เพื่อไทยถือฤกษ์ดี 19สิงหาฯ ปรับฮวงจุ้ย หนีโบดำ-อัปมงคล

"เพื่อไทย"ถือฤกษ์ดี 19สิงหาฯ ปรับฮวงจุ้ย หนี"โบดำ-อัปมงคล" ย้ายจากตึก"พายัพ" กลับตึก"พจมาน" 

หวังแก้ปัญหาทางโหราศาสตร์-คณิตศาสตร์การเมือง เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล !!  ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง วันที่ 19 สิงหาคม 2553 เวลา 09.59 น.  "พรรคเพื่อไทย"จะย้ายที่ทำการพรรค ปรับฮวงจุ้ยใหม่อีกครั้ง โดยย้ายจากอาคารบีบีบิวดิ้ง ย่านถนนพระรามที่ 4 ที่มีอดีตเจ้าของชื่อ "พายัพ ชินวัตร" กลับไปอยู่ที่ "อาคารไอเอฟซีที" หรือชื่อใหม่คือ "อาคารโอเอไอ" ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่เคยมีเจ้าของชื่อ "คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์" อดีตที่ทำการพรรคพลังประชาชนและพรรคไทยรักไทย 

เหตุผลในการย้ายอย่างเป็นทางการคือ อาคารเดิมคับแคบ-ไม่สะดวก 

เหตุผลตามหลัก "ฮวงจุ้ย" ที่กรรมการบริหารพรรคบางคนพูดเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจคือ ที่ทำการพรรคใหม่มีชื่อ "เพชร" (เพชรบุรีตัดใหม่)เป็นชื่อถนน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี มีคุณค่า มีความแข็งแกร่ง

แต่เหตุผลที่ถกเถียง-ปรึกษาหารือกัน ในบรรดาคณะผู้บริหารพรรคคือ "ฮวงจุ้ย" และผู้มีอำนาจจริงในพรรค ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า "ฮวงจุ้ย" ที่ตึกไอเอฟซีทีเก่าดีกว่า 

อีกประเด็นที่เป็นน้ำหนักในการย้ายพรรคคือ ย้ายออกจาก "ความอัปมงคล" ในตึกเก่า เพราะที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรม" 7 วัน 7 ความเจ็บปวด" ได้มีการแสดงนิทรรศการ"เหมือนจริง" มีเลือดจริง สีเสียงปืนคล้ายเสียงยิงจริง ๆ และมีภาพคนตายที่อุจาดตาเป็นจำนวนมาก  

นอกจากนี้ยังมีการ "ติดโบสีดำ" ทั่วทั้งพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเข้าอาคาร-บันได-หน้าลิฟต์ และบันไดเลื่อน ทำให้เกิดความอัปมงคลและเกิดอาการหลอน และตามความเชื่อของ "เจ้าของตึก" ที่เห็นว่า "สีดำ-โบดำ" เป็นความอัปมงคล ทำให้เกิดความมัวหมอง มีแต่ความตกต่ำ ทำมาหากินไม่ขึ้น ไม่รุ่งเรือง วาระการย้ายพรรค-ปรับฮวงจุ้ยออกจากความอัปมงคลจึงเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการปรับหัวหน้า "ก๊ก" หัวหน้า "มุ้ง" ต่าง ๆ ใหม่อีกครั้ง และหากมีการเจรจาลงตัว ก็จะมีการปรับ-เปลี่ยน "หัว" หมายเลขหนึ่งของพรรคอีกครั้ง 

นอกจากจะปรับฮวงจุ้ยแล้ว พรรคเพื่อไทยอาจเปลี่ยนหัวหน้าพรรคด้วย 

ทางหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาทางโหราศาสตร์


ทางหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาคณิตศาสตร์การเมือง ที่เคยมีสมการว่า "เพื่อไทยแม้ชนะเลือกตั้งก็ไม่อาจเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล" 

ดังนั้นการรีแบรนด์ปรับเปลี่ยนทั้งที่ตั้ง-ทั้งหัวหน้า-ทั้งหัวหน้าก๊ก อาจทำให้พรรคเพื่อไทยไฉไลกว่าเก่า 

อย่างน้อยก็มีการเปิดตัว "พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร" เตรียมลงสมัคร ส.ส.ในจังหวัดราชบุรี เพื่อเชื่อมไปยังหัว-ตัวจริง ที่รอจังหวะ-เวลา ที่เป็นฤกษ์งามยามดี 

ชื่อ "พล.อ.ชัยสิทธิ์" แม้เคยถูกปฏิเสธจาก "นายหญิง" แต่การกลับมาเปิดตัวรอบใหม่ ภายใต้การสนับสนุนหน้าฉากของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พ.อ.อภิวันท์ วิริยชัย นายจตุพร พรหมพันธุ์ และทีมภาคกลาง อาทิ ไชยยา สะสมทรัพย์ อาจทำให้คนเบื้องหลังจากต่างประเทศเห็นประโยชน์ 

พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ศึกษาข้อมูลพื้นที่ไว้ล่วงหน้า ประกาศบนเวทีปราศรัย ในพื้นที่ราชบุรีว่า คนในราชบุรีไม่ได้รับการเหลียวแลจาก ส.ส.ในพื้นที่ ปล่อยให้ ชาวบ้านอยู่ตามยถากรรม 

"ไม่ได้รับการสนับสนุนเกี่ยวกับการทำการเกษตร ทั้ง ๆ ที่ราชบุรีมีของดีหลายอย่าง เป็นเมืองเศรษฐีตัวยง ถึงขนาดมี คำกล่าวว่า ของตก ไม่ต้องเก็บ" 

"ส่วนตัวมาคิดว่า บั้นปลายชีวิตจะช่วยเหลือประเทศชาติอย่างไร และเห็นว่า ส.ส.ราชบุรีในอดีตไม่ได้มีวิสัยทัศน์ที่จะ นำความเจริญมาสู่ท้องถิ่น"

"วันก่อนผมไปสวนผึ้งก็เห็นว่าเป็นสถานที่ที่มีศักยภาพ ควรพัฒนาเป็นแหล่ง ท่องเที่ยว เพราะบรรยากาศเหมือนปากช่อง อากาศเย็น แต่ตอนนนี้มีป้ายขนาดใหญ่ ติดอยู่ทำให้เสียบรรยากาศ นอกจากนั้นหากมีโครงการเปิดด่านแม่สอด, สระแก้ว ถ้าเจาะไปทวาย ใคร ๆ ก็ต้องผ่านราชบุรี ดังนั้นต้องเลือกเราเป็นรัฐบาล" 

ในฐานะคนจากตระกูล "ชินวัตร" ต้องส่งสัญญาณให้ชาวบ้านและเจ้าของพรรค ได้รับทราบ การลงพื้นที่-ทำหน้าที่ทวงอำนาจคืน "พล.อ.ชัยสิทธิ์" จึงต้องปราศรัยไฟต์บังคับถึง "ทักษิณ" 

"หลวงปู่โตทำนายว่า สมัยนี้เป็นถิ่นกาขาว เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ใครทำชั่วได้รับการสรรเสริญ ใครทำดีเขาไม่ยกย่องและกลับให้ไปอยู่ต่างประเทศ" พล.อ. ชัยสิทธิ์ อุปมาอุปไมย 

ท่ามกลางกระแสการดูด ส.ส. ออกจากพรรคเพื่อไทย การตักปลาจากบ่อเพื่อน ย้ายจากพรรคใหญ่ไปอยู่พรรคใหม่ และอยู่ในขั้วของรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย

ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนตัว-เปลี่ยนหัวหน้าพรรค-สลับหัวหน้าก๊ก ปรับโครงสร้างพรรคของเพื่อไทย 

กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย 1 ใน 13 คน ซึ่งถูกจัดให้เป็น "ทีมซี-แถวสาม" เป็นตัวสำรองเกือบทุกแมตช์ในการแข่งขันวิเคราะห์ว่า "ราคาการย้ายพรรคช่วงนี้ยังไม่พุ่งติดเพดาน แต่จะพุ่งทะลุเพดานช่วงก่อนการเลือกตั้ง" 

และถ้าใครไม่แคร์ กระแส และราคาการต่อรองกับหัวคะแนน และการโหวต ในพื้นที่ ก็ไม่ยากที่จะตัดสินใจไปร่วมงานกับภูมิใจไทย 

การปั่นราคาซื้อ-ขายตัวของ ส.ส.ถึงจะมีความหวือหวาจากระดับราคา 20 ล้านบาท พุ่งเป็น 50 ล้านบาท แต่การต่อรองนี้จะค่อย ๆ หายไปจากกระดานการซื้อ-ขาย เพราะคนในพรรคเพื่อไทยยังมีความเชื่อว่า "หากไม่ใช่พวกทักษิณก็จะสอบตก" 

ข้อวิเคราะห์ของคนวงใน-เพื่อไทยบอกว่า "หมัดเด็ดไม้ตายของการย้ายพรรคจึง ไม่ได้อยู่ในจังหวะเวลาขณะนี้ ที่ยังไม่มีการประกาศวันเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเลือกตั้งจากสาเหตุการครบวาระ หรือยุบพรรค-ยุบสภา แต่เงื่อนไขที่น่าสนใจคือ หาก ส.ส.ปัจจุบันและว่าที่ผู้สมัครในอนาคตยังแสดงความภักดี เป็นสมาชิกพรรค ภายใต้ร่มเงากลุ่ม ก๊วนของทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ในสังกัดเสื้อแดง-นปช.ก็มีโอกาสได้เป็น ส.ส.มากกว่า" 

สมาชิกพรรคเพื่อไทยจึงประกาศ ล่วงหน้าว่า หากใครย้ายพรรคไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม ให้เตรียมพบกับคีย์เวิร์ดใน การหาเสียงจากฝ่ายเพื่อไทยว่า "เป็นพวกทรยศ หักหลัง" 

การย้ายที่ทำการพรรค-ปรับฮวงจุ้ย ทางหนึ่งมีกรรมการบริหารพรรคบอกว่า อาจเกี่ยวข้องกับคดียุบพรรคเพื่อไทย 

เหตุผล-ความเป็นไปได้ของคนแถวสาม-ทีมซี-ตัวสำรองในเพื่อไทยวิเคราะห์ "ยุบเพื่อไทย" ด้วย 2 เหตุผล 

เหตุที่ 1 ไม่จำเป็นต้องยุบพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะเชื่อว่าที่ผ่านมาการยุบแต่ละพรรคที่ผ่านมานั้นมุ่งหวังที่จะเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของบรรดาบุคคลระดับกรรมการบริหารพรรคให้หมดคุณสมบัติพื้นฐานของการมีสิทธิทางการเมืองอื่น ๆ ตามมา ในแง่นี้จึงไม่ได้อยู่บนสมมุติฐานว่า การยุบพรรคเป็นไปเพื่อต้องการทำลายล้างสถาบันพรรคการเมืองมากเท่ากับการจำกัดบทบาทกลุ่มบุคคลไม่ให้มีบทบาทหน้า ฉากทางการเมืองออกไป 5 ปี 

เมื่อพิจารณาจากแนวความคิดเช่นนี้ บวกกับข้อเท็จจริงจากรายชื่อของกรรมการบริหารพรรคในปัจจุบัน ซึ่งไม่มีใครที่มีบทบาทให้เห็นเด่นชัดพอที่จะถูกกำจัดออกไป พรรคเพื่อไทยจึงไม่น่าถูกยุบด้วยเหตุไม่มีเป้าต้องถูกทำลายในระดับกรรมการบริหารพรรค

เหตุที่ 2 คือจังหวะที่พรรคเพื่อไทยจะถูกยุบมีความเป็นไปได้อีกครั้งในช่วงหลังเลือกตั้ง ที่บรรดาผู้สมัครทั้งอดีต ส.ส. และผู้สมัครหน้าใหม่ผ่านด่านได้เข้ามาชุบตัวเข้าสภาได้เป็น ส.ส.เรียบร้อย ปัญหาเรื่องสังกัดพรรคไหน อันเป็นจุดขายในการหาเสียง เริ่มหมดความสำคัญลงไป ความเป็นพรรคเพื่อไทยก็อาจต้องถูกยุบไป โดยความต้องการสลายความเป็นพรรค การเมืองมากกว่าสลายกลุ่มบุคคลผู้เป็นกรรมการบริหารพรรค 

"เพราะหากถึงวันนั้น ภาพของ ส.ส.ที่แตกกระจายเป็นผึ้งแตกรังย่อมบินไปซบพรรคขนาดกลางหรือพรรคขนาดใหญ่ฝ่ายตรงข้าม โดยไม่ต้องแคร์ข้อครหาทรยศทักษิณอีกต่อไป" 

การปรับฮวงจุ้ย-หนีความอัปมงคล-ดับข่าวการย้ายพรรค ปรับโครงสร้างพรรค เปลี่ยนตัวหัวหน้าก๊ก หาตัวหัวหน้าพรรค คนใหม่ อาจทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับข่าว "มงคล"เพิ่มขึ้นบ้าง

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์