แบกโลงศพเหยื่อระเบิดไปหน้า บช.น.

ในเวลา 15.30 น. แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ นำโดยนางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีต ส.ว.สกลนคร และนายจำรูญ ณ ระนอง พร้อมผู้ชุมนุมกว่า 500 คน

ได้เดินทางไปที่บช.น. เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายเจนกิจ กลัดสาคร เหยื่อระเบิดที่เสียชีวิต โดยตำรวจได้ปิดประตูด้านหน้าและมีกำลังตำรวจ ปจ.บก.ตปพ. จำนวน 30 นาย คอยรักษาความปลอดภัยอยู่ด้านใน   ผู้ชุมนุมได้นำศพนายเจนกิจที่ใส่โลงวางอยู่ในรถตู้ มีนางปิญชาน์ สุขภูตานันท์ ภรรยาและลูก 2 คน นั่งอยู่ในรซึ่งจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมช่วยกันแบกโลงศพออกมาจากรถแล้วมายืนอยู่ที่หน้าประตูด้านหน้า บช.น. แล้วยกโลงศพชูขึ้นเหนือหัว ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมได้ตะโกนด่าตำรวจด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากนั้นนางมาลีรัตน์ขึ้นปราศรัยบนรถขยายเสียงพูดโจมตีคนร้ายที่ใช้ระเบิดเอ็ม  79  ที่ยิงใส่ผู้ชุมนุม  ตำรวจต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ชุมนุม ขอให้นายเจนกิจเป็นศพสุดท้าย และให้ บช.น.หาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี หลังจากนั้นเคลื่อนขบวนไปที่วัดมกุฏฯ เพื่อทำพิธีรดน้ำศพต่อไป 

เย็นวันเดียวกัน ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม ได้มีพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมศพนายเจนกิจ กลัดสาคร ที่ศาลา 3 พลับพลาพิมพวดี โดยมีผู้ร่วมพิธีประมาณ 100 คน

รวมทั้งแกนนำพันธมิตรฯเกือบทุกคน ยกเว้นนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ไม่ได้ไปร่วมงาน นางปิญชาน์ สุขภูตานันท์ อยู่ในอาการโศกเศร้า สวมเสื้อยืดคอกลม สกรีนนักรบมือตบเปื้อนเลือด เปิดเผยว่า มาเข้าร่วมชุมนุมเกือบทุกครั้ง เมื่อคืนอยู่กับสามีและกำลังจะเดินทางกลับแล้ว ได้ยินเสียงระเบิดตูม แต่ไม่ทราบว่าตกตรงไหน เมื่อหันไปเห็นสามีเลือดโชกจึงรีบพาส่ง รพ. สำหรับศพจะตั้งสวด 5 คืน เผาในวันที่ 25 พ.ย.นี้  

ในส่วนความเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรี ภายหลังเกิดเหตุยิงระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บจำนวนมากนั้น

เวลา 12.50น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ ระเบิดที่เวทีพันธมิตรฯภายในทำเนียบรัฐบาลว่า ได้ให้ ตำรวจพยายามติดตามว่ามาจากไหน เป็นใคร เป็นปกติที่ต้องมีการติดตามจับกุมคนร้าย คงต้องรอฟังตำรวจว่าเป็นอย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังเกิดเหตุแล้วพันธมิตรฯได้เปิดให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบหรือไม่ นายกฯตอบว่า อย่างครั้งก่อนส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเห็นว่าเวลาเข้าไปต้องผ่านด่านอะไรต่างๆ ให้เข้าตรงไหน ไม่ให้เข้าตรงไหน ก็เป็นอุปสรรคบ้าง แต่ก็ได้เข้าไปตรวจสอบ ถ้าถามเรื่องระเบิดครั้งล่าสุดต้องรอเจ้าหน้าที่สอบสวนก่อน 

เมื่อถามว่า นายกฯตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าเกิดเหตุ ระเบิดครั้งใดมักโยนว่ารัฐบาลเป็นผู้ลงมือ นายสมชายตอบว่า ตนไม่มีนโยบายในการที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย

ไม่มีใครหรอกที่จะทำให้คนไทยด้วยกันได้รับบาดเจ็บ อยากจะขอร้องว่าใครที่ไม่หวังดีหรือเป็นมือที่สามที่สี่ทำให้มีปัญหา ก็อย่าได้ทำ เราอยากใช้มาตรการทางกฎหมาย มีอะไรก็ว่ากันไป อย่าไปใช้กำลัง เมื่อถามว่า เกิดเหตุทีไรก็ไม่เปิดให้ไปตรวจสอบทันที ทำให้ไม่สามารถหาต้นตอได้ นายสมชายตอบว่า อย่างที่บอกจากการติดตามข่าวก็ตีสี่ตีห้า อาจเป็นช่วงปลอดคน อย่างไรก็ตามตำรวจต้องตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่ช้าก็เร็ว แม้ว่าการเข้าไปตรวจสอบภายในทำเนียบฯอาจลำบากนิดหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมเกิดเหตุทุกครั้งไม่สามารถหาสาเหตุผู้ลงมือไม่ได้ นายสมชายตอบว่า อย่างที่บอก มันไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าง่ายคงหาได้แล้ว

เมื่อถามว่า พันธ-มิตรฯประกาศว่าจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่วันที่ 23 พ.ย.นี้ นายกฯตอบว่า ไม่เป็นไรหรอก ไอ้เรื่องการชุมนุมไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามอีกว่า การชุมนุมใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายจะทำให้เกิดปัญหาจนนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่มีอะไร เราจะพยายามดูแลให้ดี
 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์