เลือกตั้งส่อโมฆะ! พีเน็ตร้องจัดคูหาขัด รธน.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2549 16:29 น.

เลือกตั้ง ฉาว ส่อโมฆะ พีเน็ตชี้คูหาใหม่ขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้การลงคะแนนไม่เป็นความลับ เข้าข่ายละเมิดสิทธิฯ ซ้ำติดรายชื่อหมายเลขผู้สมัครในคูหา ผิดกฎหมายเลือกตั้งชัดเจน เตรียมยื่นร้องกรรมการสิทธิฯ ผู้ตรวจการรัฐสภา ก่อนยื่นต่อศาล รธน.ระบุความผิดฉกรรจ์ ถึงขั้น กกต.ต้องพ้นจากตำแหน่ง

เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ผ่านมา มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายประชาชนตรวจสอบการเลือกตั้ง หรือ พีเน็ต ได้จัดแถลงข่าวกรณีการจัดการเลือกตั้งวันนี้ (2เม.ย.) ซึ่ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำผิดกฎหมายในหลายประเด็น

เริ่มตั้งแต่การหันคูหาสำหรับลงคะแนนออกมาด้านนอกให้ผู้อื่นสามารถมองเห็นการกาบัตรได้โดยง่าย ซึ่งเรื่องนี้ ทางพีเน็ต จะดำเนินคดีกับ กกต.ฐานกระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญตามมาตรา 104 วรรค 3 ที่ระบุให้การเลือกตั้งของประชาชนเป็นไปโดยทางลับ เพื่อให้เกิดการลงคะแนนอย่างอิสระและมีเสรีภาพ คนอื่นที่ไม่ใช่ผู้ใช้สิทธิ ต้องไม่รู้ไม่เห็นกับการลงคะแนนของตน

ทั้งนี้ การตั้งคูหาโดยหันออกมาด้านนอก ทำให้คนอื่นมองเห็นชัดเจนว่า กาหมายเลขอะไร โดยเฉพาะช่องไม่ลงคะแนนให้ผู้สมัครพรรคใด ซึ่งอยู่ด้านล่าง จะเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นที่สังเกตว่า เจ้าหน้าที่ที่สังเกตการเลือกตั้งอยู่ใกล้ๆ จะเห็นได้ชัดเจนว่าผู้ใช้สิทธิกาให้ผู้สมัครพรรคใด

ทำให้เห็นว่า การรจัดคูหาในลักษณะดังกล่าว ชี้ส่อไปในทางทุจริต เป็นการจงใจที่จะฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งอย่างชัดเจน

ประเด็นต่อมา มีการนำหมายเลขผู้สมัครมาติดบนแผ่นไม้กระดาน ในระดับสายตาของผู้ลงคะแนน ภายในคูหาเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง ที่ห้ามการทำหมายเลขอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อเป็นการจูงใจ โน้มน้าวให้เกิดการลงคะแนนภายในคูหา

ความผิดดังกล่าว พีเน็ตจะยื่นร้องไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน เพื่อให้คณะกรรมการสิทธิฯ ส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมทั้งเป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนหรือไม่

นอกจากนั้น จะยื่นร้องต่อผู้ตรวจการรัฐสภา เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ด้วย

นอกจากนี้ ประชาชนทั่วไป หากเห็นว่า การลงคะแนนด้วยวิธีนี้ ทำให้ผู้อื่นรู้ว่า ตนลงคะแนนให้ใคร ประชาชนสามารถยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดได้ ซึ่งศาลจังหวัดจะส่งเรื่องต่อมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ และถ้าการเลือกตั้งในลักษณะนี้ เกิดทั่วประเทศ จะทำให้การเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นโมฆะ ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ และทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 4 คน ต้องพ้นจากตำแหน่ง

ด้าน นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดคูหาเลือกตั้งแบบใหม่ ว่า เป็นเรื่องที่แปลก เพราะปกติคูหาต้องหันหน้าออกมามีแผงกั้นด้านหน้า ส่วนข้างหลังก็มีกำแพงปิด เพื่อไม่ให้คนที่มาสังเกต หรือสอดส่งได้ว่าลงคะแนนเลือกตั้งให้ใคร

"การจัดคูหาแบบใหม่นี้ มันเสี่ยงส่อต่อการที่จะทำให้มีการติดตามว่าผู้ใดลงคะแนนให้ผู้สมัครชื่ออะไร ลงช่องไหน ไม่ทราบว่า กกต.มีเหตุผลที่เหมาะสมอย่างไร แต่มองโดยสภาพทั่วไป เมื่อผู้ใช้สิทธิลงคะแนน ก็จะมีคนมองเห็นหมดเลย เพราะไม่มิดชิด"นายอานันท์กล่าว