แดงสลายตัวกรมป่าไม้แล้ว เล็งไปต่อกองปราบ17ม.ค.นี้ แจ้งความจัดการสุรยุทธ์รุกเขายายเที่ยง

"แดง"สลายตัว"กรมป่าไม้"แล้ว เล็งไปต่อ"กองปราบ"17ม.ค.นี้ แจ้งความจัดการ"สุรยุทธ์"รุก"เขายายเที่ยง"

เสื้อแดงบุก"กรมป่าไม้" สลายตัวแล้ว เตรียมไปกองปราบ จี้ดำเนินคดี"สุรุยุทธ์"ยุกเขายายเที่ยง 17 ม.ค. อธิบดีป่าไม้ ยืนสูบไปป์ เจอสวนเดี๋ยวได้ไปสูบแถวคลองเปรม ประกาศชุมนุมใหญ่หลังตรุษจีน ก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านแม้ว"จตุพร" ลั่นเดิมพันทั้งชีวิต

"แดง"สลายตัวกรมป่าไม้แล้ว เล็งไปกองปราบฯ 17 ม.ค.


เมื่อเวลา 14.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้สลายการชุมนุมแล้ว โดยระหว่างที่จะเลิกชุมนุม นายอริสมันต์ พรหมเรืองรอง และนายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง ได้นัดหมายผู้สื่อชุมนุมให้ไปรวมตัวกันที่กองปราบปรามในวันที่ 17 มกราคม 2553 โดยแกนนำเสื้อแดงจะไปเดินทางแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.อ.สุรยทธ์ กรณีรุกเขาเที่ยง


นายอริสมันต์ ได้กล่าวว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรารมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อร้องเรียนกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่สำนักข่าาวกรองแห่งชาติ ได้ตามติด


เสื้อแดงบุก"กรมป่าไม้" จี้ดำเนินการคืน"เขายายเที่ยง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดง นำโดยนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ และนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง ได้นำกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 100 คน เดินทางมาชุมนุมบริเวณหน้าอาคารเทียมคมกฤส ภายในกรมป่าไม้ เพื่อยื่นหนังสือถึง นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ ให้ดำเนินคดี กรณี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี รุกที่ป่าสงวนเขายายเที่ยง ซึ่งทางอธิบดีกรมป่าไม้ได้มอบให้นางมาลี ศรีรัตนธรรม ผอ.สำนักบริหารกลาง รับเรื่องแทน


นายสุภรณ์ กล่าวปราศรัยว่า หลังจากที่กลุ่มเสื้อแดงไปชุมนุมบริเวณเขายายเที่ยงเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ในกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ และภรรยา บุกรุกที่ป่าสงวนเขายายเที่ยงแต่รัฐบาล โดยเฉพาะกรมป่าไม้ ไม่มีการเอาผิดขั้นเด็ดขาดกับ พล.อ.สุรยุทธ์ โดยยังปล่อยให้ พล.อ.สุรยุทธ์ และครอบครัว ถือครองที่ดินบริเวณเขายายเที่ยงอยู่ต่อไป ดังนั้น การมาชุมนุมที่กรมป่าไม้ครั้งนี้ จึงขอยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้อธิบดีกรมป่าไม้เร่งดำเนินการกับ พล.อ.สุรยุทธ์ ตามข้อเรียกร้อง ดังนี้


1.ให้กรมป่าไม้แจ้งความดำเนินดคี กับ พล.อ.สุรยุทธ์ ฐานครอบครองพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งมีความผิดตาม พรบ.ป่าสงวน 2507 มาตรา 14 ภายใน 7 วัน

2.ให้กรมป่าไม้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจรังวัดที่ดินบริเวณเขายายเที่ยงในส่วนของ พล.อ.สุรยุทธ์ ว่ามีที่เกิน 21 ไร่ ที่ปรากฎใน ภ.บ.ท.5 เพื่อตรวจสอบใหม่อีกครั้งภายใน 7 วัน ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่บุกรุกป่าสงวนหรือไม่

3.หากผลปรากฎว่า เป็นพื้นที่เกินและบุกรุกป่าสงวน ขอให้กรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีกับ พล.อ.สุรยุทธ์อีกครั้ง

4.ให้กรมป่าไม้ยื่นฟ้องขับไล่ พล.อ.สุรยุทธ์ และภรรยาต่อศาล โดยให้ออกจากบริเวณที่ดินที่ครอบครองซึ่งอยู่บนยอดเขายายเที่ยงภายใน 7 วัน หากอธิบดีกรมป่าไม้ไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดง กลุ่มคนเสื้อแดงจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับกรมป่าไม้ต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการปราศรัยอย่างดุเดือดของคนเสื้อแดง นายสมชัยได้ออกมายืนดูสถานการณ์ภายนอกอาคาร พร้อมทั้งหยิบไปป์ขึ้นมาสูบ ทำให้นายสุภรณ์ปราศรัยบนเวทีว่า ขอให้อธิบดีเร่งดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับพล.อ.สุรยุทธ์ อย่ามัวแต่ออกมายืนสูบไปป์ เพราะเดี๋ยวจะได้ไปสูบแถวคลองเปรม



แดงประกาศชุมนุมใหญ่หลังตรุษจีน"จตุพร"ตีปี๊บเดิมพันทั้งชีวิต


ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ถึงการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในพื้นที่ กทม.ว่า ล่าสุด ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่าอย่าได้เอาเรื่องคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท มาเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาต่างๆ และให้การตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นไปอย่างอิสระ ซึ่งแกนนำคนเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีใครมากล่าวหาว่าขาดความชอบธรรมในการชุมนุมใหญ่  คาดว่าจะอยู่ในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอาจจะเป็นหลังตรุษจีนไปแล้ว


"ครั้งนี้คนเสื้อแดงจะต่อสู้ให้ได้รับชัยชนะ ซึ่งจะเป็นครั้งที่เดิมพันทั้งชีวิต หากพ่ายแพ้ก็มีอยู่เพียง 2 หนทางคือ ถูกหามออกสนามรบกับการถูกจับไปขังคุกเท่านั้น จะไม่มีการชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 2 อีก"นายจตุพรกล่าว


นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ตนและ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นคนช่วยกันดูเรื่องกำลังพลที่จะมาสนับสนุนคนเสื้อแดง โดยแบ่งเป็น 1.ประชาชนทั่วไปประมาณ 1 ล้านคน 2.กองกำลังหลายฝ่าย ทำหน้าที่เป็นกองหนุน จะเคลื่อนพลออกมาทันทีภายใน 1 ชั่วโมง หากมีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ประกอบด้วยทหารพราน ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 3 หมื่นคน ขณะที่จะมีกลุ่มอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจากภาคอีสาน ทั้ง จ.นครพนม สกลนคร และ จ.สระแก้ว ไปจนถึงภาคใต้ก็มาร่วมผนึกกำลังกัน โดยล่าสุดได้มีการส่งรายชื่อมาตรวจสอบแล้วประมาณ 7-8 หมื่นคน   


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์