เล็งฟ้องแบงก์ใบโพธิ์ เพิกเฉยถอนอายัดเงินชินวัตร

นางรวิฐา พงศ์นุชิต รองอธิบดีกรมสรรพากร กล่าววันนี้ (23 ส.ค.) ว่า กรมสรรพากรได้ส่งหนังสือไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ขอให้นำส่งเงินในบัญชีของครอบครัวชินวัตรจำนวน 12,000 ล้านบาท เพื่อชดใช้ค่าภาษีที่บุตรชายและบุตรสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ค้างชำระกรณีการซื้อหุ้นชินคอร์ปอเรชั่นจากบริษัท แอมเพิลริช ต่ำกว่าราคาตลาดเนื่องจากตามมาตรา 12 แห่งประมวลรัษฎากร ระบุว่า กรมสรรพากรจะต้องยึดเงิน นำส่งเข้ารัฐภายใน 15 วัน หลังทรัพย์สินถูกอายัด
"ที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้หารือกับคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ในเรื่องการถอนอายัด แต่ คตส.ไม่อนุมัติให้ทำ โดยให้รอศาลตัดสินให้ชำระหนี้ก่อน ภายหลังเมื่อ คตส.หมดอายุไป กรมสรรพากรก็ได้ถามไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ระบุว่า ไม่มีอำนาจสั่งการ" รองอธิบดีกรมสรรพากร กล่าว   นางรวิฐา กล่าวว่า  กรมสรรพากรจึงตัดสินใจดำเนินการเอง โดยส่งหนังสือไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ให้ส่งเงินคืนภายใน 15 วันนับจากหนังสือไปถึง แต่จนถึงขณะนี้ ทางธนาคารไทยพาณิชย์ก็ยังไม่ตอบกลับ มีรายงานว่า ธนาคารเกรงว่า หากมีการถอนเงินออกไป จะกระทบต่อสภาพคล่องของธนาคาร ซึ่งหลังจากนี้ หากยังไม่ยอมส่งเงินคืน กรมสรรพากรอาจฟ้องธนาคารไทยพาณิชย์ ฐานละเว้นไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ  สำหรับเงินที่ถอนอายัดนั้น รองอธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ตามกฎหมายต้องฝากไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น จึงไม่มีทางที่เงินจะหลุดไปยังส่วนอื่น หรือบุคคลอื่นได้   ก่อนหน้านี้นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษกคตส. กล่าวถึงกรณีที่กรมสรรพากรดำเนินการขอคืนเงินอายัดว่า เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอัยการสูงสุดแล้ว ไม่มีหน่วยงานใดที่จะเข้ามาดำเนินการเพื่อถอนอายัดได้ โดยเฉพาะกรมสรรพากร เพราะไม่มีกฎหมายกำหนดให้ทำได้ กรมสรรพากรมีหน้าที่ในการตามจัดเก็บภาษีเท่านั้น ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของศาลจะดีกว่า เนื่องจากที่ผ่านมาในระหว่างที่ คตส.มีมติอายัดทรัพย์สินจำนวนดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าหาเข้ามาพิสูจน์เพิกถอนการอายัดทรัพย์ แต่ไม่เห็นดำเนินการแต่อย่างใด  จึงต้องใช้อำนาจศาลต่อไปในการพิสูจน์ ใครจะเข้ามาดำเนินการระหว่างนี้ไม่ได้

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์