แกนทรท.เต้น ปรับหาเสียง

จากที่เกิดเหตุการณ์เตรียมลอบสังหาร


พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณได้ออกมากล่าวกับสมาชิกพรรคไทยรักไทยว่าจะงดการเดินสายหาเสียงเพื่อความปลอดภัยนั้น ล่าสุดทางพรรคไทยรักไทยได้เตรียมเรียกประชุมแกนนำเพื่อปรับกลยุทธ์การหาเสียงของพรรคใหม่ โดยแนวทางหนึ่งจะใช้คือหาเสียงผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังเวทีปราศรัยตามต่างจังหวัด

ทรท.ปรับทีมหาเสียงแทน ทักษิณ


เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เวลา 08.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรคไทยรักไทยและ ผอ.การเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคภายหลังจากที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ต้องงดเดินสายหาเสียงว่า เรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหัวหน้าพรรคได้มีการประชุมแกนนำและผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค พร้อมทั้งจัดตั้งกองอำนวยการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว สัปดาห์หน้าผู้ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในแต่ละส่วนจะมาประชุมและจัดทำยุทธศาสตร์กัน ตอนนี้ที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทยประสบปัญหาความปลอดภัย พวกเราก็จะมาดูว่าจะมอบหมายให้ใครดูแลพื้นที่อย่างไร แต่ถ้าท่านนายกฯมีโอกาสคิดว่าท่านก็จะลงไปในพื้นที่บางส่วนด้วย

สุริยะ มั่นใจไม่กระทบฐานเสียง


เมื่อถามว่า การที่นายกฯลงไปสัมผัสพื้นที่น้อยลงจะกระทบต่อฐานเสียงของพรรคมากน้อยแค่ไหน นายสุริยะตอบว่า พรรคไทยรักไทยเมื่อมาเป็นรัฐบาลได้ทำผลงานที่ชัดเจน เรามีนโยบายที่ต่อเนื่องและมีนโยบายที่เข้าไปเสริม และ ส.ส.ของพรรคที่นายกฯให้ไปจัดตั้งแกนนำเขตละ 3,000 คน ก็คงจะได้นำข้อมูลนโยบายที่พรรคได้ทำไปแจ้งกับประชาชนในพื้นที่ เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทั้งนี้ การระดมแกนนำในเขตเลือกตั้งเขตละ 3,000 คนดังกล่าวว่าไม่ใช่การเตรียมการไว้เพื่อ รอการเป่านกหวีดแล้วให้เข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ พูดไปหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอดีตก็ให้ ผู้สมัครของพรรคทำมาตลอด แต่ครั้งนี้ต้องการขยายผลให้แกนนำเหล่านี้นำนโยบายของพรรคบุกเข้าไปถึงทุกหมู่บ้าน ทุกหลังคาเรือน ไม่ใช่การรอเป่านกหวีดอะไร เมื่อถามถึงการจัดทำบัญชีผู้สมัคร ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ จะอยู่ลำดับใด นายสุริยะตอบว่า ทางพรรคได้ตั้งนายสมคิดเป็นประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ ส่วนการจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ ทางผู้บริหารและนายกฯจะมาดูกันว่าใครจะอยู่ลำดับเท่าไหร่ แต่ท่านนายกฯอยู่ลำดับที่ 1 แน่นอน

ใช้กลยุทธ์ไฮเทคปราศรัยหาเสียง


วันเดียวกัน ที่พรรคไทยรักไทย นายเอกพร รักความสุข โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ในวันอังคารที่ 29 ส.ค. จะมีการประชุมพรรค แต่ละประธานแต่ละภาค แกนนำ และอดีต ส.ส.คงจะมีการหารือถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยจะมีการพูดถึงกำหนดการหาเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะต้องทำกันใหม่ ขณะนี้สมาชิกพรรคห่วงความปลอดภัยของหัวหน้าพรรคมาก อาจปรับใหม่ในหลายพื้นที่โดยให้แกนนำลงไปแทน รวมทั้งจะจัดทำการหาเสียงแบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณหาเสียงในพื้นที่ปลอดภัยเฉพาะ แล้วจึงถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ขณะนี้พรรคกำลังพิจารณาดูว่าจะใช้รูปแบบใดบ้าง อย่างไร ก็ตาม ตรงจุดนี้เราไม่ห่วงว่าจะกระทบต่อการหาเสียงเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมาพรรคไทยรักไทยได้ทำงานการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. โดยหลังจากนี้พรรคเพียงปรับรูปแบบการหาเสียงให้ต่อเนื่องจากของเดิม เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณอาจไม่ได้ลงพื้นที่ ทั้งนี้ พรรคจะต้องไปหารือกับ กกต.ในวิธีการหาเสียงว่าสิ่งใดทำได้ หรือทำไม่ได้บ้าง เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายเลือกตั้ง เราจะต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น ความเหมาะสม ความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เชื่อว่าประชาชนและ ส.ส.ในพื้นที่เข้าใจสถานการณ์ต่างๆดี

สุดารัตน์ แอ่นอกป้อง ทักษิณ


วันเดียวกัน ที่โรงแรมบางกอกพาเลซ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยลอบขนระเบิดเตรียมลอบสังหารนายกฯ ว่า จากเหตุการณ์ลอบสังหาร พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีผลกระทบต่อทุกส่วน โดยเฉพาะความมั่นคงปลอดภัยระดับประเทศ ทำให้ ประเทศขาดความน่าเชื่อถือ มีความรู้สึกเห็นใจ พ.ต.ท. ทักษิณและครอบครัว รวมถึงทีมรักษาความปลอดภัยผลกระทบนี้นำไปสู่การหารือนอกรอบระหว่างแกนนำพรรคไทยรักไทย ว่าจะปรับแผนการทำงานภายในของพรรค โดยประเด็นแรกคือเรื่องการหาเสียง จะไม่ปล่อยให้นายกรัฐมนตรีต้องไปเสี่ยงชีวิต ประเด็นที่ 2 จะจัดแบ่งพื้นที่การหาเสียงให้อยู่ในความรับผิดชอบแก่แกนนำพรรคไปดูแลแทนนายกรัฐมนตรี

กรี๊ดลั่นรัฐบาลไม่คิดตื้นๆจัดฉาก


นอกจากแกนนำพรรคจะลงพื้นที่หาเสียงแล้ว จะไปช่วยเหลือประชาชนในเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่ แม้ว่าการทำงานในช่วงเลือกตั้งครั้งนี้จะเหนื่อยมากกว่าครั้งที่ผ่านมาก็ตาม แต่ทางแกนนำก็พร้อมจะทำ ที่น่าเสียใจไปกว่านั้น คือ การพยายามบิดเบือนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ เพราะถ้าสถานการณ์จริง คงไม่มีใครกล้าเอาไปเสี่ยง และรัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อประชาชนที่จะพลอยได้รับอันตรายจากระเบิดไปด้วย ไม่มีรัฐบาลไหนคิดตื้นๆแบบนี้ ส่วนตัวมองใน 2 ประเด็น คือ 1. ผู้ใด ที่ออกมาบิดเบือนมากที่สุดต้องมีผลประโยชน์มากที่สุด หรือไม่ผู้นั้นต้องอยู่ร่วมในการกระทำครั้งนี้ด้วย และ 2. กลุ่มที่มีจิตไม่ปกติ ทำอะไรก็ได้เพื่อให้เกิดความสะใจ ตนจึงขอให้การสืบสวนมีความเป็นธรรม ทำให้เกิดความชัดเจน อย่าปล่อยให้ผู้รู้ไม่จริงมีเจตนาแอบแฝงออกมาพูดว่าเป็นการจัดฉาก คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์