แพร่พระราชดำรัส ´ป๋าเปรม´ สั่งเบรก ต่างฝ่ายต่างตีความ

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบองคมนตรี วังสราญรมย์ มีการประชุมคณะองคมนตรีประจำสัปดาห์ โดยมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธาน และมีรายงานว่าภายหลังจากพิจารณาวาระการประชุมทั่วไปแล้ว พล.อ.เปรม ได้หยิบยกกรณีที่โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) อัญเชิญภาพเหตุการณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ. สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรี และ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรม เข้าเฝ้าฯ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2535 ออกเผยแพร่ผ่านทีวีพูล ในคืนวันที่ 12 มี.ค. ขึ้นมาหารือเป็นวาระพิเศษ โดยเห็นว่าแม้พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันดังกล่าวจะเป็นการเตือนสติให้คนในชาติเกิดความรักและปรองดองกัน แต่เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้มีความขัดแย้งและอาจลุกลามบานปลาย รวมทั้ง ทำให้แต่ละฝ่ายนำพระบรมราโชวาทไปตีความหมาย แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงอยากขอให้ยุติเรื่องนี้ได้แล้ว


สำนักราชเลขาธิการแถลงข่าว

วันเดียวกัน กองข่าว สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง ได้เผยแพร่คำแถลงข่าวมีเนื้อหาว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2535 ออกเผยแพร่นั้น สำนักราชเลขาธิ การขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า พระราชดำรัสดังกล่าวข้างต้นเป็นข้อมูลข่าวสารซึ่งได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณะทั่วไปอยู่แล้ว และประชาชนก็รับรู้มาโดยตลอดว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2535 เพราะฉะนั้นการที่หน่วยงานหรือสื่อมวลชนใดจะนำออกมาเผยแพร่อีกครั้งหนึ่ง ภายใต้ความรับผิดชอบของตนเองนั้นก็สามารถกระทำได้ จึงขอแถลงข่าวมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) นำเทปพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2535 ออกแพร่ภาพในคืนวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า เป็นการประสานมาจากสำนักพระราชวัง และทางราชการก็มีหน้าที่ดำเนินการตาม ขณะที่ นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง กล่าวเพียงว่าไม่ทราบ


โฆษกรัฐฯ โยนเผือกปธ.ทีวีพูล

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสำนักราชเลขาธิการมีหนังสือชี้แจงการเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า รัฐบาลขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการอัญเชิญกระแสพระ ราชดำรัสดังกล่าวมาเผยแพร่ในทีวีพูล ส่วนเหตุ ผลในการแพร่ภาพนั้นต้องสอบถามจากประธานทีวีพูลแทน "ท่านผู้ใหญ่ท่านใดที่ริเริ่มก็ตาม ถือว่าเป็นความตั้งใจดีที่ท่านมีให้แก่บ้านเมือง แต่ตอนนี้มันกลายเป็นว่าเราสนใจกันว่าใครเสนอ ซึ่งผมคิดว่าประเด็นสำคัญมากกว่านั้น คือ กระแส พระราชดำรัสเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งสำหรับคนไทยในภาวะปัจจุบัน และสำหรับท่านที่เป็นผู้ริเริ่มผมคิดว่าต้องขอบคุณท่านด้วยซ้ำไป"

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เชื่อว่ากระแสพระราชดำรัสที่ได้ออกเผยแพร่สู่สายตาประชาชนในคืนวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บรรยากาศในการชุมนุมของกลุ่มต่าง ๆ คลายความตึงเครียดลงไปมาก เพราะกระแสพระราชดำรัสนี้เป็นแนวทางที่เป็นมงคลยิ่งสำหรับคนไทยที่จะได้รู้รักสามัคคีและหันหน้าเข้าหากัน