เอาอะไรกับคนสับสน

ทักษิณ ปล่อยช็อตร้อนแรงได้ทุกเวที


ก่อนอื่นต้องให้เครดิตกับคณะสื่อมวลชน หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ ที่ได้ติดตาม ทำข่าว คณะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกพื้นที่ต่างจังหวัด

เพราะเป็นอะไรที่ต้องเหนื่อยกว่าการทำข่าวปกติ

ทั้งตากแดด กรำฝน เสี่ยงชีวิตอยู่บนท้องถนน ต้องนั่งรถยนต์ตามขบวนไปจุดนั้นจุดนี้

โดยเฉพาะคิวทัวร์อีสานทริปล่าสุด ถือเป็นภารกิจหนักขึ้นอีกหลายเท่าของนักข่าว ที่ต้องเฝ้าประกบกันทุกฝีก้าว เกาะติดทุกเวทีที่นายกฯทักษิณพูดจาทักทายชาวบ้าน ปราศรัยกับประชาชนฐานเสียงที่คอยต้อนรับให้กำลังใจ

เผลอเมื่อไหร่อาจพลาด ตกข่าวประเด็นสำคัญ

ประเภทตอนเช้าก็ออกลีลาประชดประชันแดกดันฝ่ายตรงข้าม ไม่กล้าแม้แต่หายใจ เพราะกลัวโดนจ้องจับผิด ตกเย็นตีฝีปากเหน็บแนมคนกรุงเทพฯ เรียนสูงแต่เสียดายปริญญาเพราะถูกคนไม่ดีหลอกง่าย

ทักษิณ ปล่อยช็อตร้อนแรงได้ทุกเวที

หนังสือพิมพ์หยิบเอามาพาดหัวไม้กันไม่ทัน

แต่ที่ห้ามพลาดเลย ขืนตกข่าวล่ะก็ บก.เอาตายแน่

กับปมที่หลายฝ่ายกำลังจับตา ทักษิณ จะเว้นวรรคหรือไม่เว้นวรรค

นี่แหละที่เหนื่อยกว่าอะไรเลย

เพราะ ทักษิณ เองก็ดันรู้แกวว่า นักข่าวกำลังจ้องอยู่

ตอนนี้อายุ 57 ปี ไม่มีแรงแล้ว ใจยังสู้แต่สังขารมันไม่สู้แล้ว ถ้าประชาชนบอกให้สู้ก็จะสู้ ผมชอบพูดให้เป็นปริศนา บางวันก็บอกว่าสู้ บางวันก็บอกว่าไม่สู้ เพราะนักข่าวฟังอยู่ เวลาไปเขียนข่าว ถ้าบอกว่าผมสู้ คนที่โจมตีอยู่มันก็จะบ้าตาย แต่ถ้าบอกว่าไม่สู้ กองเชียร์ก็แย่

ได้จังหวะเล่นเอาล่อเอาเถิด


ดึงเกมทายใจ ล่อให้เกาะติดกันไปเรื่อยๆ


ล่าสุดบนเวทีที่บ้านกุดแข้ อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ท่ามกลางกองเชียร์หลายพันคน พ.ต.ท.ทักษิณก็เลยเคลิ้มไปกับบรรยากาศ

ได้คิวเปิดใจยาวเหยียด

เมื่อปี 2542 สมัยที่เพิ่งเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้มาปราศรัยที่อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด มีคนแก่คนหนึ่งมานั่งยองๆยกมือไหว้บอกให้ช่วยเป็นนายกฯให้คนจนหน่อย ทำให้ผมฮึดสู้จนได้เป็นนายกฯในปี 2544

แต่มาวันนี้เห็นอาการพี่น้องประชาชนที่มาให้กำลังใจทำให้ รู้สึกหนักใจมากที่จะถอย การเป็นนายกฯในยุคประชาธิปไตยที่สื่อมวลชน ไม่ชอบหน้าผม มันเหนื่อยมาก ครอบครัวได้รับความกดดันมากหลายด้าน

บางครั้งรู้สึกว่า ครอบครัวได้ทุ่มเทให้บ้านเมืองมา 6 ปี ควรถึงเวลาให้คนรุ่นหลังขึ้นมาแล้ว แต่เมื่อเจอประชาชนที่มาให้ กำลังใจและฝากความหวังทำให้หนักใจมากๆ ต้องบอกตามตรงว่าช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางความคิด

มีทั้งความอยากทุ่มเทให้บ้านเมือง แต่ขณะเดียวกัน คนกลุ่มหนึ่งไม่มีความสุขที่เห็น ผมเป็นนายกฯ โดยเฉพาะคนที่สูญเสียความสำคัญทางการเมือง แต่ความที่มีจิตสำนึก ต่อบ้านเมือง เพื่อนร่วมชาติ และความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงอยากทำหน้าที่เพื่อแบ่งเบาภาระพระองค์


ขณะนี้จิตใจกำลังสับสนว้าวุ่น กำลังอยากรักษาหัวใจ ทักษิณ เปิดปากยอมรับตรงๆ

เมื่อมาเจอความห่วงใยของชาวเสลภูมิที่พร้อมจะยืนเคียงข้างผม ทำให้ต้องพูดความในใจว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่

แม้จะยังออกลูกกั๊ก

ไม่กล้าฟันธงกันตรงๆอยู่ดี

แต่ถ้าจับอาการ มันก็มีอะไรซ่อนอยู่

และก็แทบไม่ต้องเสียเวลาไปวิเคราะห์ให้ยุ่งยาก กับปมเว้นวรรคหรือไม่เว้นวรรค ปริศนาที่นายกฯทักษิณอมพะนำไว้

ได้จังหวะดึงเกม แสร้งทำเป็นออกลีลา เล่นเอาล่อเอาเถิด กับนักข่าว

คนนอกอย่างเราๆท่านๆจะไปหาคำตอบจากไหนได้ ก็ในเมื่อหลังจบการปราศรัย นักข่าวเอาไมค์จ่อปากถามว่าที่พูดมีนัยอะไร เจ้าตัว ทักษิณ เองก็เปิดปากยอมรับตรงๆเลย

ขณะนี้จิตใจกำลังสับสนว้าวุ่น กำลังอยากรักษาหัวใจ

ป่วยการ เฝ้าไปก็ไม่ได้คำตอบ.

ทีมข่าวการเมือง


แหล่งข้อมูล : ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์