เพื่อไทยแฉรัฐบาลใช้วิชามารปิดปากจตุพรซักฟอกการขอคืนพื้นที่ราชประสงค์ เหลิมลุยถล่มทุจริต


"เพื่อไทย"แฉรัฐบาลใช้วิชามารปิดปาก"จตุพร"ซักฟอกการขอคืนพื้นที่ราชประสงค์ "เหลิม"ลุยถล่มทุจริต

 31 พ.ค. ศกนี้   ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะมีการพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรี 5 คนอันประกอบด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ,นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง , นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ,นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม  โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการปรับครม.หลังการซักฟอก  ทำให้สถานการณ์การเมืองใกล้วันซักฟอกมีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก
 

    ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แนวทางการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ว่า ส่วนตัวจะเน้นอภิรายในประเด็นการทุจริต เพราะเชื่อว่าจะทำให้รัฐบาลชี้แจงยาก อีกทั้งตนเองไม่มีความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์การชุมนุมในช่วงเดือนพฤษภาคม เพราะไม่เคยข้องเกี่ยว เพียงแต่ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่หากที่ประชุมส่วนใหญ่ของพรรคต้องการเน้นเนื้อหาเหตุการณ์ดังกล่าวก็ยินดี อย่างไรก็ตาม แม้ท้ายที่สุดรัฐบาลจะผ่านพ้นไปด้วยการลงมติในสภา แต่ก็จะหมดความชอบธรรมในการทำงานต่อไป


  ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า อยากให้พรรคเพื่อไทยวางตัวผู้อภิปรายจำนวนไม่มาก โดยแยกเป็นหัวข้อกำหนดประเด็นให้ชัดเจนและอภิปรายอย่างต่อเนื่อง ให้มีบทสรุปในภาพรวม ส่วนตนเองจะอภิปรายในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ขณะเดียวกันเชื่อว่าประธานในที่ประชุม จะไม่อนุญาตให้เปิดคลิปวิดีโอเหตุการณ์ชุมนุมที่ผ่านมาอย่างแน่นอน


ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายในเรื่องปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ของรัฐบาลนั้น เห็นว่ามีความเหมาะสม เนื่องจากอยู่ในเหตุการณ์และไม่มีใครรู้ข้อมูลเท่า นายจตุพร


ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงกรณีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยื่นเรื่องต่อศาลให้ออกหมายศาลถึงประธานสภา ฯ เพิกถอนเอกสิทธิ์คุ้มครองส.ส.ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยว่า มีคนใหญ่ในรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์กำลังใช้วิชามารกับนายจตุพร เพื่อไม่ให้นายจตุพรได้


อภิปรายในสภา ถือเป็นเรื่องไม่สมควร และล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายสาธิต ปิตุเดชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวกล่าวหานายจตุพร และนายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี ว่าการกระทำของทั้ง 2 คนที่ไปยุ่งกับกลุ่มนปช. ไม่สมควรที่จะได้อภิปรายและใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองนั้น เป็นการพูดที่เป็นวิธีสกัดดาวรุ่ง


นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้เป็นสุภาพบุรุษทางการเมือง ให้ฝ่ายค้านได้ตรวจสอบรัฐบาล ถ้านายสาธิต รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรค สำนึกว่าเวลาเป็นฝ่ายค้าน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายสมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) แถมยังโดนข้อก่อการ้ายเหมือนกัน แต่วันนี้หมายจับยังคงค้างอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปไม่ถึงศาลและอัยการ ซึ่งเวลา 1 ปี 6 เดือนแล้ว ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ควรตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงา รวมทั้งอย่าทำ 2 มาตรฐาน ไม่ใช่อยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ และทหารแล้วจะทำอะไรก็ได้


นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฯ ทันที และไม่ต่ออายุเคอร์ฟิวส์ออกไป เพราะถือป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพประชาชน และปิดกั้นสื่อมวลชน นอกจากนี้ ยังกระทบการลงทุนและท่องเที่ยว รวมทั้งภาพลักษณ์ของประเทศ การที่รัฐบาลใช้อำนาจ ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปิดหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ รวมถึงเคเบิ้ลทีวีผ่านดาวเทียม วิทยุชุมชนและเว็บไซต์ โดยอ้างว่าเป็นกลุ่มเสื้อแดง ถือว่าลุแก่อำนาจและใช้อำนาจโดยไม่สุจริต หากเปรียบเทียบกับสื่อของเอเอสทีวีและสื่อต่างๆ ที่สนับสนุนรัฐบาล แต่กลับไม่ทำอะไร แสดงให้เห็นว่ามีการบังคับใช้กฎหมาย 2 มาตรฐานและเลือกปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม การอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 31 พ.ค. และ 1 มิ.ย.นี้ หากรัฐบาลจะคงไว้ซึ่งความสง่างาม รัฐบาลควรยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ และประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวส์


ด้านนายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้นัดประชุมทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อกำหนดกรอบการอภิปรายให้ชัดเจน โดยเฉพาะการอภิปรายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งจะมีผู้อภิปรายหลายคน อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภูและนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม


นายวิทยา กล่าวด้วยว่า สำหรับรัฐมนตรีอีกคนที่จะถูกอภิปรายอย่างหนัก คือ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งตนขอถามพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า ก่อนที่จะกล่าวหานายจตุพรเป็นผู้ก่อการร้าย ให้ย้อนกลับไปดูนายกษิต ก่อน ซึ่งมีพฤติกรรมเป็นผู้ก่อการร้ายเช่นกัน ทั้งนี้ การออกมากล่าวหาใครต่อใครว่าเป็นผู้ก่อการร้ายของพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนกับการเห่าของสุนัข



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์