เปิดใจเสนาะ-อุทัย-คณิต คนใกล้ที่รู้ทันทักษิณ

เปิดใจเสนาะ-อุทัย-คณิต คนใกล้ที่รู้ทัน"ทักษิณ"

"เสนาะ" กรีดยับ "ทักษิณ" ผู้นำต่ำต้อย ระบุสุดทนแทรกแซงผู้ว่าฯ สตง. "อุทัย" เสียความรู้สึกทำระบบสภาไร้ความหมาย "คณิต" จำต้องถอยเพราะเห็นเป็นคน"เว้นแต่ไม่วรรค"

วันที่ 17 เม.ย.สำนักพิมพ์ ฃอคิดด้วยฅน ได้จัดพิมพ์หนังสือ รู้ทันทักษิณ 4 ฅนวงใน The Insiders ผู้เขียนที่น่าสนใจคือ นายเสนาะ เทียนทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย และหัวหน้ากลุ่มวังน้ำเย็น นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา นายคณิต ณนคร อดีตอัยการสูงสุดและอดีต 1 ใน 23 ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย

และนายกร ทัพพะรังสี อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและอดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา แต่ในหนังสือเล่มดังกล่าว นายกรได้แจ้งกองบรรณาธิการว่า ขอให้ถอดต้นฉบับออกไป ทั้งๆที่ตีพิมพ์ปกหน้าแล้วแต่กองบรรณาธิการอ้างว่าเผยแพร่ข้อมูลไปให้สื่อมวลชนแล้ว นายกรก็ไม่ได้กล่าวอะไร

นายเสนาะ ได้เขียนในหัวข้อ จะเอาทักษิณ หรือประเทศไทย มีเนื้อหาสาระที่สำคัญว่า รู้จักพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ตั้งแต่ปี 2529 แบบผิวเผิน แต่รู้ดีขึ้นเมื่อพ.ต.ทักษิณได้เข้ามาสนับสนุนปัจจัยการเมืองผ่านไปทางพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ขณะนั้น

นายเสนาะ ระบุว่า หากต้องการจะรู้ทัน พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้าใจเสียก่อนว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนอย่างไร เพราะลักษณะเฉพาะและตัวตนของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมการใช้อำนาจและบริหารราชการแผ่นดินเองทั้งหมดนั้นประกอบขึ้นมาเป็นระบอบทักษิณ ซึ่งมีทั้งระบบการใช้อำนาจและการแสวงหาผลประโยชน์อยู่ร่วมกัน

"เสนาะ"กรีดรู้ดีแต่แต่ไร้ภาวะผู้นำ

พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนมีวุฒิการศึกษาแต่ขาดวุฒิภาวะการเป็นผู้นำ ไม่มีสภาวะผู้นำโดยเฉพาะในระดับประเทศ เป็นคนไม่มีประสบการณ์ในการบริหาราชการ แม้เคยรับราชการตำรวจก็อยู่ไม่นาน และใช้เวลาว่างไปกับการประกอบธุรกิจ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักเสี่ยงโชค ขาดความรอบคอบ เคยประสบปัญหาทางธุรกิจ แลกเช็คและถูกฟ้องเช็คเด้ง นิยมบริหารธุรกิจแบบคิดไว ทำไวโดยใช้การตลาดเป็นเครื่องมือ

พ.ต.ท.ทักษิณเคยบอกว่า อำนาจอยู่ที่เรา กกต.ก็ของเรา คนก็บอกเรา ล่าสุดก่อนการเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 มีการกระทำผิดกฎหมาย คือ ขนคนมาฟังการปราศรัยโดยจ้างมา ผิดกฎหมายแน่นอน แต่ กกต.กลับเฉย ด้วยเหตุนี้รัฐมนตรีบางคนช่วงเทศกาลเลือกตั้งมักมีบัตรเลือกตั้งที่พิมพ์เกินอยู่เต็มรถ จึงได้รับการฟูมฟักอย่างดี เหนียวแน่น ถูกเรียกใช้งานบ่อยๆ ในช่วงหลัง" นายเสนาะกล่าวและว่า

ฟางเส้นสุดท้ายแทรกแซงผู้ว่าฯสตง.


สิ่งที่สุดทนจริงๆคือกรณีผู้ว่า ฯสตง. ที่ถูกแทรกแซงการทำงาน เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่สำคัญ ที่ทำให้ตนลุกขึ้นอภิปรายเมื่อ 8 มิ.ย.2548 เป็นการประกาศตัดขาดแตกหักกลางสภาฯ พูดได้ว่า "ถ้ามันเอาชีวิตได้มันเอาไปแล้ว มันแค้น แต่ก็ไม่กล้า" ตอนหลังคนของ พ.ต.ท.ทักษิณก็ติดต่อมาหลายครั้ง ตนพูดตรงๆไปว่า เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เมื่อไม่ยอมลดละเอง ก็าต้องแตกหักไปสู่สาธารณชน

มักใช้กติกูมากกว่ามติสภา


นายอุทัย เขียนบทความที่ชื่อว่าทักษิณไม่ใช่ผู้นำสำหรับระบอบประชาธิปไตย โดยมีสาระสำคัญว่า จุดเริ่มต้นที่เข้าไปร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ตรงช่วงรอยต่อของการเริ่มต้นใช้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และมีคนชวน เมื่อเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นๆ ซึ่งขณะนั้นมีเพียง 4 คนคือ นายชวน หลีกภัย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายบรรหาร ศิลปอาชา และพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อลองชั่งดูพบว่าพ.ต.ท.ทักษิณ หนุ่มที่สุด สดที่สุด เหมือนเครื่องยนต์ใหม่

ผมเคยตั้งคำถามตอนที่คุณทักษิณเคยประกาศว่าจะเป็นพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ แต่ไปดึงเอากลุ่มการเมืองเก่าๆ เข้ามาสู่พรรคสงสัยว่าทำไมไม่เอาคนที่มีความคิดอ่านใหม่ๆ บริสุทธิ์ทางการเมือง แต่ไปเอากลุ่มการเมืองเข้ามาเป็นมุ้งโน้นมุ้งนี้เดี๋ยวก็มีปัญหาอีก คนสนิทของคุณทักษิณที่เป็นคนใกล้ชิดมากบอกผมว่า ถ้าเอาอย่างที่ผมว่าไม่ได้เป็นนายกฯ แน่คิดว่ายังไงก็ให้ได้คะแนนมาก่อน นายอุทัย กล่าวและว่า

เมื่อใช้มติพรรคไทยรักไทยเป็นตัวกำหนดกฎหมาย ในที่สุดก็เป็นคนไม่กี่คนที่กำหนดกฎหมาย ระบบสภาก็ไม่มีความหมาย ตนเริ่มมองเห็นถึงความไม่เป็นดังหวังมองว่าไม่จริงใจ เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ผู้นำที่จะมาปูพื้นฐานระบอบประชาธิปไตยของประเทศผ่านท่าทีและแนวทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลายประการ

นายอุทัย กล่าวว่า มี 3 ประการที่สะท้อนชัด 1.ไม่พยายามทำพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองอย่างแท้จริง มีเงินมีโอกาสแต่ไม่มีการตั้งสาขาพรรค 2. พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ให้ความสำคัญกับรัฐสภา งานสำคัญอย่างงบประมาณแผ่นดินบางครั้งก็ไม่อยู่ จะขอบใจสภาสักคำก็ไม่มี 3. การให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแบบซีอีโอ ไม่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย

นายอุทัย กล่าวว่า ทางออกนั้นมีไม่ใช่ไม่มี คนใกล้ชิดที่เคยป้อนลูกยอ ลูกยุก็ต้องเปลี่ยนเป็นลูกแย้งบ้าง บอกกันและเตือนกันบ้าง พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะรับฟัง เพราะคนอื่นพูดจะไม่ฟังเพราะพิษยาทำให้คิดว่าคนอื่นเป็นศัตรู ดีที่สุดขอให้คนรอบข้างพูดแล้วยอมรับว่ายาที่กินอยู่มันเป็นยาผิด

"คณิต"พ้อเป็นคนชอบยกเว้นแต่ไม่วรรค


ด้านนายคณิต ณ นคร เขีบนบทความเรื่องเปิดใจ ศ.ดร.คณิต ณ นคร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทยโดยมีรายละเอียดว่า สาเหตุที่ตัดสินใจเข้าร่วมพรรคกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะบอกว่าจะเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกที่เกิดขึ้นหลังจากปฏิรูปทางการเมือง และในการทำงานพรรคการเมืองจะตั้งคณะหรือกลุ่มคนทางวิชาการ และเรื่องไหนที่สำคัญจะจัดให้มหาวิทยาลัยทำวิจัย นอกจากนี้เรื่องเอ็นจีโอ ที่มองว่าเขาทำงานด้วยใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกกับตนว่า อยู่ในใจอยู่แล้ว

นายคณิต เล่าถึงสาเหตุที่ออกจากพรรคไทยรักไทยว่า ต่อมาไม่เป็นจริงอย่างที่คิดไว้ หลักที่วางไว้เริ่มมีข้อยกเว้นมากขึ้น

"ผมรู้สึกไม่สบายใจกับข้อยกเว้นในการสรรหาคนเข้าพรรค แม้ว่าข้อยกเว้นเหล่านี้จะไม่ได้มาจากคุณทักษิณ โดยตรง หรือท่านอาจจะไม่กล้าพูดกับผม เมื่อเป็นแบบนี้ผมก็ไม่ค่อยสบายใจ ผมจึงลาออกจากรองหัวหน้าพรรค 2 วัน ก่อนจะมีการประชุมพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค ก่อนจะออก ผมได้เรียนกับอาจารย์ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ว่า ปัญหาหลักที่ผมประสบคือการสรรหานักการเมือง ตอนนั้นท่านปุระชัยไม่ได้รั้งผม" นายคณิต กล่าว

นายคณิต มองว่า สาเหตุที่คุณทักษิณต้องเสื่อมหรือมีปัญหาเพราะความเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป และการฟังคนรอบข้างที่อยู่ในสถานะลูกน้องกับเจ้านายไม่ฟังคนนอกที่อยู่ในระบอบรัฐสภา แม้กระทั่งสื่อมวลชน ประชาชน นักวิชาการ ซึ่งจำเป็นมากที่ต้องฟัง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์