เสรี สวน อังคณา อย่าแหกปาก!

ฟ้องแล้วไม่ฟัน5ตร.พัวพันอุ้ม


รักษาการผบ.ตร.กร้าว ย้อน"อังคณา นีละไพจิตร" ที่ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง "อย่าแหกปาก" เผย "ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ" พามาพบเมื่อเดือนก่อน รับปากจะดำเนินการกับตร.ที่พัวพันอุ้ม "สมชาย"ให้อยู่แล้ว เตือนให้อยู่ในกรอบ อย่าผลักไสให้ไปอยู่อีกฝ่าย


ด้านเมียทนายสมชายขึ้นศาลปกครองยื่นฟ้องแล้ว


รักษาการผบ.ตร.-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ดำเนินการตามสมควรกับ 5 ตร.ที่เกี่ยวข้องกับคดี ทั้งยุติการสอบวินัยชั่วคราว เพื่อรอผลจากศาลอาญาก่อน รวมทั้งมีการปล่อยให้กลับเข้ารับราชการต่อ อาจใช้อำนาจหน้าที่ไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานได้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 มี.ค. ที่ศาลปกครองกลาง


นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม พร้อมด้วยนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ เดินทางมายื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง หมายเลขคดีดำที่ 457/2550 โดยฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ผู้ถูกฟ้องที่ 1 และรักษาการผบ.ตร. ผู้ถูกฟ้องที่ 2 เพื่อขอให้ศาลปกครองสั่งเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่มิชอบ

นางอังคณา กล่าวว่า


จากกรณีที่นายสมชายหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 47 โดยการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่ามีกลุ่มคนประกอบด้วย

1.พ.ต.ต.เงิน ทองสุก
2.พ.ต.ท.สินชัย นิ่มปุณญกำพงษ์
3.จ.ส.ต.ชัยเวง พาด้วง
4.ส.ต.อ.รันดร สิทธิเขต และ
5.พ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน

และสำนักงานอัยการสูงสุดได้เป็นโจทก์ฟ้องบุคคลดังกล่าว และแม้ว่าศาลชั้นต้นจะพิพากษาจำคุกพ.ต.ต.เงิน และให้ยกฟ้องจำเลยอีก 4 คนที่เหลือ โดยที่ตนในฐานะโจทก์ร่วมได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาล และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

นางอังคณา กล่าวว่า


ในขณะเดียวกับที่เรื่องอยู่ที่ศาลอาญา สตช.ได้ดำเนินการฐานผิดวินัยร้ายแรงกับผู้ต้องหาทั้ง 5 แต่มีการเลือกปฏิบัติชัดเจน เนื่องจากสตช.มีคำสั่งให้พักราชการจำเลยที่ 1-4 แต่ให้พ.ต.ท.ชัดชัยไปช่วยราชการที่ตำรวจภูธรภาค 4 รวมทั้งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาสอบสวนวินัยร้ายแรง มีข้อสรุปว่า ยังฟังไม่ได้ว่าบุคคลทั้ง 5 กระทำผิดวินัยร้ายแรงจริง จึงให้รอผลคำพิพากษาของศาลให้ถึงที่สุดเสียก่อน


แต่ระหว่างรอการพิจารณาของศาลชั้นต้นนั้น


ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 กลับมีคำสั่งให้ทั้ง 4 คน ยกเว้นพ.ต.ต.เงิน เข้ารับราชการในสังกัดเดิม จึงถือเป็นการออกคำสั่งแย้งกับคำสั่งเดิม ทั้งที่ข้อเท็จจริงของคดียังไม่สิ้นสุด อีกทั้งพ.ต.ท.ชัดชัยไม่เคยถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเลย จึงถือว่าการออกคำสั่งดังกล่าวเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบและเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และทำให้เกิดความเสียหายต่อตน

นางอังคณา กล่าวอีกว่า


นอกจากนี้ การหายตัวไปของนายสมชายอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ การที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้กลับเข้ารับราชการ ทำให้เกิดความเคลือบแคลงการทำงานของสตช. และยังอาจจะเข้ามาอาศัยอำนาจหน้าที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งจะส่งผลเสียต่อกระบวนการยุติธรรมได้


จึงขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งดังนี้


1.สั่งเพิกถอนคำสั่งของสตช.ที่ให้พ.ต.ท.ชัดชัย ไปช่วยราชการที่ตำรวจภูธรภาค 4

2.เพิกถอนคำสั่งกรณีที่ให้จำเลยอีก 3 คนกลับเข้ารับราชการ และ

3.ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 ดำเนินการสอบสวนวินัยร้ายแรงแก่จำเลยทั้ง

4 และให้มีคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อนจนกว่ากระบวนการพิจารณาคดีอาญาทั้งในชั้นศาล และกระบวนการดำเนินคดีของดีเอสไอแล้วเสร็จ

ผู้สื่อข่าวถามว่าในโอกาสที่ครบรอบ 3 ปีการหายตัวไปของนายสมชาย อยากจะเรียกร้องอะไรกับหน่วยงานที่รับผิดชอบหรือไม่


นางอังคณา กล่าวว่า ความปรารถนาเดียวที่ต้องการคือให้ทางเจ้าหน้าที่สามารถตามหานายสมชายให้เจอ และให้นำบุคคลที่กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ เพราะตั้งแต่นายสมชายหายตัวไปตั้งแต่ปี"47 ตนได้ไปร้องเรียนหลายต่อหลายแห่ง ทั้งทำหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 5 นาย ร้องเรียนผบ.ตร. แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ แม้กระทำทำหนังสือไปยังจเรตำรวจแห่งชาติ ตามหนังสือลงวันที่ 1 ธ.ค. 48 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ

ซึ่งเมื่อไม่มีใครให้ความเป็นธรรมได้ จึงได้ทำหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ใช้ให้อำนาจพิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่กลับได้รับคำตอบว่าผู้ตรวจการแผ่นดินฯ ไม่มีอำนาจเพราะถูกรัฐธรรมนูญปี"40 ถูกยกเลิกไปแล้ว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่นางอังคณายื่นฟ้อง กรณีไม่ลงโทษข้าราชการตำรวจ 5 นาย ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการอุ้มทนายสมชายว่า คนเราไม่รู้เรื่องอะไรจริงก็ไปกล่าวหาคนอื่น ชอบทำอะไรตามใจตัวเองเป็นหลัก ตนเพิ่งรักษาการผบ.ตร.เมื่อเดือนที่แล้ว



นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ได้พานางอังคณามาพบ


จึงได้รับปากว่าจะดำเนินการให้ โดยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนผู้มีปัญหาอยู่ จะเอาอะไรอีก จะให้ตนเป็นศัตรู จะให้ทำหรือไม่ให้ทำ ไปสั่งสอนนางอังคณาให้อยู่ในกรอบ อย่าแหกปาก ทำให้แล้วจะเอาอะไรอีกจะผลักให้ผมไปอยู่อย่าอีกฝ่ายหรือไง อย่าเชื่อคนอื่นมาก ผมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว" รักษาการผบ.ตร.กล่าว

ที่กระทรวงยุติธรรม


นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีการหายตัวไปครบ 3 ปี ของนายสมชายว่า หลังการเชิญตัวพล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านนิติการ มาเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการหายตัวของนายสมชาย ทำให้คดีมีความคืบหน้าไปมาก แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี


สำหรับชิ้นส่วนศพของนายสมชายไม่ถือเป็นหลักฐานสำคัญ


หากมีพยานบุคคลยืนยันการกระทำความผิดก็ถือเป็นหลักฐานที่เพียงพอจะนำไปพิสูจน์ได้ว่านายสมชายเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนกรณีที่นางอังคณาออกมาให้สัมภาษณ์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบสวน ตนอยากจะเชิญนางอังคณามาพูดคุย เพราะไม่ต้องการให้นำรายละเอียดในสำนวนคดีไปเปิดเผย

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความคาดหวังว่าหลังการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมือง คดีทนายสมชายจะมีความคืบหน้าชัดเจน


นายสุนัย กล่าวว่า แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่ผู้นำสูงสุดของตำรวจเพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่บุคลากรในกองบังคับการตำรวจปราบปรามยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ รักษาการผบ.ตร. พิจารณาโทษทางวินัยกับนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีหน่วงเหนี่ยวกักขังนายสมชายตามคำร้องขอจากนางอังคณา เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการสืบสวนสอบสวน เพราะที่ผ่านมาการทำงานในตำแหน่งเดิมของผู้เกี่ยวข้องทำให้เกิดอุปสรรคต่อการสอบสวนบ้าง อย่างน้อยก็ควรจะย้ายออกไม่ให้ทำงานในตำแหน่งหน้าที่เดิม


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์