แม่ทัพภาค2ลั่นพร้อมโต้ถ้าเขมรลอบกัด

 

คมชัดลึก :แม่ทัพภาคที่ 2 ลั่นทหารแอ่นอกรับลูกปืนเขมรฝ่ายเดียวไม่ได้แล้ว หากทหารแนวหน้า 2 ฝ่ายยุติปัญหาไม่ได้ จำเป็นต้องตอบโต้ หลังเขมรลอบกัดไม่หยุด

 สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ (2พ.ค.) ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด จึงส่งผลให้ทหารไทยได้รับความสูญเสีย
 
แต่สำหรับในส่วนของพี่น้องประชาชนที่ได้อพยพกลับคืนสู่พื้นที่แล้วนั้นก็อาจจะมีอาการตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่มีการอพยพออกมากจากพื้นที่ และยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ทั้งนี้ขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงเนื่องจากขณะนี้ตนเองในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาทหารในพื้นที่ได้พยายามที่จะแกะรายละเอียดต่างๆไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด โดยเฉพาะปัญหาในเรื่องของฝ่ายกัมพูชาที่ยังไม่สามารถควบคุมทหารของตนเองบางส่วนได้ ตนเองก็พยายามที่จะจี้ให้ทางฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าจุดใดที่ยังคงเป็นปัญหาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชาเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งเดิมทีแล้วจุดที่เป็นปัญหาตามแนวชายแดนตั้งแต่จังหวัดสุรินทร์ไปจนถึงบุรีรัมย์มีทั้งหมด 3 จุดแต่หลังจากที่มีการพูดคุยกันมาโดยตลอดปัญหาก็จะเหลืออยู่เพียงจุดเดียวคือที่บริเวณปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ซึ่งหากทางผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ได้เข้าไปพูดคุยหารือกับฝ่ายทหารกัมพูชาในวันนี้หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ปะทะขึ้น เป็นไปด้วยดีสถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้นและจะเรียบร้อยได้ โดยส่วนตัวแล้วเข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นแต่ทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าจะดูแลเรื่องของสวัสดิการของทหารที่เสียชีวิตอย่างดีที่สุด
 
 สำหรับสถานการณ์ ณ ขณะนี้ทางทหารจะประกาศให้มีการเปิดด่านช่องจอมได้หรือไม่นั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า

 
หากจะมีการเปิดด่านได้จริงสถานการณ์ทุกอย่างก็ต้องสงบและมีการหยุดยิง ทั้งนี้เข้าใจว่ามีคนส่วนหนึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการปิดด่าน แต่ก็ขอให้ทุกคนเข้าใจกับสถานการณ์ที่ยังเป็นอยู่ในปัจจุบันดังนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับฝ่ายกัมพูชาว่าจะสามารถควบคุมทหารของตนเองได้ดีขนาดไหน สำหรับส่วนทหารยืนยันว่าได้พิจารณารายละเอียดในทุกด้านทั้งยุทธการสู้รบ การป้องกันพี่น้องประชาชน  และผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ซึ่งก็จะมีการประเมินสถานการณ์แบบรายวัน หากสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยไม่มีแนวโน้มความรุนแรงปะทุขึ้นอีกทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่ปกติในเร็ววันนี้

  "ที่มีการตั้งชุดปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาการปะทะร่วมกันระหว่างทหารแนวหน้าของทั้ง 2 ฝ่ายแต่ยังกลับมีการปะทะกันอยู่นั้น ก็เพื่อให้เข้าไปหาสาเหตุร่วมกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายว่าเกิดมาจากสาเหตุใด ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดมาจากทหารผู้ใต้บังคับบัญชาของกัมพูชาเอง ซึ่งทางฝ่ายไทยก็ได้ให้ฝ่ายผู้นำทหารกัมพูชากำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งหากเหตุการณ์ยังเกิดขึ้นอีกทางทหารไทยจำเป็นที่จะต้องตอบโต้อย่างสมน้ำสมเนื้อ จะให้หยุดการตอบโต้แล้วให้ทหารไทยเอาหน้าอกไปรับกระสุนอย่างเดียวคงเป็นไปไม่ได้แล้ว และทางทหารไทยขอยืนยันว่าสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นฝ่ายทหารไทยไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มก่อนและไม่เคยรุกเข้าไปในพื้นที่ของกัมพูชา เป็นเพียงแค่การปกป้องอธิปไตยของประเทศเท่านั้น เข้าใจว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ใหญ่กว่ากัมพูชา ฉะนั้นหากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็จะถูกสังคมโลกมองในแง่ลบ เพราะฉะนั้นทหารไทยจะทำตามหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ก็ขอให้ประชาชนไทยทุกคนเข้าใจทหารไทยด้วยว่าจำเป้นต้องมองผลกระทบที่จะเกิดหลังจากการสู้รบทุกด้าน โดยอันที่จริงแล้วหากจะเปิดฉากการรบไม่ใช้เรื่องยาก แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากที่ทำการสู้รบเกิดขึ้นแล้วประเทศจะตอบสังคมโลกได้อย่างไร ว่าประเทศใหญ่ไม่ได้รังแกประเทศเล็ก ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เราต้องยึดถือปฏิบัติ"พล.ท.ธวัชชัย กล่าว และว่า

  สำหรับการเตรียมพร้อมของกองทัพขณะนี้ก็ได้มีการเสริมกำลังเข้าไปในจุดที่ยังเป็นปัญหา เพื่อป้องกันและรักษาอธิปไตยของประเทศไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนการดูแลความปลอดภัยของผู้อพยพที่กลับคืนหมู่บ้านก็ได้มีการจัดกำลังดูแลอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์