เสรี เบรกกึก! ไม่ถามสมัคร

หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งย้ายฟ้าผ่าให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรงหลายเรื่อง โดยให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร.นั้น  

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเช้าวันที่
2 มี.ค.

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่
12 เขตบางพลัด บริเวณวัดเจ้าอาม จากนั้นเปิดเผยว่า ในวันที่ 3 มี.ค. จะเข้ารายงานตัวกับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล โดยจะไม่มีการสอบถามเหตุผลคำสั่งโยกย้ายแล้ว เนื่องจากทราบเหตุผลคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยทั้ง 3 เรื่องทางสื่อมวลชนเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจะไม่ทำเรื่องฟ้องศาลปกครอง เพราะไม่รู้จะยื่นฟ้องไปทำไม ไม่ได้เกิดประโยชน์

ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วในคดีอาญาจะฟ้องหรือไม่

ผบ.ตร.ตอบว่า ต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการฯก่อน หากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะยื่นฟ้องในคดีอาญา ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกท้อแท้กับคำสั่งที่ออกมาหรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่าไม่รู้สึกท้อถอย เพราะชาชินกับระบบการเมืองไทย ตนอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรจะฝากถึง พล.ต.อ.พัชรวาท รักษาการ ผบ.ตร.หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องบอกฝากผ่านสื่อ เพราะตนจะเข้าไปพบพูดคุยฝากงานเป็นเรื่องส่วนตัว โดยจะไม่เปิดเผยให้สื่อมวลชนทราบ ส่วนข้อถามว่าหลังคำสั่งย้ายไปช่วยราชการจะตัดสินใจลาออกสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า เป็นคนละเรื่องกัน ขอให้เคลียร์เรื่องแต่งตั้งโยกย้ายให้มีความชัดเจนและเป็นธรรมก่อน
 


ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร. เมื่อเวลา
08.30 น. วันเดียวกันนี้

ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว.ที่หน่วยเลือกที่
62 เขตลาดพร้าว บริเวณหน้าหมู่บ้านโอษธิศ 1 ซอยโชคชัย 4 จากนั้นเปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ประจำ ตร. ซึ่งเป็นคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.เข้าพบว่า ไม่ได้เป็นการหารือ แต่เรียกไปสอบถามข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเรื่องคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งเห็นในคำสั่ง ไม่ได้กำหนดเวลาการสอบสวนทางวินัย ก็เป็นเรื่องของรัฐบาล ถ้าถามตนก็ตอบไม่ได้


ผู้สื่อข่าวถามว่า การเรียกนายตำรวจทั้งสองคนเข้าพบจะมีปัญหากับ ผบ.ตร.หรือไม่

พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า ผบ.ตร.กับตนเป็นพี่น้องกันขอร้องอย่าถามเรื่องคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ไปดูรายละเอียดคำสั่งกันเอง ผู้สื่อข่าว ถามว่า ผบ.ตร.บอกว่า หลังเข้ารายงานตัวที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว จะกลับไปเข้าทำงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อ เพราะยังเป็น ผบ.ตร. พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ และไม่หนักใจ ขณะนี้ต้องรักษาองค์กรเป็นเรื่องสำคัญ ต้องดูแลให้ดีที่สุด ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุม ก.ตร. ในวันที่ 5 มี.ค.นี้ จะมีการขออนุมัติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า ได้รับหมายการประชุม ก.ตร.ในวันที่ 5 มี.ค.นี้ แต่ไม่เห็นวาระเกี่ยวกับเรื่องพล.ต.อ.เพรียวพันธ์
 

 
ในวันเดียวกัน เวลา 08.30 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

กล่าวผ่านรายการ
สนทนาประสาสมัครทางวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 เครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ โดยตำหนิสื่อมวลชนกรณีวิพากษ์วิจารณ์การย้าย ผบ.ตร.ว่า ช่วยกรุณาชั่งน้ำหนักยุคก่อนสมัยก่อน ตอนมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง เขาเปลี่ยนแปลงอย่างไร หุบปากกันหมด ไม่โผล่หัวขึ้นมาเลย เงียบกันหมด ไม่ฟังวิพากษ์วิจารณ์ พอเขามาจากการเลือกตั้ง มีการปรับปรุงแก้ไข โอ้โห...แหกปากพูดกันจะเป็นจะตาย

เรารู้ว่าเราทำอะไร ขอบเขตมีแค่ไหน ทำได้แค่ไหน และทำอะไรเพื่ออะไรอย่างไร

ทำไมคนมาจากการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลแล้ว จะทำหน้าที่อะไรอย่างไรบ้างไม่ได้หรือ พูดกราดไปทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะกลุ่มจะก้อนจะพรรคการเมืองอะไรต่างๆที่วิพากษ์วิจารณ์ ตนเลือกตั้งกลับมาแล้ว ทำอะไรทิ้งไว้ ตนต้องมานั่งทนอยู่อย่างนั้นต่อไปอีก
4 ปี มีคนเขาตั้งไว้ให้เสร็จ ไปแตะต้องไม่ได้ แต่พวกนั้นโยกย้ายต่างๆหุบปาก ไม่เคยมีวิพากษ์วิจารณ์ ทำไมคนมาจากการเลือกตั้งมาบริหารบ้านเมือง หยิบตรงนั้นหยิบตรงนี้ ทุกคนต้องรับผิดชอบ รัฐมนตรีนี้ท่านต้องชี้แจง ทำตรงนั้นทำไม แต่เวลาชี้แจงไม่ค่อยฟัง เอาแต่ว่ากล่าวๆ นับหนึ่ง สอง สาม เพิ่งนับได้สี่เท่านั้นเอง ทั้งหมดมีเท่าไร แต่ก่อนนี้เปลี่ยนแปลงไปเท่าไร ไม่ทราบ
 

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่หน่วยเลือกตั้งโรงเรียนวัดบางบอน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

จากนั้นให้สัมภาษณ์กรณีนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ตนทราบจากข่าวหนังสือพิมพ์เท่านั้น ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะมีคำสั่งให้ข้าราชการย้ายไปช่วยราชการได้ เพราะในตำแหน่ง ผบ.ตร. เป็นตำแหน่งที่มีกฎหมายพิเศษ ไม่สามารถย้ายได้ แต่ให้ช่วยราชการได้ หาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เห็นว่าไม่มีความเป็นธรรม ก็มีสิทธิที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีได้ เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวแตกต่างกับการโยกย้าย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร. ออกจากตำแหน่ง
 
เพราะครั้งนั้นเป็นเพียงการให้มาช่วยราชการ โดยไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ในขณะที่ กรณีของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงอีก
3 เรื่อง หากการสอบสวนพบว่าไม่มีความผิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็มีสิทธิจะกลับเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งเดิมได้
 

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการและล่าสุดมีการโยกย้าย ผบ.ตร. ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีว่า


เรื่องนี้ต้องติดตามเพราะยังไม่เกิดความชัดเจน ยังมีการตอบโต้กันไปมาในเรื่องข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเหตุผล
3 เรื่องของการโยกย้าย ไม่รู้ว่าใครเสนอ และเพราะเหตุผลอะไร ดังนั้น อยากเห็นบทบาทของผู้แทนในส่วนของข้าราชการที่ต้องแสดงออก เพราะเข้าใจว่ารัฐบาลต้องใช้อำนาจในการบริหารงานบุคคล เพื่อตอบสนองนโยบาย แต่ในช่วงที่ผ่านมา มองไม่ออกว่าเกี่ยวข้องกับการบริหาร กลายเป็นเรื่องปัจจัยทางการเมือง จึงอยากให้ข้าราชการ กล้าแสดงออกด้วยเหตุและผลตามขอบเขตหน้าที่ ข้าราชการ ก็มีสมาคม ซึ่งเป็นที่น่ายอมรับได้ หากปล่อยไปเรื่อยๆก็จะเกิดปัญหา บ้านเมืองกลับไปสู่วิกฤติ ข้าราชการต้องมีความเข้มแข็ง เพราะเชื่อว่าสังคมจับตาดูอยู่ กับปฏิกิริยา ที่เกิดขึ้น ประชาชนก็จับตา ไม่อยากให้เกิดการโยกย้ายตามอำเภอใจ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์