แก้วสรร งัดคำสั่ง คปค.โต้ ทนายแม้ว ลั่น! โอ๊ค-เอม อย่าดื้อแพ่งเบี้ยวแจง 27 ธ.ค.นี้

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 ธันวาคม 2549 13:10 น.

เลขาฯ คตส.โต้ ทนายชินวัตร ย้ำ คตส.มีอำนาจเรียก โอ๊ค-เอม มาชี้แจงกรณีเลี่ยงภาษีหุ้นชินฯ ตามคำสั่ง คปค.ฉบับที่ 30 ชี้กระบวนการอยู่ในชั้นตรวจสอบ ถือเป็นอำนาจในการแสวงหาข้อเท็จจริง แต่หากยังดื้อแพ่งเตรียมเสนอบทลงโทษต่อที่ประชุมใหญ่ต่อไป

นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายครอบครัวชินวัตร ออกมาตอบโต้การใช้อำนาจของ คตส.ตามกฎหมายและ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในกรณีระบุโทษ ออกหมายเรียกนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร มาให้ข้อมูลในวันที่ 27 ธ.ค. เนื่องจากอ้างว่าในอำนาจตามประกาศของ คปค.ฉบับที่ 30 กำหนดอำนาจการตรวจสอบภาษีเฉพาะอำนาจของอธิบดีกรมสรรพากรในเรื่องการยึดและอายัดทรัพย์สินเท่านั้น พร้อมยกตัวอย่างเปรียบเทียบของนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่สามารถมาชี้แจงเป็นข้อมูลลายลักษณ์อักษรได้ว่า ทาง คตส.ไม่ได้เรียกมาชี้แจง เพราะนายบรรณพจน์เคยไปชี้แจงต่อกรมสรรพากร และ ป.ป.ช.มาแล้ว ซึ่งข้อมูลมีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น คตส.จึงสามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้เลย

อันนี้ก็เป็นสิทธิของเขา เขาจะมาก็ได้ ไม่มาก็ได้เพราะยังไงก็ต้องไปศาล แต่ถ้าเขามีพยานหลักฐาน ที่คิดว่าทางเรายังไม่รู้เราน่าจะฟังก็มาชี้แจงได้ ถ้าบอกว่าสู้กันในชั้นศาลดีกว่า นายแก้วสรร กล่าว

เพราะในชั้นตรวจสอบทุกคนต้องให้ความร่วมมือ การที่เชิญบุคคลทั้งสองมา เพราะอยู่ในฐานะผู้เกี่ยวข้อง ทาง คตส.ยังไม่ได้มีตั้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เพียงแต่ทางคณะอนุกรรมการฯ อยากจะทราบว่ามีการซื้อขายกันจริงหรือไม่ ได้รับเงินกันมาแล้วใช่หรือไม่ ตกลงกันเมื่อไหร่ ธุรกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นภายในประเทศ หรือนอกประเทศ สัญญาซื้อขายว่ายังไง ซึ่งตรงนี้มันคืออำนาจในการหาข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็น คตส. หรือสรรพากร ก็สามารถเรียกมาชี้แจงได้ทั้งนั้น และถ้าหากไม่มาก็มีโทษ ซึ่งโทษดังกล่าวก็เป็นโทษของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 30 ได้ระบุให้ทาง คตส.ใช้อำนาจจาก ป.ป.ช.ด้วย

เลขาฯ คตส.กล่าวว่า ตนใช้ระเบียบตามกฎของ คมช.ที่ประกาศในฉบับที่ 30 ซึ่งประกาศฉบับดังกล่าวให้อำนาจตามกฎหมาย ป.ป.ช.ซึ่ง คตส.จึงนำกฎหมาย ป.ป.ช.มาใช้ได้ นอกจากนี้ หากนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทาไม่มาชี้แจงภายในวันที่ 27 ธ.ค.นี้จะทำอย่างไรนั้น ตนจะเสนอให้ที่ประชุมใหญ่ให้พิจารณาต่อไป

เมื่อถามอีกว่า จากการที่นายนพดลที่ตอบโต้ว่าเป็นการตรวจสอบภาษี ควรจะใช้อำนาจตามกฎหมายภาษีแห่งประมวลกฎหมายรัษฎากร นายแก้วสรร กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องกรณีปกติ ซึ่งเป็นกระบวนการยุติธรรมพิเศษที่ คมช.ประดิษฐ์ขึ้น ซึ่งก็สามารถใช้ได้ไม่ว่าในทางกรณีของภาษี หรือเรื่องของการทุจริต ฉะนั้นพอใช้กฎหมายไปแล้วจะไปใช้ในเรื่องทุจริต หรือเรื่องภาษีแล้วแต่เนื้อหา