แจง ปปช. ปู ไม่ได้ปล่อยให้โกงจำนำข้าว

แจง ปปช. ปู ไม่ได้ปล่อยให้โกงจำนำข้าว

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้เข้าให้ถ้อยคำเป็นพยานในคดีจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยใช้เวลาเกือบ 4  ชั่วโมงในการให้ถ้อยคำต่อ ป.ป.ช. จากนั้นเมื่อเวลา17.00 น. นายนิวัฒน์ธำรง ให้สัมภาษณ์ว่า มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามที่ถูก ป.ป.ช. กล่าวหาคือ 


1.ละเลยปล่อยปละให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

2.โครงการจำนำข้าวมีการขาดทุนสูงมาก ก่อให้เกิดความเสียหาย 

3.นายกฯปล่อยปละละเลยไม่ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 11 (1)  พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน 

ตนได้ชี้แจงว่าโครงการช่วยเหลือชาวนาในเรื่องที่เกี่ยวกับข้าว ไม่ว่าจะใช้คำว่ารับจำนำข้าวหรือประกันราคาข้าวนั้นเป็นโครงการที่เริ่มมาตั้งแต่ปี2536 รัฐบาลนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ มาจนถึงปัจจุบันและรัฐบาลนี้ได้นำมาปรับปรุงขั้นตอนให้มีประสิทธิภาพ และป้องกันการทุจริตให้ดียิ่งขึ้นดังนั้นการทุจริต จึงไม่น่าจะมีหรือควรจะมีน้อยกว่ารัฐบาลอื่น นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า นายกฯ ในฐานะประธาน กขช. ได้ตั้งคณะอนุกรรมการฯขึ้นมา 12  ชุด ซึ่งมากกว่ารัฐบาลอื่นๆที่มีเพียง 7 – 8 ชุด เป็นการแสดงให้เห็นว่าเป็นการทำงานี่มีประสิทธิภาพและป้องกันปัญหาเรื่องการทุจริตตนได้ชี้แจงต่อป.ป.ช.ด้วยว่ารัฐบาลได้กวดขันป้องกันและปราบปรามการทุจริตในโครงการอย่างเต็มที่

โดยกขช.ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน รับผิดชอบตรวจสอบการทุจริตโครงการจำนำข้าวมาตั้งแต่ต้นปี 2555 โดยได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ซึ่งแสดงให้เห็นว่านายกฯ ได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการ โดยใช้ตำแหน่งประธานกขช.ในการป้องกันการทุจริต ตนจึงได้ชี้แจงด้วยเหตุผลต่างๆเพื่อแก้ข้อกล่าวหาที่ระบุว่านายกฯ ละเลยปล่อยปละ รองนายกฯ และรมว.พาณิชน์ กล่าวอีกว่าส่วนกรณีที่กล่าวหาว่าโครงการนี้ขาดทุนและสร้างความเสียหายให้กับราชการนั้น ตนได้ชี้แจงไปว่าโครงการช่วยเหลือเกษตรกรทุกรัฐบาลก็ต้องใช้เงินทั้งนั้นซึ่งไม่ใช่โครงการเพื่อธุรกิจ

แต่เพื่อช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร เป็นโครงการทางด้านสังคมและเศรษฐกิจจะเกิดผลประโยชน์ต่อเนื่องเมื่อเกิดการจับจ่ายใช้สอยหมุนเวียนตามหลักเศรษฐศาสตร์ จึงต้องใช้เงินช่วยเหลืออย่างนี้ซึ่งไม่ใช่การขาดทุน โครงการช่วยเหลือประชาชนจะคิดกำไรขาดทุนไม่ได้เพราะไม่ใช่การทำธุรกิจ  และโครงการดังกล่าวไม่ได้มาทำเฉพาะในรัฐบาลนี้แต่ทำกันมาหลายรัฐบาล20 กว่าปีมาแล้ว  

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การขาดทุนนั้นตนชี้แจงว่าในการปิดบัญชีทั้ง3 ครั้ง คณะกรรมการปิดบัญชีได้มีข้อโต้แย้งในการประชุม กขช. 2 ประเด็นหลักประเด็นแรกคือมีสินค้าคงเหลือ แต่ทางคณะกรรมการปิดบัญชีไม่ได้นำไปลงบัญชีสต็อกดังกล่าวโดยความไม่เชื่อมั่นหรือความล่าช้าของเอกสารก็แล้วแต่ตรงนี้ถือเป็นประเด็น เพราะมูลค่าสต็อกที่ไม่ได้ลงบัญชีในงวดที่ 2 ของเดือน ม.ค. 2556 มีถึง 2.9ล้านตันมูลค่าประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาท ถือเป็นมูลค่าที่สูงมาก หากนำส่วนนี้เข้าไปคิดด้วยการขาดทุนก็จะลดลงประเด็นที่สองคือมูลค่าสต็อก 

ซึ่งคณะกรรมการปิดบัญชีจะใช้วิธีต่ำสุดเพื่อดูแลเรื่องหนี้สาธารณะกับธกส. และต้องหางบประมาณมาสนับสนุน ทำให้วิธีคิดมีความต่างในการคิดมูลค่าสต็อกระหว่างคณะกรรมการปิดบัญชีกับกขช. ที่จะต่างกันถึง 8 หมื่น-1แสนล้านบาท ดังนั้นหากนำตัวเลขนี้เข้าไปรวมการขาดทุนก็จะไม่ใช่ตัวเลข2.2 แสนล้านบาทอย่างที่กล่าวหา ตนได้เสนอเอกสารหลักฐานให้ป.ป.ช.ดูด้วยเรื่องที่ยังไม่มีข้อยุติใน กขช.จึงไม่ควรนำมาเป็นเรื่องถูกกล่าววหาและโครงการไม่ได้ขาดทุนมากอย่างที่ถูกกล่าวหาและยังเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยเฉพาะชาวนาและเกษตรกรทั้งประเทศ

รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ตนได้ชี้แจงด้วยว่าโครงการนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายทางด้านการเงินให้กับประเทศชาติและยังเป็นการสร้างโอกาสให้ชาวนา แก้ปัญหากลไกตลาดเรื่องพ่อค้าคนกลาง รวมทั้งไม่มีปัญหาเรื่องกลไกการตลาดเพราะชาวนาแค่ 44 % เท่านั้นที่เข้าโครงการรับจำนำข้าว 

แต่ที่ไม่ได้เข้าโครงการคือ 56%  ทั้งนี้นายกฯ ในฐานะ ประธาน กขช.ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่และสุดความสามารถในการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตของโครงการและไม่ได้ทำให้โครงการดังกล่าวขาดทุนมากอย่างที่ถูกกล่าวหาและเป็นประโยชน์กับประเทศชาติเสียอีกไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ โดยเฉพาะเรื่องการเงินไม่ได้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อย่างไรก็ตามตนจะส่งเอกสารมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาอีกครั้งในวันที่ 25 เม.ย.และหากกรรมการ ป.ป.ช.จะให้มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมอีกตนก็ยินดี

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์