เมื่อคดีเขาพระวิหารถูกรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ชน


หลังใช้เวลามานานกว่า 1 ปี ในที่สุด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ลงมติ 6 ต่อ 3 ชี้มูลความผิดคดีเขาพระวิหารของคณะรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี  ให้นายสมัครและ นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศ มีความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนรัฐมนตรีอีก 25 คน และข้าราชการอีก 5 คนนั้น ไม่มีเจตนากระทำความผิด
   
ขั้นตอนต่อไป ป.ป.ช.ก็จะต้องส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินการเอาผิดต่อไป
   
กรณี เขาพระวิหารและกรณี “7 ตุลาที่ ป.ป.ช.ชี้มูลไปก่อนหน้านี้ เหมือนกันอยู่อย่างคือ นักการเมืองระดับอดีตนายกรัฐมนตรีอย่างนายสมัครและ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันคือ ต้องขึ้นศาลตอนแก่    
   
แต่คดี เขาพระวิหารกลับไม่ใช่ ไฮไลต์ของข่าวประจำวันที่ 29 ก.ย.
   
แต่ไปอยู่ที่การประชุม ครม. ซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะมี 3 เรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน แต่แฝงนัยทางการเมืองอยู่ภายใน ตามประสาคนที่ชอบคิดลึก
   
เรื่องแรก ก็เรื่อง รถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เรื่องนี้เงียบหายไปพักใหญ่ เข้า ๆ ออก ๆ ครม.มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลสมัคร และร้อนแรงเป็นที่ถกเถียงกันทั้งบ้านทั้งเมืองถึงความเหมาะสม คุ้มค่า แต่จู่ ๆ ครม.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็อนุมัติให้เช่าแทนการซื้อ
    
ถามใครก็รู้ว่าโครงการนี้ พรรคภูมิใจไทย ปั้นมากับมือ และยืนยันมาตั้งแต่เริ่มโครงการว่า จะใช้วิธีการเช่าเท่านั้น สรุปก็คือ แม้จะใช้เวลาโดยอ้างความรอบคอบหรืออย่างไรก็ตาม แต่สุดท้ายก็จบลงเหมือนอย่างที่เสนอโครงการมาในช่วงแรก
   
จะเกี่ยวอะไรกับความสัมพันธ์ในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและไกลไปถึงท่าทีเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นที่ถกเถียงกันในทุกวันนี้หรือไม่ ไม่รู้ แต่สังคม ก็มีสิทธิคิดได้
   
เรื่องต่อมา ก็กรณีเด้ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ  ดีเอสไอ ไปนั่งตบยุงในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโยกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ไปนั่งแทน
   
กรณีนี้คนเขาก็มีสิทธิสงสัยกันว่าเกี่ยวอะไรกับเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท ที่อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.หรือไม่
   
ขณะที่กรณีสุดท้าย คือการตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ  จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือ ผบ.ตร.
   
กรณีคนในสังคมเขาก็มองแบบเดิม ๆ อีก คือ นายกรัฐมนตรี ซื้อเวลาและที่บอกว่าจะกลับมาสะสางนั้นก็ทำได้แค่ตั้งรักษาราชการแทนเท่านั้น

ใช้ เวลาเป็นวิธีการที่สำคัญที่นายอภิสิทธิ์ใช้แก้ไขปัญหา.
 

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์