เลิก ´อัยการศึก´ ทักษิณจึงกลับ

จากการที่นายกรัฐมนตรีและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ออกมาพูดตรงกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามขอเดินทางกลับประเทศไทย พร้อมกับมีข่าวออกมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้ เงื่อนไขแบบเดียวกับนางอองซาน ซูจี กดดันรัฐบาลด้วยนั้น ล่าสุดที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว และยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่คิดกลับประเทศไทยในช่วงนี้

ทักษิณ ยันยังไม่กลับไทย

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่ รร.แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดแถลงข่าวถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ได้พูดคุยกับอดีตนายกฯเป็นระยะ ล่าสุดเพิ่งคุยกันเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งท่านและครอบครัวได้ฝากขอบคุณผู้ปรารถนาดีทุกคนที่ให้กำลังใจและเป็นห่วงในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น จะยังไม่กลับในระยะเวลาอันใกล้นี้ ท่านมีวิจารณญาณของท่านว่าช่วงไหนเหมาะสมที่จะเดินทางกลับ เพราะท่านเองก็รักและห่วงบ้านเมืองเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน ดังนั้น ขอให้ทางรัฐบาลและ คมช. สบายใจได้ จะไม่สร้างความลำบากใจหรือทำให้หวาดระแวง ส่วนที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ว่าจ้างทนายชาวอังกฤษเพื่อดำเนินการขอลี้ภัยทางการเมือง หรืออยู่ในประเทศอังกฤษเป็นการถาวรนั้น ไม่เป็นความจริง แต่จะเดินทางกลับในเวลาที่เหมาะสม ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและทุกฝ่าย เพื่อสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยหวังว่าประเทศไทยจะกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยและนิติรัฐในไม่ช้า นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีความเป็นห่วงประเทศไทย โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่ประชาชนประสบอยู่ในขณะนี้ และห่วงในเรื่องของการลงทุนที่จะเข้ามาจากต่างประเทศด้วย

ระบุไม่มีแผนกลับมาเคลื่อนไหว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีแผนที่จะกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา และจะปฏิบัติการเหมือนนางอองซานซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในพม่า ที่ให้รัฐบาลควบคุมตัวไว้แล้วเกณฑ์คนมาสนับสนุน นายนพดลตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยมีแผนกลับมา และยังจะไม่กลับในระหว่างนี้ ที่เกรงว่าจะมีคลื่นใต้น้ำหากอดีตนายกฯกลับมานั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลคิดและพูดเอง ไม่ได้เป็นการจัดการของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือพรรคไทยรักไทย เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว สำหรับประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับทาง คมช. หรือรัฐบาลถือว่าเป็นสิทธิทางการเมือง แต่ก็ไม่ควรไปคัดค้านหรือล้มล้างรัฐบาลชุดปัจจุบัน

นายนพดลกล่าวต่อว่า สำหรับการกลับมาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เป็นความจำเป็นที่จะมาเยี่ยมมารดาในประเทศไทย แต่ยืนยันได้ว่าไม่มีการดำเนินการทางการเมือง หรือท้าทายอำนาจรัฐ ขณะที่นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการส่วนตัว พ.ต.ท. ทักษิณนั้น ขณะนี้ยังอยู่ที่ลอนดอน เช่นเดียวกับลูกๆ ทั้ง 3 คน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่มีปัญหาการกีดกันจาก รัฐบาลในการกลับประเทศ เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาก็ต่อเมื่อมีการยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว นายนพดลตอบว่า จะพูดอย่างนั้นก็ได้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมและหารือกับรัฐบาลแล้วจึงกลับมา

ไม่ห่วงเรื่องตรวจสอบทรัพย์สิน

นายนพดลกล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ได้คุยกันแล้วท่านไม่ได้เป็นห่วงอะไร เนื่องจากที่ผ่านมาสมัยท่านเป็นนายกฯมีการปรับ ครม.เป็นประจำ จึงได้แสดงไปหลายครั้ง และจะเห็นว่ามีทรัพย์สินลดลงด้วยซ้ำ ส่วนที่มองว่าทรัพย์สินอาจจะอยู่ที่ต่างประเทศนั้น ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณส่วน ใหญ่อยู่ในประเทศไทย แต่ก็พร้อมยินดีให้ตรวจสอบทุกส่วน ทั้งนี้ ทีมกฎหมายของท่านจะหารือกันในกรอบกฎหมายกว้างๆ ในประเด็นการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว

ตอกย้ำชัดวางมือทางการเมือง

นายนพดลกล่าวด้วยว่า สำหรับการที่พรรคไทยรักไทย ได้ตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ เป็นนายจาตุรนต์ ฉายแสง นั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว การเลือกหัวหน้าเป็นเรื่องของสมาชิกพรรค 14 ล้านคน พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเพียงสมาชิกพรรคคนหนึ่ง แต่นายจาตุรนต์ถือเป็นคนที่มีภาพลักษณ์เป็นนักประชาธิปไตย เชื่อว่าจะนำพาพรรคไปในทิศทางที่ดีได้ ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า ถ้าสถานการณ์ในเมืองไทยยังคงเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ คงจะพอแล้ว จะยุติการดำเนินการทางการเมือง เมื่อถามว่า ในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจหรือไม่ นายนพดลตอบว่า เรื่องนั้นยังอีกไกล ต้องพิจารณากันในอนาคต ซึ่งครอบครัวของท่านก็อยากให้วางมือเหมือนกัน

ทางด้านนายสุทิน คลังแสง รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงข้อถกเถียงการกลับประเทศไทยของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า การที่ พ.ต.ท. ทักษิณจะเดินทางกลับประเทศนั้น น่าจะเป็นผลดีของประเทศไทย และ คมช.เอง ในแง่ของสายตาต่างประเทศที่มองมา โดยเฉพาะด้านสิทธิมนุษยชน ถ้าหากไม่มีการยกเลิกกฎอัยการศึก จน พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถกลับประเทศได้ จะเกิดผลเสียในด้านภาพลักษณ์ ขณะนี้ อดีต ส.ส.ในพรรคไทยรักไทยอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดูแลพรรคเช่นเดิม เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ทิ้งพรรค แต่จะกลับมาอยู่ในตำแหน่งใด ฐานะใด ต้องหารือกันอีกครั้ง ระหว่างนี้แกนนำพรรคที่เหลืออยู่จะดูแลพรรคตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณมอบหมาย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ประเมินยอดสมาชิกที่เป็นอดีต ส.ส.เขต ยังมีไม่น้อยกว่า 270 คน ไม่รวมระบบบัญชีรายชื่อ ถือว่ายังเป็นพรรคขนาดใหญ่ที่สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ สำหรับกรณีที่ คตส.ขอข้อมูล ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบอดีตรัฐมนตรีจากพรรคไทยรักไทยนั้น อดีตรัฐมนตรีได้มีการเตรียมข้อมูลต่างๆไว้แล้ว และพร้อมให้ตรวจสอบ เราขอเพียงให้ตรวจสอบโดยยุติธรรม และฟังความหลายๆด้านด้วย

จี้รัฐ-คมช.จัดการเด็ดขาดพวกก่อกวน

ทางด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะมนตรีความมั่นคง แห่งชาติ (คมช.) ระบุว่ามีคลื่นใต้น้ำ ว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลเรื่องความมั่นคงในประเทศ เพราะท่านมีอำนาจเต็มที่ มีหน่วยข่าวกรอง ดังนั้น ต้องจัดการให้เด็ดขาด ทั้งนี้ แม้จะมีการยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว คมช.ก็มีอำนาจอยู่ หากเกิดสถานการณ์ไม่ปกติ ก็สามารถที่จะดำเนินการได้ตามกฎหมาย เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลจะขออยู่ทำงานเป็นเวลา 1 ปี 5 เดือน รองหัวหน้าพรรคชาติไทยกล่าวว่า คนที่พูดกับคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจเป็นคนละคนกัน ดังนั้น ทางที่ดี เรื่องแบบนี้ควรให้นายกฯเป็นคนพูดคนเดียวจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน พูดกันไปพูดกันมา อาจทำให้ความสมานฉันท์ไม่เกิดขึ้นก็ได้ ดังนั้น ขอให้ผู้ที่มีอำนาจโดยตรงพูดคนเดียว เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ

วอน แม้ว คิดถึงความสงบในชาติ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะมีการเกณฑ์คนเพื่อรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับประเทศไทยว่า ถ้าวิงวอนขอร้องได้อยากขอร้อง พ.ต.ท. ทักษิณว่าไม่ควรปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ในกรณีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณมีส่วนช่วยได้มาก ในฐานะเป็นอดีตนายกฯอยากให้ขบคิดถึงเรื่องความสงบสุขของประเทศเป็นหลัก จากการที่อ่านข่าวแล้วคิดว่ามีความเป็นไปได้และอาจจะเป็นการปล่อยข่าวจากผู้ไม่หวังดี ต่อข้อถามว่า คนใกล้ชิดที่อยู่ในประเทศไทยกำลังดำเนินการในลักษณะดังกล่าวอยู่ จะส่งผลกระทบหรือไม่ นายองอาจตอบว่า คนใกล้ชิดจะดำเนินการอย่างไรก็ไม่เป็นผล ถ้า พ.ต.ท. ทักษิณออกมาแสดงความชัดเจน

นายลิขิต ธีรเวคิน หัวหน้าพรรคพลังแผ่นดินไท กล่าวถึงการจะกลับเข้าประเทศของ พ.ต.ท. ทักษิณว่า ในแง่กฎหมายคนไทยทุกคนสามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้อยู่แล้วแต่ในแง่การเมืองปฏิเสธไม่ได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ทำทั้งเรื่องดีและไม่ดีเอาไว้ ดังนั้น เมื่อปากบอกว่าต้องการเห็นประเทศสมานฉันท์ ก็ไม่ควรจะ กลับ เพราะหากวิเคราะห์แล้วว่ากลับมาแล้วจะเกิดปัญหาทางการเมือง เชื่อว่าคนที่เป็นผู้บริหารประเทศมาแล้วสามารถใช้วิจารณญาณในเรื่องนี้ได้ เพราะปฏิเสธไม่ได้ ว่าที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณมีส่วนทำให้เกิดความขัดแย้ง ขณะที่บางส่วนก็มาจากคนอื่นหากไม่สามารถควบคุมได้ก็จะเป็นปัญหา จะนำมาซึ่งความเสียหาย

ระบุถ้าเห็นแก่ชาติอย่ากลับมาเลย

ด้านนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภานิติบัญญัติกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลับเมืองไทยหากมีการยกเลิกกฎอัยการศึกด้วยว่า หากเห็นแก่ประเทศ ชาติขอความกรุณาอย่าเพิ่งกลับมาช่วงนี้ เพราะเวลาเพิ่งผ่านไปแค่เดือนเดียวทุกอย่างยังไม่นิ่ง สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำความเสียหายแก่ประเทศไว้ยังมีอีกมากที่รอการสะสาง หากกลับมาการบริหารประเทศของรัฐบาลก็จะทำได้ยากขึ้น ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณควรจะมีวุฒิภาวะพอที่จะรู้ว่ายังไม่ควรแม้แต่คิดที่จะกลับมาเมืองไทย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ