เสรีพิศุทธ์ ลั่นพลิกโฉม ตร.รื้อคดีสำคัญ

เรียกประชุมนายตำรวจระดับสูงมอบนโยบายการทำงานบ่ายวันนี้ ก่อนเดินหน้ารื้อคดี แม้ว หมิ่นเบื้องสูง-บึ้ม-เผาโรงเรียน-ชายแดนใต้ให้เห็นผลทันที พร้อมทั้งลั่นใครใส่เกียร์ว่างเจอดีแน่ พร้อมเตรียมพบนายกฯ-ปธ.คมช.รับนโยบายเร็วๆ นี้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาการราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ยามเช้าริมเจ้าพระยา ทางเอเอสทีวี เมื่อตอนเช้า ยืนยันว่าการทำงานของข้าราชการตำรวจในยุคของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากยุคของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตผู้บัญชการตำรวจแห่งชาติที่ถูกปลดจากตำแหน่งไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวยืนยันเมื่อถูกถามว่าการบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติในยุคของเขาจะแตกต่างจากในยุคของ พล.ต.อ.โกวิท อย่างไร

รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติผู้นี้ยืนยันว่า หากมีการโยกย้ายจะดำเนินการด้วยความเป็นธรรม มีคุณธรรม ไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก หรือลุแก่อำนาจอย่างเด็ดขาด มองทุกคนเหมือนพี่น้องก่อน ให้ทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ อย่าใส่เกียร์ว่าง เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยเฉพาะในปีมหามงคลถวายในหลวงตำรวจจะมา หน้ามึน ไม่ได้

ในเบื้องต้นจะเน้นในรายละเอียด คำสั่งเดิมก่อนรวมทั้งสอบถามความคืบหน้า และจะประชุมนายตำรวจระดับต่างๆ เพื่อจะได้มอบหมายงานในบ่ายวันนี้ ส่วนคดีลอบวางระเบิด คดีลอบเผาโรงเรียน ปัญหาชายแดนใต้ รวมทั้งเรื่องอื่นๆ เช่น การปราบปรามผู้มีอิทธพล ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด การบริการประชาชน เป็นต้น จะมีการประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.)

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เข้าใจดีว่าต้องทำอย่างไร เพราะอยู่ในอาชีพตำรวจนานกว่า 35 ปี รู้ดีว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ต้องดูกฎหมายประกอบด้วย

ที่มีผู้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และถูกดองไว้รวมทั้งคดีเผาโรงเรียนนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ย้ำว่า จะไปกำชับให้ทำงาน ซึ่งมีแนวทางอยู่แล้ว โดยจะลงไปทำด้วยตัวเอง รวมทั้งคดีที่ค้างเก่าต้องดำเนินการตามขั้นตอน

แต่ทุกอย่างต้องมีคุณธรรม ตอบคำถามประชาชนได้ และผมเชื่อว่าตำรวจทุกคนฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ผมรู้นิสัยตำรวจดีว่าใครเป็นผู้บังคับบัญชา รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง แต่ทุกอย่างอยู่ที่การบริหาร และย้ำว่าที่ผ่านมาไม่เคยตั้งรับ แต่ทำงานเชิงรุกตลอด

รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นคำพูดที่ พล.ต.อ.โกวิท เคยกล่าวไว้ เขาเพียงแต่หยิบยกมากล่าวบ้างเป็นกระแสธรรม และว่าในเร็วๆ นี้จะเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพื่อขอบคุณที่ไว้วางใจ รวมทั้งขอรับทราบนโยบายด้วย

ในวันนี้จะรื้อฟื้นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนในเรื่องความเดือดร้อนต่างๆ ทั้งความไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย และในตอนท้ายได้เรียกร้องให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วย รวมทั้งย้ำว่าตำแหน่งรักษาราชการสามารถใช้อำนาจในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้อย่างเต็มที่

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์