แจงเหตุรบ.ไม่ซื้อดาวเทียมคืน ไม่อยากเสียค่าโง่ซ้ำสอง

หลังมีกระแสข่าวทางกลุ่มเทมาเสก


เชิญนักลงทุนไทยอย่างน้อย 2 ราย เข้าไปเจรจาเพื่อขายหุ้นบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)

กลุ่มแรกคือ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์

กลุ่มที่ 2 คือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของกลุ่มบริษัท แสงโสม


วันนี้ (7 มี.ค.) นายสิทธิชัย โภไคยอุดม


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ทางคลื่นวิทยุ 94.0 เมกกะเฮิร์ท ว่า การที่ภาครัฐตัดสินใจไม่ซื้อดาวเทียมคืน ไม่เกี่ยวกับกรณีมีนักธุรกิจไทยจะเข้าเทกโอเวอร์ตัวบริษัทชินแซทฯ ทั้งนี้ เราพิจารณาแล้วว่า บริษัทชินแซทฯ แบกหนี้ไว้มาก มีความเป็นไปได้ที่จะขาดทุน และการที่รัฐซื้อหุ้นกับผู้ที่เราเห็นว่า ทำไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มีความรู้สึกว่า ต้องเสียค่าโง่ซ้ำอีกทีหนึ่ง

ขณะนี้เรากำลังตรวจสอบอยู่ว่า


บริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นต่างชาติหรือไม่ หากชินคอร์ปฯ เป็นต่างชาติ หมายความว่า เอไอเอส แอร์เอเชีย เป็นต่างชาติ ก็ผิดกฎหมายหมด ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของสัญญาสัมปทานได้ เหมือนหรือกึ่ง ๆ กรณีไอทีวี รมว.ไอซีที กล่าว และว่า หากมีการขายออกไปก่อน ตนจะปรึกษาที่ปรึกษากฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เราจะยุติการตรวจสอบทางด้านเจ้าของหรือไม่ ซึ่งตามหลักการไม่น่ายุติ เพราะเป็นกรรมที่ก่อไว้แล้ว

นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า


ในแง่อุตสาหกรรมไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย อยากให้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องการตรวจสอบในแง่เจ้าของว่า ไทยหรือเทศ ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง เรามีนโยบายที่ขัดกับกฎหมายไม่ได้ เหมือนเรื่องไอทีวีที่ใจของทุกคนอยากให้ดำเนินการต่อ แต่ติดขัดเรื่องความไม่ถูกต้องทางกฎหมาย

การมาร้องเรียนกัน เวลาพูดๆ ง่าย


แต่ต้องชั่งใจระหว่างความถูกต้องกับกฎหมาย กับการต้องบริการประชาชน ถามว่า ทำไมไม่เลือกบริการประชาชน นี่เป็นการพูดง่าย น่าจะมาเป็นรัฐบาลเองจะได้รู้ว่าจะทำอย่างไร ผมคิดว่ากรณีการซื้อหุ้นชินแซทฯ หากมีการเปลี่ยนมือกันจริง ๆ ต้องปรึกษานายกรัฐมนตรี และไม่แน่ใจว่านายกรัฐมนตรีจะตอบได้หรือไม่ รมว.ไอซีที กล่าว และว่า


กรณีกลุ่มซีพีนั้น


สามารถเจรจาซื้อหุ้นบริษัทชินเซทฯ ผู้รับสัมปทานดาวเทียมได้ แต่ไม่สามารถซื้อสิทธิ์สัมปทานดาวเทียมได้ ต่อไปจะเป็นบทเรียนทางราชการ ต้องระบุด้วยว่า เจ้าของเป็นใคร เพื่อให้ขายต่อไม่ได้


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์