เพื่อไทยฟ้องกองปราบเอาผิด มงคลกิตติ์ กุข่าวไซฟ่อนเงินลวงโลก

                  ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยรับหนังสือจาก นายธีรพัฒน์ คำคูบอน รักษาการณ์ ประธานเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ที่มาร้องเรียน กรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ เลขา ภตช. ออกมาเปิดเผยเรื่อง ไซฟ่อนเงิน 1,600 ล้านที่ฮ่องกง และแอบอ้างชื่อว่านายธีรพัฒน์เป็นประธานภตช. แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงประธานคณะกรรมการสรรหารประธาน ภตช. คนใหม่ที่ว่างลงเท่านั้น

โดยนายธีรพัฒน์ ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องการไซฟ่อนเงินตามที่นายมงคลกิตติ์กล่าวหา และไม่ได้เป็นเลขาส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนี้ไม่ขอให้ความเห็นว่าเป็นการดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่ แต่จากนี้ไปขอประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานสรรหาร ประธานภตช. คนใหม่ โดยจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสรรหา ประธาน ภตช. คนใหม่อีก เพราะไม่อยากถูกนำไปแอบอ้างเพื่อประโยชน์ทางการเมือง

               นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า กำลังตรวจสอบเอกสารที่นายมงคลกิตติ์กล่าวอ้าง ว่าเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการไซฟ่อนเงิน ซึ่งเชื่อว่าไม่พบจะไปแจ้งความกองปราบปรามดำเนินคดีเอาผิดกับนายมงคลกิตติ์ เพราะเป็นปัญหาเรื่องความมั่นคงแห่งรัฐ กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ"นายมงคลกิตติ์ ได้พยายามเชื่อมโยงโดย อ้างซื่อนักการเมืองใช้ตัวย่อ "ก" ถึง "ฮ" ให้เห็นภาพมีการไซฟ่อนเงินจากฮ่องกงไปถึงฝรั่งเศษ ล่าสุดนายธีระภัทร นำเอกสารมามอบให้บอกว่าถูกแอบอ้าง ประชุมวันนั้นไปดูงานที่ฮ่องกงเพียงชั่วโมงเดียวไปดูอาคารสิ่งก่อสร้าง ไม่มีการหารือเรื่ิองการไซฟ่อนเงินกับสำนักงาน ปปช.ของฮ่องกง เลย โดยนายมงคลกิตติ์ จะถูกดำเนินคดีในข้อ บุคคลลวงโลก เป็นภัยต่อรัฐ กุข่าวไม่มีความเป็นจริง เป็นปัญหาต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมกับจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายซื่อพรรคประชาธิปัตย์และพวกด้วยที่นำเรื่องนี้มาขยายผลทำให้ประชาชนเกิดความสับสน"นายพร้อมพงษ์

               นายธีระภัทธ กล่าวอีกว่าตนมายื่นหนังสือร้องเรียนพรรคเพื่อไทยใน 4 ประเด็น คือมีหนังสือทางปปช.ฮ่องกง เชิญมา ตนอยู่ในลำดับ 45 องค์กรสมาคมครูอาชีวะศึกษา ตนทำเรื่องจับทุจริตซื้อคุรุภัฑณ์ 5.2 พันล้านขนาดมีหลักฐานเอาผิดได้ชัดเจนตนยังถูกให้ออกจากราชการเมื่อรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งเมื่อ พล.อ.กิติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ประธาน ภตช.ลาออกได้มาขอร้องให้ตนไปประธานสรรหาประธาน ประธาน ภตช. คนใหม่ จริงๆได้ตัว ศ.ดร. จงจิตติ์ หิรัญลาภ มานั่งแทนแล้วแต่ยังประกาศซื่อเท่านั้น เพราะไปสมัคร เป็นกรรมการปปช. เลยเอาซื่อตนไปใส่แทนไว้ก่อนรักษาการณ์ มีคนเสนอซื่อประธานมาหลายซื่อ เช่น พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน พล.ต.อ. วิศิษฐ์ เดชกุลชร อดีตอธิบดีกรมตำรวจ นายดำรงค์ ภิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯนายถวิล เปลี่ยนสี อดีตเลขาธิการ สมช. และ นายพศิษฐ์ ลีลาวโรพาส รักษาการประธาน สตง. ขณะนี้กำลังสรรหากันอยู่โดยตนทำหน้าที่ประธานสรรหา ซึ่งขอประกาศลาออกตั้งแต่วันนี้ ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาองไซฟอนเงินตนเองไม่เคยรู้เรื่องไม่มีหลักฐานไม่มีข้อมูลมาก่อนเลยเป็นเรื่อง การเมือง ที่ไร้สาระ เลอะเทอะเป็นโจ๊ก ที่พล.อ.กิตติศักดิ์ โยนเผือกร้อนมาให้ตน

              นายพร้อมพงษ์ กล่าวต่อว่าทั้งหมดเป็นเรื่องการเมืองชัดเจน เพราะมีกระบวนการปล่อยข่าวที่มาของข่าว มีการขยายความโดยฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ข่าวเช่นนี้ทำให้เสียภาพลักษณ์ต่อประเทศชาติถ้าไม่มีการดำเนินคดีต่อไปจะมีคนอย่างนายมลคลกิตติ์ เกิดขึ้นอีกมาก ที่เป็นลักษณะพ่อปลาบู่ จะทำให้สังคมได้เห็นว่านายมงคลกิตติ์ ที่เคลื่อนไหวมาตั้งแต่เรื่องโรงเรียนบดินเดชา จนมาถึงเรื่องนี้เป็นคนอย่างไร ที่สำคัญรัฐบาลชุดนี้ไม่มีการกระทำลักษณะไซฟ่อนเงินอย่างแน่นอน วันอังคารที่ 21 ตุลาคม นี้จะไปแจ้งความกองปราบปราม เวลา 10.00 น .

              นายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นความพยายามจะล้มรัฐบาลใน 4 โครงสร้างและเชื่อมโยงข้อมูลกันเพื่อนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องจำนำข้าว เรื่องชายชุดดำ เรื่องไซฟ่อนเงิน และโยงไปให้ถึงการทุจริตงบน้ำท่วม ซึ่งทุกเรื่องไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเลยขอย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังฆ่าตัวตายทางเมืองกลางสภา เพราะประชาชนเขาเบื่อนหน่ายกับนักการเมืองที่ดีแต่พูดให้ร้ายคนอื่นแต่ตัวเองขาดความชอบธรรม โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เองที่หนีทหารก็เป็นข้อหาใหญ่มากแม้แต่ไปสมัครเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ยังสมัครไม่ได้เลย สุดท้ายนายอภิสิทธิ์ จะต้องลาออกเหมือนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กรณีที่ดินสนามกอลฟ์อัลไพน์