ตนไม่ได้มองที่คะแนนเสียง ยังคงเน้นยุทธ ศาสตร์พบประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยดี แต่การประเมินคะแนนเป็นเรื่องของรองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม ส่วนที่พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นห่วงเรื่องมือที่ 3 นั้น ตนยังไม่ได้ยินข่าวนี้ แต่ระวัง ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่ทำให้ตนหยุดลงพื้นที่หาเสียง ซึ่งการหาเสียงครั้งนี้มีคุณหญิงกัลยา โสภณพณิช อดีตรมว.วิทยาศาสตร์ฯมาช่วยด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติม

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยเป็นห่วงเรื่องการเวียนเทียนใช้บัตรเหลืองลงคะแนน นายพนิชกล่าวว่า ตนไม่คิดไกลขนาดนั้น แต่ถือเป็นหน้าที่ของกกต. กทม. จะดูแลควบคุม

พท.เตรียมโชว์หลักฐานที่ดินสมุย

วันเดียวกัน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์