เพื่อไทย ระดมแกนนำ ลงพื้นที่หาเสียง ช่วย ก่อแก้ว


แกนนำพรรคเพื่อไทย ระดมกำลังลงพื้นที่ ตลาดคู้บอน เพื่อช่วยนายก่อแก้ว พิกุลทอง หาเสียง ชิงเก้าอี้ ส.ส.กทม.เขต 6 ...

แกนนำและส.ส.ของพรรคเพื่อไทย นำโดย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินตลาดสดคู้บอน เขตคลองสาม เพื่อช่วยรณรงค์หาเสียงอย่างเป็นทางการครั้งแรกให้กับนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 6 หมายเลข 4 ที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพด้วยข้อกล่าวหาก่อการร้าย

โดยพรรคเพื่อไทยระดม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคจำนวนมาก เดินแจกจ่ายบัตรแนะนำตัวผู้สมัครฉบับที่มีจดหมายของ นายก่อแก้ว จากเรือนจำ อาทิ น.ส.สุนีย์  เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค นายพร้อมพงศ์  นพฤทธิ์ โฆษกพรรค นายวิชาญ  มีนชัยนันท์ ผอ.เลือกตั้ง น.อ.อนุดิษฐ์  นาครทรรพ นายไพโรจน์  อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กทม. นายนที สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์  สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย นายอนันต์  ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี นายเกรียติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ นางบุญรื่น ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ  แกนนำคนเสื้อแดง นายประแสง มงคลศิริ อดีตส.ส.อุทัยธานี พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางบรรยากาศไม่คึกคักเท่าไหร่ โดยเนื้อหามุ่งเรียกร้องให้ชาว กทม. เลือกฝ่ายประชาธิปไตยเลือกผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย และชี้แจงว่าคนเสื้อแดงและนายก่อแก้ว ไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายอย่างที่รัฐบาล กล่าวหา               

นายวิชาญ ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ว่า เสียงตอบรับจากประชาชนดีมาก ส่วนกรณีที่รัฐบาลยังคงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น วิตกว่าจะส่งผลต่อการจัดเวทีปราศรัยที่ต้องระดมผู้ปราศรัยขึ้นเวที เพราะไม่ทราบว่า ศอฉ. จะมองว่าเป็นการยุยงหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าการหาเสียงบนเวทีปราศรัย ต้องมีประเด็นการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลด้วย ดังนั้นเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย จะทำหนังสือไปสอบถามถึงระเบียบข้อปฏิบัติกับ กกต.ว่าผู้สมัครและทีมจะสามารถหาเสียงอย่างไรได้บ้าง รวมไปถึงหลังจากวันที่ 2 ก.ค.นี้ ที่เป็นวันปิดรับสมัครผู้สมัคร กกต.จะเชิญ ผอ.เลือกตั้ง และผู้สมัคร ไปรับฟังคำชี้แจงข้อปฎิบัติต่างๆ ตนจะสอบถาม กกต.ให้ละเอียดในเรื่องนี้อีกครั้ง

ส่วนการยื่นขอประกันตัว นายก่อแก้ว นั้น ทนายความได้ยื่นขอต่อศาลไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับอนุญาต และทีมทนายจะยื่นขอต่อศาลอีกครั้ง เพื่อให้ผู้สมัครออกมาพบปะประชาชนได้

ส่วนการที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการ ผบ.ตร.ระบุว่าจะมีการลอบสังหารนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นายวิชาญ ตอบว่าเห็นว่าคนที่เป็นถึงผู้นำประเทศ และรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่น่าที่จะออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะคนระดับนี้ยังไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คนในประเทศก็คงจะไม่มีใครปลอดภัย และยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนานาชาติด้วย

ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า โครงการ 6 วัน 63 ล้านความคิด ของรัฐบาลนั้น โครงการดังกล่าวสร้างภาพที่เสียทั้งเวลาและเงินทอง ไม่น่าจะประสบความสำเร็จในเรื่องปรองแดง เป็นเพียงอีกหนึ่งโครงการที่ไม่มีน้ำยาของรัฐบาล สิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการมันสวนทางกับความเป็นจริง เห็นได้จากกรณีของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ที่เป็นนักกิจกรรมทางสังคม และเป็นเหยื่อที่ออกมาเรียกร้องแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แค่นำผ้าแดงไปผูกที่สี่แยกราชประสงค์ ยังโดนข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นำตัวไปคุมขังอยู่ ถือเป็นการกระทำที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดของรัฐบาล

นอกจากนี้ยังมีกรณีของนายเพิ่มสุข ใจเย็น ชาวนครพนม ที่มาชุนนุมกับกลุ่มนปช.หลังมีข้อตกลงว่า มีเขตอภัยทานและจะนำส่งกลับบ้าน จึงไปรออยู่ที่วัดปทุมวราราม แต่กลับถูกยิงที่ต้นขา และถูกนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ได้ส่งตัวกลับไปที่บ้านแล้ว แต่นายเพิ่มสุข ต้องการร้องเรียนค่ารักษาพยาบาล จากทางภาครัฐที่เมื่อนำใบรับรองแพทย์ไปขอค่าใช้จ่าย กลับพบว่าหากต้องการเรียกร้องค่าเสียหายก็จะถูกควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การปฏิบัติเช่นนี้เปรียบเสมือนว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินกำลังเล่นงานประชาชน

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ารัฐบาลอาจมีจ้างล็อบบี้ยิสต์นั้น พรรคเพื่อไทยเห็นว่ารัฐบาลเป็นผู้บริหารประเทศ การดำเนินการเพื่อตอบโต้ทางการเมืองเป็นการดำเนินการที่ไม่สมควร รัฐบาลควรที่จะหันมาพูดคุยกับแบบที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ  เสนอมากกว่าที่จะต่อต้านกันแบบนี้ เพราะหากเกิดการเจรจาและได้แผนที่จะไปปฎิบัติจะดีกว่าที่เสียเงินไปจ้างบุคคลเหล่านี้เข้ามาทำให้ประเทศไร้สันติอีก

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ระบุว่าจะมีการลอบสังหารนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงนั้น  รักษาการ ผบ.ตร. ไม่น่าที่จะออกมาพูด เพราะคนระดับนี้ยังไม่มีความปลอดภัย ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย รวมไปถึงองค์กรต่าง ๆ ของประเทศก็ได้รับความเสียหายจากคำพูดเหล่านี้ ตนจะตรวจสอบอีกทีหนึ่งว่าการออกมาพูดเช่นนี้ส่งผลกับการเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น อาจยื่นเรื่องให้กับทาง กกต.เพื่อเข้าตรวจสอบต่อไป 

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า กรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งคำขวัญให้นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่เป็นการพูดในระหว่างที่มีประกาศพ.ร.ก.เลือกตั้ง ถือว่าอยู่ในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อความดังกล่าวมีลักษณะใส่ร้ายป้ายสี ทั้งที่ข้อเท็จจริงข้อหาฯก่อการร้ายนั้นเป็นเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนเท่านั้น แต่ตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายต้องถือว่านายก่อแก้ว ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ การกระทำดังกล่าวทำให้ประชาชนที่ได้รับฟังไม่ลงคะแนนเสียงให้นายก่อแก้ว และลงคะแนนให้ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์  เข้าข่ายกระทำ พ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส. มาตรา 53(5) และผิดตามมาตรา 137 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี

นอกจากนี้ ยังเป็นเหตุที่จะทำให้ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ถูกร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้ด้วย  ดังนั้นจึงได้รวบรวมหลักฐานการให้สัมภาษณ์ เป็นภาพและเสียง เพื่อยื่นเรื่องต่อ กกต.ในวันที่ 5 ก.ค. เวลา 10.00 เพื่อให้ กกต.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้าน นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน และฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องชี้แจงในเรื่องการมอบทุนการศึกษาของ นายก่อแก้ว ไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเป็นการกระทำโดยปกติที่มาก่อนการเลือกตั้ง จึงต้องการบอกผ่านสื่อแจ้งให้ กกต.ได้ทราบ เพราะเกรงว่าจะมีผู้ที่คอยจำผิดจะนำมาเป็นข้อร้องเรียน นายก่อแก้วได้               

สำหรับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ  มีหนังสือถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งถึงการกระทำที่ไม่สมควรเกิดขึ้น หลังจากที่นายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนนทบุรี ทนายผู้รับมอบอำนาจไปรับเอกสารสำคัญในคดียุบพรรค ออกจากศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่ชอบนั้น นายพีรพันธุ์ พาลุสุข  ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย  แถลงว่าคณะกรรมการด้านกฎหมายติดตามคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ของพรรคเพื่อไทย เห็นว่ากรณีพรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าจุดที่รับมอบเอกสารจากเคาน์เตอร์รับเอกสาร ของศาลฯและจุดที่นายทศพล นัดแนะกับเจ้าหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อรับมอบเอกสารสำคัญทางคดี ที่อยู่ภายนอกศาลรัฐธรรมนูญนั้น อยู่ห่างกันเพียง 5- 10 เมตร

ดังนั้นวันที่ 2 ก.ค. เวลา 10.00 น.ทีมกฎหมายฯจะลงพื้นที่นำสื่อมวลชนไปดูจุดที่เกิดเหตุ ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษพรรค กล่าว่า เราจะไปจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไปนายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  พรรคเพื่อไทยทราบอยู่แล้วว่า นายทศพล คบหากับตุลาการท่านหนึ่ง  และไม่ขอยืนยันว่ามีการเกี่ยวพันกันหรือไม่ แต่ตอนนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดที่นายทศพลก่อขึ้นมา พรรคเพื่อไทยเห็นถึงความสำคัญที่ศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งมาที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่แทนที่จะกำราบนายทศพล กลับออกโรงปกป้อง ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์