เสธ.อู้ย้ำร่างรธน.ไม่เอื้อนายกฯคนนอก

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่พัทยา จ.ชลบุรี พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ

 แถลงความคืบหน้าในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา ว่า กมธ.ยกร่างฯ พิจารณาร่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ภาค 2 ผู้นำการเมืองที่ดีและระบบผู้แทนที่ดี หมวด 4 คณะรัฐมนตรี โดยมีสาระสำคัญที่แตกต่างจากรัฐธรรมนูญ ปี 2550 อาทิ มาตรา 186 ว่าด้วย เมื่อครม. ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ให้ปลัดกระทรวงของแต่ละกระทรวงรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนั้น แต่ทั้งนี้การปฏิบัติหน้าที่ได้เท่าที่จำเป็นภายใต้เงื่อนไข เช่น ไม่กระทำการอันเป็นการใช้อำนาจแต่งตั้ง หรือย้ายข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ หรือให้บุคคลพ้นจากตำแหน่งหรือให้ผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจาก กกต.ก่อน รวมถึงไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการหรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อครม.ชุดต่อไป และไม่ใช้หรือยอมให้บุคคนอื่นใดใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการอันมีผลต่อการเลือกตั้ง

พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุที่ไม่ให้ ครม.ปฏิบัติหน้าที่ต่อ

 เพราะเกรงว่าจะมีส่วนได้เสียที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองในการลงสมัครับเลือกตั้ง ดังนั้นจึงต้องให้ปลัดกระทรวงต่าง ๆ ทำหน้าที่แทน ส่วนในมาตรา 189 ที่ให้อำนาจพิเศษนายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย โดยมีอำนาจเหนือสภา ฝ่ายบริหาร ตุลาการ กมธ.ยกร่างฯได้ตัดออก เพราะเกรงจะให้อำนาจแก่ฝ่ายบริหารมากเกินไป ขณะที่กฎหมายปัจจุบันก็สามารถแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวได้ อาทิ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และกฎอัยการศึก ขณะที่ข้อกังวลเรื่องการชุมนุมที่อาจจะสร้างความวุ่นวายในอนาคต ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)จะมี พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ จึงเชื่อว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ ขณะที่ มาตรา 201 รัฐมนตรีผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการเกี่ยวกับกฎหมาย พระราชหัตถเลขา และพระบรมราชโองการแผ่นดิน หากเกิดความผิด ผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการต้องเป็นผู้รับผิดชอบ        

พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากวิจารณ์กรณีการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ "คนนอก" มาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้ 

ขอยืนยันว่า กมธ.ยกร่างฯ ไม่เคยพิจารณายกร่างให้มี "คนนอก" เข้ามาทำหน้าที่ และตนเชื่อว่าในสถานการณ์ปกติไม่มี ส.ส.คนใดเลือกบุคคลภายนอกเข้ามา เว้นแต่หากมีเหตุผลและสถานการณ์ที่จะต้องทำเช่นนั้น ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะหากเกิดอะไรที่ไม่เหมาะสม ประชาชนก็จะเป็นคนที่ลงโทษ ส.ส.เอง โดยไม่เลือกบุคคลนั้นกลับมาเป็น ส.ส